Google ยอมจ่าย ส่วนแบ่งรายได้โฆษณา บน Safari ให้ Apple 36% ปีละกว่า 7 แสนล้านบาท
15 พ.ย. 2023
หากใครเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ Apple ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา น่าจะคุ้นเคยกับการใช้ Safari เว็บเบราว์เซอร์ของ Apple ที่มี Google เป็น Search Engine พื้นฐาน
และน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในแต่ละปี Google ยอมจ่ายเงินให้กับ Apple ในระดับ “หมื่นล้าน” ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำให้ Google เป็น Search Engine พื้นฐานบน Safari ต่อไป
ล่าสุดในวันนี้ ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมออกมา ว่า Google นั้น ยอมจ่าย “ส่วนแบ่ง” รายได้จากการโฆษณาของ Google ที่เกิดขึ้นบนเว็บเบราว์เซอร์ Safari ให้กับ Apple ในสัดส่วนกว่า 36%
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ ข้อมูลส่วนแบ่งรายได้จากการโฆษณา ที่ Google จ่ายให้ Apple นั้น ได้รับการเปิดเผย จากการพิจารณาคดี ที่กระทรวงยุติธรรม ของสหรัฐอเมริกา ยื่นฟ้อง Google ในข้อหา “ผูกขาด” บริการ Search Engine
โดยการที่ Google ยอมจ่ายเงินส่วนแบ่งรายได้จากการโฆษณาให้กับ Apple นั้น ก็ถูกมองว่า Google กำลังกีดกัน ไม่ให้บริการ Search Engine อื่น ๆ สามารถเติบโตขึ้นมาแข่งขันกับ Google ได้
เพราะในสหรัฐอเมริกา iPhone ครองส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนได้อย่างมหาศาล และแน่นอนว่าผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ ก็ใช้ Google บนเว็บเบราว์เซอร์ Safari อยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมองได้อีกทางหนึ่งด้วยว่า Google ยอมจ่ายเงินส่วนแบ่งรายได้จากการโฆษณาให้ Apple เพื่อป้องกันไม่ให้ Apple ตัดสินใจพัฒนาบริการ Search Engine มาแข่งขันกับตัวเอง
เพราะส่วนแบ่งรายได้ที่ Google จ่ายให้ในแต่ละปี ก็สร้างรายได้ให้กับ Apple อย่างมหาศาลอยู่แล้ว..
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยมีผู้เชี่ยวชาญ ประเมินกันว่า Google จ่ายเงินให้กับ Apple ปีละกว่า 18,000 - 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี (ราว 6.38 - 7.09 แสนล้านบาท) เลยทีเดียว
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ หากใครเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ Apple และใช้ Google บนเว็บเบราว์เซอร์ Safari เป็นประจำ
ก็อาจหมายความว่า เรากำลังเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างรายได้จากการโฆษณาให้กับทั้ง Google และ Apple อย่างมหาศาล ในทุก ๆ ปี