ไอเดียการตลาด เจาะลูกค้ากลุ่ม “Kidult” ตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ใจยังเป็นเด็ก
23 ก.ย. 2024
สินค้าหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้นของเล่น ของสะสมอย่าง Art Toy
กลุ่มลูกค้าของสะสม Art Toy เหล่านี้ กลุ่มหนึ่งที่สำคัญ คือกลุ่มที่เรียกว่า “Kidult”
คำว่า Kidult มาจากคำว่า Kid + Adult
ความหมายคือประมาณว่า ตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ใจยังเป็นเด็ก
หากอธิบายลักษณะพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้สั้น ๆ ก็คือ กลุ่มคนที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ยังหลงใหลในของเล่น การ์ตูนเรื่องโปรด ในวัยเด็ก
เพราะฉะนั้น คนกลุ่มนี้จึงมักใช้จ่ายกับของเล่น เกม อานิเมะ รวมถึงเสื้อผ้าที่มีลายของคาแรกเตอร์ที่ชอบอยู่
ถ้าถามว่าทำไมลูกค้ากลุ่มนี้ถึงมีความน่าสนใจ ?
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ในวัยเด็ก หลายคนยังไม่สามารถหารายได้เพื่อซื้อของเล่นเองได้
แต่เมื่อโตขึ้น มีรายได้มากแล้ว ทำให้หลายคนซื้อของเหล่านี้เก็บเป็นของสะสม
แล้วแบรนด์ต้องใช้การตลาดแบบไหน ถึงจะสามารถเจาะลูกค้ากลุ่ม Kidult ได้ เรามาดูไอเดียหลาย ๆ ข้อกัน
- Character Marketing (ทำการตลาดผ่านการสร้างคาแรกเตอร์)
เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่ม Kidult จะมีพฤติกรรมที่หลงใหลในคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น คาแรกเตอร์ในอานิเมะ, ตัวการ์ตูนต่าง ๆ ที่คุ้นเคยในวัยเด็ก รวมถึงคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ที่สร้างความประทับใจให้คนกลุ่มนี้
โดยตัวคาแรกเตอร์ที่สร้างให้กับแบรนด์อาจเป็นตัวการ์ตูน สัตว์ สิ่งของที่ถูกออกแบบให้มีบุคลิกเฉพาะตัว
หรือจะใช้วิธีซื้อลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ยอดนิยมให้มาอยู่บนแบรนด์ของเราก็ได้
ข้อสำคัญที่จะทำให้การตลาดคาแรกเตอร์ประสบผลสำเร็จนั่นก็คือ การทำให้นิสัยและหน้าตาของคาแรกเตอร์สอดคล้องกับแบรนด์
เช่น น้องอุ่นใจ ของ AIS ที่มีคาแรกเตอร์ดูสดใส ขี้เล่น
- Mascot Marketing (ทำการตลาดผ่านการสร้างแมสคอต)
เน้นเรื่องความน่ารัก เพื่อจับกลุ่มลูกค้า Kidult แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้นการตลาดแมสคอตอย่างแน่นอน
เพราะ ณ ตอนนี้ก็มีผู้ที่ทำการตลาดแมสคอตที่ประสบความสำเร็จให้เห็นได้ชัด
นั่นก็คือน้องหมีเนย Butterbear ที่แฟนคลับผู้หญิงหลายคนต่างเรียกตัวเองว่าเป็น “มัมหมี” หรือก็คือแม่ ๆ ของน้องหมีเนย
ซึ่งขั้นตอนการสร้างแมสคอตให้ประสบความสำเร็จ ก็มีองค์ประกอบอย่างเช่น
1. วิเคราะห์ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร และลักษณะของแบรนด์เราเป็นอย่างไร
2. ออกแบบแมสคอตให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมทั้งสร้างการจดจำได้ง่าย
3. สร้างเรื่องราวให้กับแมสคอต นอกจากจะทำให้แมสคอตมีความน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ยังทำให้แฟนคลับรู้สึกผูกพันกับแมสคอตมากขึ้นอีกด้วย
4. นำแมสคอตไปเผยแพร่บนสื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ เพื่อทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
5. รับฟังคอมเมนต์ของลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไข ให้แมสคอตของแบรนด์มีความน่าสนใจมากขึ้น
หากอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น อย่าง Butterbear มีคาแรกเตอร์เป็นน้องหมีที่มีลักษณะนิสัยเหมือนเด็กเล็ก โดยแบรนด์ก็สร้างเรื่องราวว่าในวันธรรมดาน้องก็จะต้องไปเรียนหนังสือ
นอกจากนี้ยังมีการออกเพลงใน YouTube อีกด้วย จนทำให้แฟนคลับหลายคนรู้สึกหลงใหลในน้องหมีเนย Butterbear มากขึ้น
- Nostalgia Marketing (ทำการตลาดที่ชวนให้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก)
หัวใจหลักของการตลาดย้อนวันวาน นั่นก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก
แน่นอนว่าลูกค้าหลัก ๆ กลุ่มนี้ก็ยังคงเป็นกลุ่ม Kidult เพราะฉะนั้นการเลือกคาแรกเตอร์ ควรเป็นคาแรกเตอร์ที่ได้รับความนิยมในวัยเด็กของกลุ่มเป้าหมาย
โดยการทำการตลาดย้อนวันวาน มีไอเดียขั้นตอนในการทำ อย่างเช่น
1. วิเคราะห์ว่า แบรนด์ต้องการเจาะลูกค้าช่วงกลุ่มอายุเท่าไร และค้นหาดูว่าช่วงวัยเด็กของลูกค้ากลุ่มนี้ มีอะไรที่น่าสนใจ และเป็นกระแสในช่วงนั้น
2. เมื่อวิเคราะห์ออกมาแล้ว จึงค่อยสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่กระตุ้นความทรงจำในวันวานของกลุ่มลูกค้าออกมา ผ่านสื่อโซเชียลช่องทางต่าง ๆ
3. สร้างกิจกรรมขึ้นมา เช่น การแจกของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความสนใจให้กับแบรนด์มากขึ้น
ส่วนใหญ่การตลาดย้อนวันวาน มักใช้วิธีการคอลแลบกับสินค้า หรือตัวละครต่าง ๆ ที่อยู่ในยุคของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
โดยตัวอย่างที่สามารถเห็นได้ชัด เช่น เรามักเห็นขนมต่าง ๆ ใช้ตัวละครอย่างโดราเอมอน มาแปะหน้าซอง เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงเมื่อก่อนที่เราเคยทานขนมแบบนี้ และชอบดูการ์ตูนเรื่องนี้
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว นักการตลาดทุกท่านจะพอเห็นภาพรวมได้ว่า การตลาดทั้ง 3 รูปแบบข้างต้นสามารถจับกลุ่มลูกค้า Kidult ได้อย่างอยู่หมัด
และหากประสบความสำเร็จ ลูกค้ากลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของเรามากที่สุด
เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ นอกจากจะมีกำลังซื้อแล้ว ยังสามารถช่วยสร้าง Word of Mouth อย่างรวดเร็วได้อีกด้วย..