สรุปเรื่อง AI ตัวท็อปของ Google “Bard” เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “Gemini”

สรุปเรื่อง AI ตัวท็อปของ Google “Bard” เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “Gemini”

9 ก.พ. 2024
หลายคนคงรู้จัก AI ของ Google ที่มีชื่อว่า “Bard” ที่เป็นแช็ตบอต AI ช่วยเซิร์ชและสรุปข้อมูล รวมถึงช่วยตอบคำถามยาก ๆ ภายในไม่กี่วินาที
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันนี้ เราจะไม่ได้เห็นชื่อ “Bard” อีกต่อไป..
เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Google ประกาศรีแบรนด์ใหม่
โดยจะเปลี่ยนชื่อ Bard รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งหมดอย่าง Duet AI (AI ที่ทำงานบน Google Workspace ซึ่งช่วยในเรื่องงานเขียน) มาเป็นชื่อว่า “Gemini” แทน
ซึ่ง Gemini ก็จะมาพร้อมกับความสามารถใหม่ ๆ รวมถึงมีทั้งแบบฟรี และเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้งาน
แล้วรายละเอียดของ Gemini เป็นอย่างไร ? มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? แล้วเหมือนหรือไม่เหมือน Google Bard อย่างไรบ้าง ?
1. Google เปลี่ยนชื่อโดเมนแช็ตบอตใหม่
จาก Bard หรือ bard.google.com ที่หลายคนใช้ช่วยทำงานแบบฟรี ๆ
เป็น Gemini หรือ gemini.google.com
2. พัฒนาเป็น Gemini Pro อีกขั้นของแช็ตบอตจาก Google ที่เก่งขึ้นไปอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถตอบคำถาม สรุป แปล เขียน และคิดไอเดีย ได้หลากหลายมากกว่าเดิม
ที่น่าสนใจคือ สามารถสร้างรูปภาพ ที่มาจากการป้อนคำสั่งได้แล้ว
- สามารถโต้ตอบบทสนทนา ตอบคำถาม ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และลื่นไหลกว่าเดิม
จากเดิม Bard เป็น AI ที่คอยค้นหาข้อมูลมาตอบ
แต่ปัจจุบัน Gemini จะสรุปข้อมูลจากการค้นหาในหลาย ๆ แหล่ง แล้วมาสรุปและตอบให้แทน
ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจในเนื้อหาต่าง ๆ ที่ต้องการได้มากยิ่งขึ้น
3. ออกเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึง Gemini ได้ง่ายขึ้น
จากเดิมหากเราต้องการใช้ Bard เพื่อเซิร์ชข้อมูล จะต้องใช้งานผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
แต่ล่าสุด Google ได้ออกเป็นแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึง Gemini ได้ง่ายขึ้น
โดยในฝั่งของ Android จะมีแอปพลิเคชันใหม่ ที่มีชื่อว่า Gemini
ซึ่งดาวน์โหลดได้ผ่าน Google Play Store จากนั้นก็สามารถเข้าไปใช้งาน เซิร์ชข้อมูลได้แบบง่าย ๆ ผ่านสมาร์ตโฟน
หรือจะใช้งาน Gemini ผ่านแอปพลิเคชัน Google Assistant ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอปพลิเคชันที่ติดมาพร้อมกับเครื่องอยู่แล้ว
โดยเริ่มต้นใช้งานด้วยการสั่งคำสั่งผ่านเสียง เช่น “Hey Google, talk to Gemini.”
