KBTG จับมือ เมืองไทยประกันภัย พัฒนาระบบตรวจสภาพรถยนต์ด้วย AI ผ่านออนไลน์ เพียงไม่กี่นาที
14 ธ.ค. 2021
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า
โครงการแพลตฟอร์ม InsurTech เป็นการร่วมมือพัฒนานวัตกรรม ด้านประกันภัยครั้งแรกของ KBTG กับ เมืองไทยประกันภัย
โครงการแพลตฟอร์ม InsurTech เป็นการร่วมมือพัฒนานวัตกรรม ด้านประกันภัยครั้งแรกของ KBTG กับ เมืองไทยประกันภัย
โดยใช้ Deep Tech มาต่อยอดนวัตกรรมทาง InsurTech สำหรับใช้ในการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย เป็นรายแรกในประเทศไทย
ด้วยการนำเทคโนโลยี Image Processing และเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) มาพัฒนารวมเป็น AI as a Service ประกอบเข้ากับฐานข้อมูลและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรน AI และสร้างโมเดล Car Damage Detection ของเมืองไทยประกันภัย ออกมาเป็นระบบตรวจสภาพรถยนต์แบบใหม่
โดยจะประเดิมให้บริการผ่าน บริษัท โพรเกรส มัลติ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (PMIB) ที่ถือหุ้นโดยบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย
ทั้งนี้ ในช่วงแรกระบบจะทำงานแบบไฮบริด (Hybrid) คือ ตรวจสอบสภาพรถยนต์ด้วยโดยเทคโนโลยี AI และทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ โดยลูกค้าสามารถส่งภาพถ่ายเพื่อตรวจสภาพรถยนต์ได้ด้วยตนเอง เปรียบเสมือน Self-Service จากนั้น AI จะทำการประมวลผลจากรูป
ถ้าพบความเสียหายของตัวถังรถ ระบบจะทำเครื่องหมายให้อัตโนมัติ ก่อนจะส่งไปยังหน้าจอของทีมตรวจสภาพรถยนต์เพื่อทำการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ผ่านระบบออนไลน์ที่ใช้งานง่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ผ่านระบบออนไลน์ที่ใช้งานง่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ความแม่นยำของ AI จะพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีผู้ใช้งานระบบมากขึ้น จึงคาดว่าในอนาคตอีก 1-2 ปีข้างหน้า ระบบ AI จะเรียนรู้และพัฒนาความสามารถ จนเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสภาพรถยนต์แบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์
สำหรับกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับระบบ AI Car Inspection จะประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ
1. การเตรียมข้อมูลและรูปภาพ รวมทั้งระบบที่ใช้สอน AI ในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ ซึ่งทาง KBTG และเมืองไทยประกันภัย พัฒนาร่วมกันขึ้น
2. การสร้างโมเดล AI ซึ่งเป็นส่วนที่ทาง KBTG ดูแลทั้งหมด
3. การนำ AI ไปใช้ในทางธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนที่ทางเมืองไทยประกันภัย นำไปให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งช่วยให้ธุรกิจประกันภัยมีศักยภาพและเติบโตก้าวหน้าต่อไป บนแพลตฟอร์มดิจิทัลในอนาคตได้
อีกทั้งช่วยให้ธุรกิจประกันภัยมีศักยภาพและเติบโตก้าวหน้าต่อไป บนแพลตฟอร์มดิจิทัลในอนาคตได้
นอกจากนี้ KBTG และ เมืองไทยประกันภัย มีแผนที่จะขยายช่องทางการตรวจสภาพรถยนต์ด้วย AI ไปยังช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
รวมถึงนำ AI ไปใช้กับบริการอื่น ๆ ในระบบนิเวศของการประกันภัยรถยนต์ เช่น การเคลมประกันภัย
รวมถึงนำ AI ไปใช้กับบริการอื่น ๆ ในระบบนิเวศของการประกันภัยรถยนต์ เช่น การเคลมประกันภัย
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า
การตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการที่บริษัทจะอนุมัติประกันภัย เดิมต้องนัดหมายกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ ซึ่งใช้เวลามากกว่า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
การตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการที่บริษัทจะอนุมัติประกันภัย เดิมต้องนัดหมายกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ ซึ่งใช้เวลามากกว่า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
เมืองไทยประกันภัย จึงได้นำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาประยุกต์ใช้กับวงการประกันภัย เพื่อประมวลผลข้อมูลตรวจสภาพรถยนต์เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือของ เมืองไทยประกันภัย กับ KBTG ซึ่งเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ถือเป็นการพัฒนาระบบการตรวจสภาพรถยนต์ให้เกิดความสะดวก รวดเร็วต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้นแน่นอน
การที่เรานำ AI เข้ามาช่วยพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลด้านการตรวจสภาพรถยนต์ครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เราสามารถเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายได้อย่างครอบคลุมแล้ว
เทคโนโลยีเหล่านี้ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มช่องทางการนำเสนอแผนประกันภัยให้ตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันแบบเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการเลือกซื้อประกันภัยของลูกค้าได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมในยุคของข้อมูล ที่ลูกค้าสามารถเป็นผู้เลือกและกำหนดได้ด้วยตนเอง