สรุปแผน KBTG เดินหน้าจากผู้นำ AI-First สู่ Human-First ขับเคลื่อนงานวิจัย ให้ใช้ได้จริง

ครั้งหนึ่ง KBTG เคยตั้งเป้าเป็นผู้นำในการก้าวสู่ยุค Mobile First
และด้วยการผลักดันในด้านต่าง ๆ ทั้งความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน K PLUS มีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน

เมื่อเป้าหมายแรกประสบความสำเร็จแล้ว
ในปี 2019 ทาง KBTG จึงตั้งเป้าหมายครั้งใหม่ สู่การเป็น “AI-First Organization” ที่มาพร้อมสูตรลับแห่งความสำเร็จอย่าง “M.A.D.”

แน่นอนว่า การจะก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย เหมือนอย่างแอปพลิเคชัน K PLUS ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากได้

สิ่งสำคัญคือ นอกจากจะเป็น AI-First ที่มีผลงานดี ๆ แล้ว
ยังต้องเป็น “Human-First” คือมีการประยุกต์ผลงานให้สามารถสร้างประโยชน์แก่คนหมู่มากให้ได้อีกด้วย

แล้วเส้นทางการก้าวเป็นผู้นำยุค AI-First ด้วยการผลักดัน Human-First ของ KBTG เป็นอย่างไร ?

ถ้าพูดถึงธุรกิจในทุกวันนี้ ต่างก็วางแผนในการนำ AI มาประยุกต์ใช้แทบทั้งสิ้น
เช่นเดียวกับ KBTG หรือ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป ที่ประกาศความพร้อมในการเป็น AI-First Organization มาตั้งแต่ปี 2019 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน

ซึ่งสูตรลับความสำเร็จในการก้าวสู่ AI-First ของ KBTG คือ M.A.D. (Machine Learning, AI และ Data)

แน่นอนว่า การก้าวสู่ผู้นำยุค AI-First ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
คุณเรืองโรจน์ แม่ทัพใหญ่แห่ง KBTG จึงเปิดเผยว่า สิ่งที่ KBTG ให้ความสำคัญในการพัฒนาสู่ผู้นำยุค AI-First แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก

1. การทำวิจัย (Research)
2. การนำมาประยุกต์ใช้จริง (Application)

ทีนี้ลองมาดูส่วนแรกกันว่า KBTG ทำวิจัย เพื่อเดินหน้าสู่ผู้นำยุค AI-First ถึงไหนแล้ว ?

ต้องบอกว่า แอปพลิเคชัน K PLUS ที่ใช้งานได้สะดวก รวดเร็วอย่างทุกวันนี้
ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผลงานวิจัยด้าน M.A.D. ของ KBTG ซึ่งมีการทำวิจัยในหลากหลายด้าน เช่น

- Facial Recognition ระบบจดจำใบหน้า
- Computer Vision เทคโนโลยี AI ที่ใช้วิเคราะห์ภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อเก็บข้อมูล
- Natural Language Processing เทคโนโลยีประมวลผลทางภาษา
- Deep Learning ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

ผลงานวิจัยด้าน M.A.D. เหล่านี้ เกิดขึ้นภายใต้ KBTG Labs ที่มีทีมนักวิจัยและพัฒนาด้าน AI ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย และการันตีด้านคุณภาพระดับสากล

สะท้อนได้จากการที่ในปี 2023 ที่ผ่านมา KBTG Labs มีผลงานวิจัยด้าน M.A.D. ที่ตีพิมพ์ทั่วโลกถึง 6 ฉบับ

รวมไปถึงยังมีการสนับสนุนงานวิจัยของคุณพัทน์ ภัทรนุธาพร นักศึกษาปริญญาเอกไทยคนแรกจาก MIT Media Lab ซึ่งได้ตีพิมพ์ใน Nature Machine Intelligence วารสารวิชาการระดับโลก

เท่านั้นยังไม่พอ KBTG Labs ยังมีการจับมือกับ MIT Media Lab ร่วมกันวิจัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น

- Future You แช็ตบอตที่จำลองตัวตนของผู้ใช้งานในอนาคต ให้สามารถโต้ตอบได้อย่างเรียลไทม์

- คู่คิด คู่หูน้องคะน้าและคชา ที่พร้อมให้คำปรึกษา และแนะนำแนวทางต่าง ๆในมุมมองที่แตกต่างกัน โดยผลลัพธ์ที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบกลับได้ โดยต่อยอดมาจากงานวิจัย K-GPT ที่ใช้ความสามารถของ ChatGPT มาประยุกต์

มาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่าที่ผ่านมา KBTG มีงานวิจัยมากมายขนาดไหน