พร้อมกับสั่งได้เลยว่า อยากให้ Gemini ช่วยทำอะไร ทั้งแต่งเพลง เขียนเรียงความ สรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือเขียนอีเมล
ส่วนในฝั่งของ iOS ทาง Google บอกว่า จะไม่ได้ออกเป็นแอปพลิเคชันใหม่เหมือน Android
แต่จะใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง “Google Assistant” ซึ่งจะมีไอคอน Gemini ให้ผู้ใช้งานกดแล้วสั่งใช้งานได้เช่นกัน
ต้องบอกว่า ทั้งหมดที่เล่ามานี้ เป็นในส่วนของ Gemini ที่เปิดให้ใช้งานแบบ “ฟรี ๆ”
แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้งาน Gemini แบบแอดวานซ์มากกว่านั้น
ทาง Google ยังได้เปิดตัว “Gemini Advanced”
ซึ่งเป็น AI ที่เก่งและฉลาดมากขึ้น ทั้งในด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์
และยังสามารถหาเหตุผลในเรื่องของกฎหมายและศีลธรรมได้อีกด้วย
รวมทั้งยังสามารถเขียนโคดด้วยภาษา Programming ยอดนิยม เช่น Python, Java, C++ ที่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพได้มากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม Gemini Advanced ไม่ได้เปิดให้ใช้งานแบบฟรี ๆ
แต่กลยุทธ์ของ Google คือ “Up-Selling” ด้วยการนำแพ็กเกจ Google One ที่มีให้บริการอยู่แล้วในราคา 350 บาท/เดือน
ซึ่งจะได้รับ Google Cloud 2TB หรือบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ทั้งบน Google Photos, Google Drive และ Gmail
มาอัปเกรดเพิ่มขึ้นเป็น “Google One AI Premium” ที่มาในราคา 750 บาท/เดือน หรือ 7,500 บาท/ปี
โดยสิ่งที่จะได้รับคือ บริการต่าง ๆ เหมือนเดิม เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 2TB แต่เพิ่มเติมด้วย
- Gemini Advanced หรือก็คือ Gemini Ultra ซึ่งเป็น AI ที่เก่งขึ้น
ทั้งนี้ ต้องหมายเหตุไว้ว่า ปัจจุบัน Gemini Advanced ยังรองรับเพียงแค่ภาษาอังกฤษ​เท่านั้น และจะขยายการรองรับภาษาอื่น ๆ ในภายหลัง
- มี Gemini มาใช้ช่วยเขียนอีเมลบน Gmail, ช่วยเขียนคอนเทนต์บน Google Docs และช่วยทำสไลด์นำเสนองานบน Google Slides
- สามารถประชุมผ่าน Google Meet ได้ด้วยคุณภาพวิดีโอที่สูงขึ้น
อธิบายง่าย ๆ ว่า จากเดิมใครที่ใช้บริการ Google One ในราคา 350 บาทอยู่แล้ว
ก็จ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีก 400 บาท แต่จะได้รับบริการที่หลากหลายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว..
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและรายละเอียดของ “Bard” ในการเปลี่ยนผ่านสู่ “Gemini”
ทาง Google บอกว่า การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ ก็เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา AI Assistant หรือผู้ช่วย AI
ซึ่ง Gemini เป็นชื่อเดียวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ที่ Google กำลังพัฒนานั่นเอง..
ต้องบอกว่า กลยุทธ์ Google ที่ให้ใช้งาน Gemini แบบฟรี ๆ และแบบเรียกเก็บเงิน
ก็คล้ายกับโมเดลธุรกิจของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT แช็ตบอตที่เปิดให้ใช้งานแบบฟรี ๆ และแบบเรียกเก็บเงินสำหรับ GPT-4 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ..
รู้หรือไม่ว่า นอกจาก Google จะมี Gemini Pro และ Gemini Ultra แล้ว ยังมี Gemini Nano ด้วย
ซึ่ง Gemini Nano ถูกใช้งานอยู่บนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต 2 แบรนด์
ได้แก่ Samsung Galaxy S24 Series ที่เพิ่งเปิดตัวเป็น Galaxy AI Phone และ Google Pixel 8 Series
โดย Gemini Nano มีความสามารถน้อยกว่า Gemini Pro เพียงเล็กน้อย แต่สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้ด้วย
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.