สรุปเรื่อง AI PCs ยุคใหม่ของ แล็ปท็อประบบ Windows ท้าชนกับ MacBook

สรุปเรื่อง AI PCs ยุคใหม่ของ แล็ปท็อประบบ Windows ท้าชนกับ MacBook

5 มิ.ย. 2024
สำหรับคนทำงานถ้านึกถึงแล็ปท็อปที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานดี ๆ สมัยนี้ หลายคนน่าจะนึกถึง MacBook ของค่าย Apple เป็นตัวเลือกแรก ๆ
แต่ตอนนี้อีกฟากอย่างแล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ก็กำลังมีทีเด็ดใหม่มาสู้
เพราะล่าสุดในงาน Computex 2024 ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่ไต้หวัน
กำลังมีการพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า “AI PCs”
แล้ว AI PCs คืออะไร ? มาดูกัน..
AI PCs คือชื่อเรียกยุคใหม่ของแล็ปท็อป ซึ่งอาศัยพลังการประมวลผลจากชิป Snapdragon X Series ที่ผลิตโดย Qualcomm
ผสานรวมกับพลังของ Copilot ที่เป็น AI เรือธงของค่าย Microsoft
ซึ่ง AI PCs ก็คือหมายความถึงหลากหลายแบรนด์ เช่น Samsung, Acer, Dell, Asus และ Lenovo
โดยฟีเชอร์เด็ด ๆ ของ AI PCs นั้น MarketThink สรุปตัวอย่างมาให้ 4 ข้อ
1. แอปพลิเคชัน Paint ที่เสริมพลังด้วย Generative AI
หากเราต้องการวาดรูปในแอป Paint เราสามารถวาดรูปนั้นแบบคร่าว ๆ แล้วคลิกที่ปุ่ม Cocreator เพื่อให้ AI ช่วย Generate ภาพที่เราต้องการออกมาได้เลย
โดยเราสามารถปรับการตั้งค่าได้ด้วยว่า ต้องการความ Creative มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากระดับความ Creative มาก AI ก็จะเพิ่มองค์ประกอบอื่น ๆ ของรูปภาพที่ถูก Generate ให้มากขึ้น
2. กล้องที่มาพร้อม Studio Effects
Studio Effects คือการใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ได้ เมื่อใช้งานกล้องของแล็ปท็อป
ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มความสว่างให้ใบหน้าด้วย Portrait Light หรือเบลอฉากหลังเพิ่มด้วย Portrait Blur
นอกจากนี้ยังฟิลเตอร์อื่น ๆ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใส่ได้เพิ่มเติม เช่น การใช้รูปภาพต่าง ๆ มาเป็นภาพพื้นหลัง หรือการเปลี่ยนใบหน้าของผู้ใช้ให้กลายเป็นแอนิเมชัน
3. ถอดข้อความจากคลิปวิดีโอด้วย Live Caption
เราสามารถถอดข้อความ จากคลิปวิดีโอให้กลายเป็น Live Caption
ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลานั่งดูคลิปวิดีโอซ้ำ ๆ แล้วถอดข้อความที่อยู่ในคลิปวิดีโอ มาเป็นตัวอักษรด้วยตัวเอง
เหมาะเอาไว้ถอดความจากวิดีโอออกมาในรูปแบบ Text หรือข้อความ เพื่อเอาไปใช้งานต่อได้
4. แล็ปท็อปทุกเครื่อง จะมี AI Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวประจำวัน
เป็นฟีเชอร์ใหม่ ที่จะทำให้เราสามารถใช้ AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว คอยจัดการชีวิตประจำวันของเราได้
อย่างเช่น การนัดหมาย การสั่งซื้อสินค้า หรือการส่งข้อความ ซึ่ง AI Assistant สามารถทำงานได้เหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เป็นคนจริง ๆ
เพราะจะมีการใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ มาประมวลผลร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นไมค์โครโฟนที่รับฟังเสียงที่เราพูด รวมถึงกล้อง เพื่อดูท่าทางที่เราทำ เช่น การยกนิ้วโป้ง AI ก็จะเข้าใจว่าเราหมายถึง “ใช่”
นอกจากนี้ AI Assistant ยังเข้าไปทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ได้ด้วย
เช่น การประชุม หากเราต้องสนทนากับชาวต่างชาติ AI ก็จะทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยแปลภาษาให้เราแบบเรียลไทม์ได้ รวมถึงสั่งให้แชร์สไลด์ของงานนำเสนอ ลงในที่ประชุมได้ทันที
และฟีเชอร์ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มันเป็นเพียงแค่ “จุดเริ่มต้นของ PC ยุคใหม่” เท่านั้น
เพราะในอนาคต แอปที่ทำงานร่วมกับ AI จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นหมายความว่าความสามารถของ PC จะเพิ่มขึ้นตาม
เมื่อเราพอเห็นภาพรวมความสามารถ และฟีเชอร์ AI คร่าว ๆ กันแล้ว
ต่อไปเรามาดูความสามารถในการประมวลผล และการจัดการพลังงานกันบ้าง
- ด้านการประมวลผล
Snapdragon X Elite ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของ Snapdragon X Series
เร็วกว่าชิป Apple M3 อยู่ 2.3 เท่า และเร็วกว่า Intel Core Ultra 7 อยู่ 5.4 เท่า ในด้านความเร็วการประมวลผล AI
ส่วนความแรงของ CPU นั้น Snapdragon X Elite เร็วกว่า Intel Core Ultra 9 ถึง 51%
แถมยังประหยัดพลังงานกว่า Intel Core Ultra 9 ถึง 65%
โดย Qualcomm ได้ยกตัวอย่างการใช้งานจริง จากเคสการใช้ Google Chrome และ Microsoft Edge พบว่า Snapdragon X Elite สามารถใช้งานทั้งสองแอปนี้ ได้เร็วกว่า Intel Core Ultra 7
- ด้านการจัดการพลังงาน
Snapdragon X Elite สามารถจัดการพลังงานได้ดีกว่า Intel Core Ultra ประมาณ 2 เท่า หรือก็คือ
มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ได้มากกว่าเท่าตัว
ซึ่งก็ต้องรอดูว่า ตลาดแล็ปท็อปต่อจากนี้ จะแข่งกันสนุกขึ้นขนาดไหน..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.