อธิบายเรื่อง Agentic AI ปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ “ตัวแทนมนุษย์” พร้อมวิธีปรับใช้ ในมุมการตลาด

อธิบายเรื่อง Agentic AI ปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ “ตัวแทนมนุษย์” พร้อมวิธีปรับใช้ ในมุมการตลาด

14 ก.พ. 2025
ปัจจุบันเมื่อพูดถึงคำว่า AI ก็แทบจะไม่มีใครบอกว่า “ไม่รู้จัก” และน่าจะเคยใช้ AI ช่วยทำงานในเรื่องต่าง ๆ กันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น
ผู้ช่วยส่วนตัว ช่วยตอบคำถาม ในชีวิตประจำวัน
ผู้ช่วยสร้างสรรค์ผลงาน สร้างรูปภาพ คิดข้อความ ช่วยคิดหาไอเดียใหม่ ๆ
หรือแม้แต่การทำงานเฉพาะด้าน เช่น วิเคราะห์ข้อมูลยาก ๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ซึ่ง AI ที่เราใช้กันบ่อย ๆ ในทุกวันนี้ มีชื่อเรียกว่า Gen AI หรือที่ย่อมาจาก Generative AI
แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เริ่มมี AI ที่น่าสนใจแบบใหม่ เรียกว่า “Agentic AI” หรือบางครั้งก็เรียกสั้น ๆ ว่า “Agent AI”
แล้ว Agentic AI คืออะไร ? แล้วจะนำมาใช้ในการทำการตลาดได้อย่างไรบ้าง ?
คำว่า Agentic AI หากแปลแบบตรงตัวจะมีความหมายว่า “AI ตัวแทน”
เพราะความสามารถของ Agentic AI คือปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานได้อย่างอิสระ โดยสามารถคิด และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ระบุไว้ จนเหมือนเป็นตัวแทนในการทำงานต่าง ๆ แทนคนได้
แตกต่างจาก Gen AI ที่มีหน้าที่แค่สร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ หรือโมเดลสามมิติ
โดยอาศัยการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่เดิม และใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) เพื่อประมวลผล และสร้างสรรค์เนื้อหาต่าง ๆ ขึ้นมา
สำหรับ Agentic AI มักอยู่เบื้องหลังการทำงานขององค์กรใหญ่ ๆ เช่น การนำ Agentic AI มาใช้ช่วยในการวิเคราะห์ด้านการตลาด การจัดการสินค้าในคลัง และธุรกรรมของลูกค้า หรือแม้แต่ใช้เพื่อการจัดการทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร
เพื่อลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ หรือเสียเวลาสูง โดยให้ Agentic AI เข้ามาช่วยทำงานแบบอัตโนมัติ ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนก็จะพอเข้าใจความหมาย และวิธีการทำงานคร่าว ๆ ของ Agentic AI กันบ้างแล้ว
ทีนี้ เรามาดูกันว่า แล้ว Agentic AI จะนำมาประยุกต์ใช้ในมุมการตลาด ได้อย่างไรบ้าง ?
1. ใช้ Agentic AI เป็นแชตบอต ช่วยคุยกับลูกค้า
ตัวอย่างการนำ Agentic AI มาใช้ในด้านการตลาดที่ง่ายที่สุด คือ การนำมาใช้เป็นแชตบอต ช่วยคุยกับลูกค้า เพื่อตอบคำถาม หรือแก้ไขปัญหาที่ลูกค้ากำลังเจอได้ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคน ซึ่งเป็นพนักงานมาคุยกับลูกค้าด้วยตัวเอง
เช่น การแนะนำสินค้า นำเสนอแค็ตตาล็อก ดำเนินการสั่งซื้อสินค้าให้กับลูกค้า
รวมถึงช่วยตอบคำถาม เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ เหมือนมี Customer Service มาคุยกับลูกค้าจริง ๆ
โดย Agentic AI สามารถรองรับความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้าได้ เพราะไม่ได้ทำตามสคริปต์ที่กำหนดขึ้นเพียงอย่างเดียว เหมือนอย่างแชตบอตแบบดั้งเดิม
2. ใช้ Agentic AI ช่วยทำ Personalized Marketing
ตัวอย่างของการนำ Agentic AI มาใช้ในการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือ Personalized Marketing สามารถทำได้หลากหลาย เช่น
- นำมาใช้ในการทำ Email Marketing
โดยใช้ Agentic AI ช่วยปรับแต่งเนื้อหาในอีเมล ให้เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน
- นำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อทำการตลาดที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน ผ่านการทำงานของ Agentic AI ที่นำข้อมูลของลูกค้า เช่น พฤติกรรมการสั่งซื้อ และการตัดสินใจ มาวิเคราะห์ร่วมกับเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
- นำมาใช้คัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพสูง
โดยใช้ Agentic AI ในการวิเคราะห์เพื่อคัดกรองลูกค้าที่มีแนวโน้มการตัดสินใจซื้อสูง ทำให้ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายเซลส์ สามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. ใช้ Agentic AI ช่วยบริหารจัดการแคมเปญการตลาดแบบอัตโนมัติ
โดย Agentic AI สามารถเข้ามาช่วยบริหารจัดการแคมเปญการตลาด ซึ่งเป็นงานที่มีความซับซ้อน และใช้เวลาในการลงมือทำมาก
ซึ่งสิ่งที่ Agentic AI สามารถทำได้ คือการใช้ข้อมูลต่าง ๆ ที่มี เช่น Conversion Rate, Click-through Rate และ Bounce Rate ในการจัดการกับโฆษณา หรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) โดยอัตโนมัติ
รวมถึงสามารถช่วยทำการทดสอบวิธีการทำการตลาด (A/B Testing) ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยพนักงาน ซึ่งเป็นคนจริง ๆ เข้ามาจัดการ ทำให้นักการตลาดทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ คือ Agentic AI คำศัพท์ปัญญาประดิษฐ์ พร้อม Use Case จริง ที่เข้ามาช่วยทำให้นักการตลาด ทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น รวมถึงสามารถช่วยให้นักการตลาด ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งหากสังเกตกันดี ๆ จะเห็นว่า Agentic AI ยังมีการใช้งานที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง โดยเป็นการใช้งานในระดับองค์กร
แต่ในอนาคต ก็มีแนวโน้มว่า Agentic AI จะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปคุ้นเคย เหมือนอย่าง Generative AI เช่นกัน
เพราะอย่าง OpenAI ก็มีการพัฒนา “Operator” ที่มีความสามารถแบบเดียวกับ Agentic AI คือสามารถทำตามเป้าหมาย และความต้องการที่เราระบุได้ จนเหมือนเป็นเลขานุการส่วนตัว
เช่น จองร้านอาหาร จองโรงแรม ให้โดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำด้วยตัวเอง
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.