สรุปสูตร 3x3x3 วิธีใช้ #Hashtag บน TikTok ให้ดันยอดวิว

สรุปสูตร 3x3x3 วิธีใช้ #Hashtag บน TikTok ให้ดันยอดวิว

11 ก.ค. 2024
รู้หรือไม่ ? ในแต่ละวันมีคลิปวิดีโอถูกอัปโหลดขึ้น TikTok กว่า 34,000,000 คลิป
และมีวิดีโอมากกว่า 1,000,000,000 คลิป ที่ถูกรับชมผ่าน TikTok ต่อวัน
ในประเทศไทยเอง TikTok กำลังเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มาแรง
โดยปีนี้ มีบัญชีผู้ใช้งาน 44.3 ล้านบัญชี แซงหน้า YouTube ที่มีบัญชีผู้ใช้งาน 44.2 ล้านบัญชี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุนี้ TikTok จึงนับว่าเป็นช่องทางในการสร้างแบรนด์หรือทำการตลาด ที่แบรนด์ต่าง ๆ ไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป
แต่คำถามก็คือ ถ้าในแต่ละวันมีวิดีโอใหม่ ๆ ถูกอัปโหลดกว่า 34,000,000 คลิป
แล้วเราในฐานะแบรนด์ จะทำอย่างไรให้วิดีโอ 1 คลิปที่ลงไป สามารถสร้างเอนเกจเมนต์ เพิ่มยอดวิวให้กับแบรนด์ได้แบบง่าย ๆ ?
หนึ่งในวิธีการง่าย ๆ ที่แบรนด์ไหนก็ทำได้ คือ การใช้ “#” หรือที่เรียกกันว่า แฮชแท็ก (Hashtag)
แฮชแท็ก นับว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยเก็บรวบรวมคอนเทนต์ที่ถูกติดแฮชแท็กเดียวกัน มีเนื้อหาคล้ายคลึง ให้มาอยู่ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการได้ในแฮชแท็กเดียว
จริง ๆ แล้ว จุดเริ่มต้นของแฮชแท็ก เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับ Twitter หรือที่ตอนนี้ชื่อว่า X ในปี 2007
ซึ่งหลังจาก Twitter มีการนำแฮชแท็กมาใช้ แล้วพบว่า ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการได้จริง ปัจจุบันแพลตฟอร์มอื่น ๆ จึงนำแฮชแท็กมาใช้บ้าง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และ TikTok
โดยหลัก ๆ แล้ว การติดแฮชแท็ก จะประกอบไปด้วย # แล้วตามด้วยคำหรือวลีสั้น ๆ เช่น
#MarketThink
หากใครที่กำลังอ่านโพสต์นี้อยู่บน Facebook หรือ Instagram เมื่อกดเข้าไปในแฮชแท็กนี้ จะพบว่า เป็นแฮชแท็กที่ทางเพจรวบรวมอินโฟกราฟิกเกี่ยวกับการตลาด และธุรกิจ ทั้งหมดที่เคยทำไว้ในที่เดียว
ซึ่งข้อควรระวัง ที่คนส่วนใหญ่มักจะติดแฮชแท็กแบบผิด ๆ คือ
- ไม่ต้องเว้นวรรคระหว่าง # และคำที่ต้องการติดแฮชแท็ก
เช่น # MarketThink จะทำให้แฮชแท็กไม่ติด
- ไม่ใช้ตัวอักษรพิเศษ หรือเครื่องหมายต่าง ๆ อย่าง . , : ; - + = ?
เช่น #Market.Think จะทำให้คำว่า Think ไม่ถูกนับว่าเป็นคำที่ติดแฮชแท็ก
เมื่อรู้วิธีการติดแฮชแท็กคร่าว ๆ กันแล้ว
ทีนี้กลับไปคำถามที่ว่า ถ้าอยากติดแฮชแท็กบน TikTok เพื่อสร้างยอดวิว หรือยอดเอนเกจเมนต์ ให้กับแบรนด์ของเรา ต้องทำอย่างไร ?
TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีคอนเทนต์เป็นรูปแบบวิดีโอเป็นหลัก
โดยจุดเด่นของ TikTok คือ มีอัลกอริทึมที่คอยฟีดคอนเทนต์ตาม “ความสนใจ” ของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานได้รับคอนเทนต์แค่เฉพาะที่สนใจเท่านั้น
แม้เรื่องนี้จะเป็นข้อดีต่อผู้ใช้งาน แต่อาจเป็นข้อเสียต่อการสร้างแบรนด์ หรือทำการตลาดบน TikTok ได้ เพราะเมื่อ TikTok ฟีดคอนเทนต์แค่เฉพาะสิ่งที่ลูกค้าสนใจ อาจทำให้บางครั้งคอนเทนต์ของแบรนด์ไม่ได้ถูกฟีดไปหาผู้ใช้งาน
ทีนี้สิ่งที่แบรนด์ทำได้ ในการช่วยให้คอนเทนต์เข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้นคือ การติดแฮชแท็ก
โดยหนึ่งในกลยุทธ์การติดแฮชแท็กบน TikTok ให้ได้ผล คือ “กลยุทธ์ 3x3x3”
อธิบายง่าย ๆ กลยุทธ์ 3x3x3 คือ การติดแฮชแท็ก 3 ประเภท และติดแฮชแท็กอย่างมากที่สุดประเภทละไม่เกิน 3 แฮชแท็ก
โดย 3 ประเภทของแฮชแท็ก ได้แก่
1. แฮชแท็กที่กำลังเป็นเทรนด์ และเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์
แฮชแท็กประเภทนี้ จะช่วยเพิ่มการมองเห็น เพิ่มยอดวิว และเอนเกจเมนต์ให้กับคลิปวิดีโอที่แบรนด์ลง เนื่องจากเป็นแฮชแท็กที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากให้ความสนใจ
ซึ่งถ้าถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ไหนกำลังเป็นเทรนด์ ?