อย่างไรก็ดี การเป็นผู้นำยุค AI-First ไม่ได้จบแค่งานวิจัยเพียงอย่างเดียว..
สิ่งสำคัญควบคู่กันคือ Human-First หรือการประยุกต์ผลงานวิจัยต่าง ๆ ให้สามารถใช้ประโยชน์กับคนหมู่มากได้จริง

เหมือนอย่างที่ คุณเรืองโรจน์ แม่ทัพใหญ่ของ KBTG กล่าวไว้ว่า
“การวิจัยเทคโนโลยี Deep Tech ขั้นสูงจะไร้ความหมาย หากไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มากได้

ดังนั้นการทำวิจัย และการนำงานวิจัยชิ้นนั้น มาประยุกต์ใช้จริงให้ได้ จึงเป็นเรื่องที่ KBTG ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก”

ทีนี้ ลองมาดูกันต่อว่า ที่ผ่านมา KBTG สามารถต่อยอดจากผลงานวิจัย สู่การประยุกต์ใช้ได้จริงหรือ Human-First อย่างไร ?

นอกจากแอปพลิเคชัน K PLUS ปัจจุบัน KBTG ได้มีการนำเทคโนโลยีและผลงานวิจัยด้าน M.A.D. มาต่อยอดใช้ประกอบกับผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารกสิกรไทยในด้านต่าง ๆ เช่น

ด้านการตลาด, สินเชื่อ, การป้องกันการทุจริต และการให้บริการ Call Center
ซึ่งการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าได้มากกว่า 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยี AI ที่ผ่านการวิจัยมาพัฒนาต่อยอด เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท เช่น

- เทคโนโลยีการยืนยันตัวตน และตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของการทำธุรกรรม (AINU)

- เทคโนโลยี AI ตรวจจับสภาพรถที่มีความเสียหาย และประเมินราคาค่าใช้จ่ายเบื้องต้นจากภาพถ่าย สำหรับใช้งานในธุรกิจประกัน (Car AI)

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างงานวิจัย และการนำมาประยุกต์ให้ใช้งานได้จริง

ซึ่งถ้าถามว่า เส้นทาง KBTG ในปี 2024 หรือปีหน้าเป็นอย่างไร ?

1. ทาง KBTG ยังมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำ AI-First ด้วยการผลักดัน Human-First หรือการนำผลงานวิจัยมาประยุกต์ให้ใช้งานได้จริงอย่างต่อเนื่อง

สอดคล้องกับที่คุณกระทิง กล่าวว่า
“KBTG มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเดินหน้าจาก AI-First สู่ Human-First เพื่อให้เกิดการนำเทคโนโลยีกลุ่มนี้มาประยุกต์ใช้งานได้จริง”

2. มีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ M.A.D.
เช่น คอร์สพัฒนาทักษะ จัดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

3. เปิดตัว KXVC กองทุนมูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนในสตาร์ตอัปด้าน AI, Web3 และ Deep Tech
เพื่อเป็นประตูที่จะนำเทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ และเงินทุนจากต่างประเทศ มาสู่ประเทศไทย

ทั้งหมดนี้คือ แผนการก้าวสู่การเป็นผู้นำยุค AI-First ด้วยการผลักดันด้วย Human-First ของ KBTG

หากให้สรุปสั้น ๆ บอกได้แค่ว่า “KBTG พร้อมที่จะเป็นผู้นำในยุค AI-First ด้วยการผลักดัน Human-First”

อธิบายง่าย ๆ คือ นอกจาก KBTG จะวิจัยและพัฒนาผลงานด้าน M.A.D. อย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่างเช่น Future You แช็ตบอตที่คุยกับตัวตนจำลองในอนาคตของตัวเอง หรือคู่คิด ที่เปรียบเสมือน ChatGPT เวอร์ชันภาษาไทย

สิ่งสำคัญคือ KBTG ยังจะเน้น Human-First ที่จะนำผลงานด้าน M.A.D. มาประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้จริง และเกิดประโยชน์กับคนหมู่มากอีกด้วย

ปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่า การที่ KBTG มุ่งมั่นในด้าน AI-First ใครได้ประโยชน์มากที่สุด ?

ต้องบอกว่า “ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ” นี่เอง ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด
เพราะจะได้เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยให้การใช้ชีวิต การทำงาน และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ง่ายขึ้น นั่นเอง..

#KBTG
#KBTGAIFirst #MAD #TechInnovation #HumanFirst #AIForGood" #AIFirst #KBTG #BeyondBanking #DigitalBanking #AITechnology #MachineLearning