วิธีการเช็กง่าย ๆ
- วิธีแรกคือ พิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ ลงในช่อง Search บนแอปพลิเคชัน TikTok จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อเป็น Hashtags ก็จะเห็นว่า แฮชแท็กไหนบ้างที่เป็นที่นิยม
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแบรนด์ของเราเป็น ร้านคาเฟ่
แฮชแท็กที่ได้รับความนิยมจากการเซิร์ชบน TikTok เช่น #คาเฟ่ เป็นแฮชแท็กที่ถูกใช้ 750,900 ครั้ง, #รีวิวคาเฟ่ เป็นแฮชแท็กที่ถูกใช้ 138,900 ครั้ง
- วิธีที่สองคือ การค้นหาแฮชแท็กผ่าน TikTok Creative Center
ช่องทางนี้จะมีหัวข้อที่ชื่อว่า Trends และ HashTags เป็นช่องทางที่ช่วยให้เรารู้ว่าแฮชแท็กไหนกำลังเป็นที่นิยมบน TikTok แบบละเอียด
ทั้งจำนวนแฮชแท็กที่ถูกใช้, ยอดวิวผ่านแฮชแท็ก รวมไปถึง แฮชแท็กนั้น ๆ เป็นที่สนใจสำหรับกลุ่มคนอายุเท่าไร
โดยการดูแฮชแท็กยอดนิยมผ่าน TikTok Creative Center จะมีการแบ่งออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เช่น หมวดหมู่อาหาร, เสื้อผ้าและเครื่องประดับ, การศึกษา, เกม, สุขภาพ
รวมไปถึงยังสามารถดูข้อมูลแฮชแท็กยอดนิยมย้อนหลังได้ตั้งแต่ 7 วัน ไปจนถึง 120 วันที่ผ่านมา
อย่างในกรณีที่แบรนด์ของเราคือ คาเฟ่
เมื่อค้นหาแฮชแท็กในหมวดหมู่ อาหารและเครื่องดื่ม ย้อนหลัง 120 วัน จะพบว่า แฮชแท็กยอดนิยมที่เหมาะสำหรับแบรนด์ของเราคือ #ของกินอร่อย มียอดวิวรวม 340 ล้านวิว และ #ของอร่อย มียอดวิวรวม 251 ล้านวิว
2. แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือแคมเปญของแบรนด์
แฮชแท็กประเภทนี้ จะเป็นแฮชแท็กที่ช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ หรือแคมเปญต่าง ๆ ของแบรนด์ไว้ในที่เดียว
ยกตัวอย่าง 2 แบรนด์ที่ดังจาก TikTok มักจะมีแฮชแท็กที่ใช้ประจำ เช่น
- Emily’s แบรนด์เส้นหมี่ไก่ฉีก มักจะติด #เส้นหมี่ไก่ฉีกเอมิลี่ #Emilysเส้นหมี่ไก่ฉีก
- LOVEPOTION แบรนด์ลิปออยล์ มักจะติด #lovepotion
3. แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับสถานที่
แฮชแท็กประเภทนี้ จะช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้งานที่อยู่ใน ประเทศ จังหวัด หรือสถานที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งหรือหน้าร้านของแบรนด์มากขึ้น
ซึ่งนอกจากจะใส่เป็นแค่ชื่อจังหวัดอย่าง #กรุงเทพ ได้แล้ว ยังสามารถใส่แฮชแท็กควบคู่กับประเภทของแบรนด์ที่ทำอยู่ได้ เช่น #คาเฟ่ในกรุงเทพ หรือ #คาเฟ่เชียงใหม่
จาก 3 ประเภทแฮชแท็กนี้ สรุปได้ว่า หากเราในฐานะร้านคาเฟ่ สมมติชื่อร้านว่า ABCD
แฮชแท็กที่เราควรจะใช้บน TikTok เพื่อทำการตลาด และเพิ่มยอดวิวให้กับแบรนด์ ได้แก่ #คาเฟ่ #รีวิวคาเฟ่ #ของกินอร่อย #ABCD #คาเฟ่ABCD #คาเฟ่ในกรุงเทพ
จะเห็นได้ว่า จากทฤษฎีนี้ มีแฮชแท็ก 3 ประเภท และมีกฎว่า ไม่ควรใช้เกินประเภทละ 3 แฮชแท็ก
หมายความว่า หากใช้แฮชแท็กตามทฤษฎีนี้ แบรนด์จะใช้แฮชแท็กอย่างมากที่สุด “ไม่เกิน 9 แฮชแท็ก”
ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับสถิติของ Socialbakers แพลตฟอร์มช่วยจัดการโซเชียลมีเดีย ที่ระบุว่า การติดแฮชแท็กบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ควรเกิน 10 แฮชแท็ก
เพราะหากติดเกิน 10 แฮชแท็ก จะทำให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ลดยอดเอนเกจเมนต์ หรือการที่ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของแบรนด์ลดลงถึง 68.2% เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือ วิธีการใช้และเลือกใช้ #แฮชแท็ก บน TikTok แบบง่าย ๆ
ซึ่งหากแบรนด์ต่าง ๆ ทำการสร้างแบรนด์ หรือทำการตลาดผ่าน TikTok โดยใช้แฮชแท็กที่ถูกต้อง ก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดวิว หรือยอดเอนเกจเมนต์ให้กับแบรนด์ได้ไม่น้อย..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.