วิเคราะห์กลยุทธ์ “Remaking of SEE FAH” เบื้องหลังการส่งต่อตำนานความอร่อย ผ่านมื้ออาหาร “ให้ Full ทุก Feel ที่สีฟ้า”

SEE FAH แบรนด์ร้านอาหาร อายุเก่าแก่มากกว่า 89 ปี ที่อยู่คู่กับคนไทยมาทุกยุค จนเป็นหนึ่งในตำนานของร้านอาหารสไตล์ไทย-จีน

ล่าสุด SEE FAH เพิ่งจะมีการ “Remaking” แบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Young Gen และ Refresh แบรนด์ให้สดใหม่ เพื่อรักษาลูกค้าเก่า ให้อยู่กับแบรนด์ให้นานขึ้น เป็นการส่งต่อตำนานความอร่อย ผ่านมื้ออาหาร ให้ “Full ทุก Feel ที่ SEE FAH”

แล้ว SEE FAH จะมีกลยุทธ์อย่างไร MarketThink พาไปวิเคราะห์แบบเจาะลึกในโพสต์นี้..

SEE FAH เป็นแบรนด์ร้านอาหารในตำนาน ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน 89 ปี 

เปิดสาขาแรกที่ถนนราชวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2479 มาพร้อมสโลแกนติดหู “อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว”

วิเคราะห์ แบรนด์ SEE FAH ในมุมการตลาด

- จุดแข็ง (Brand Strength)

SEE FAH เป็นแบรนด์ที่มี Brand Asset คือ ตำนานความเก่าแก่ และความอร่อยของตำรับไทย-จีน เป็นที่ยอมรับ ตลอด 89 ปีที่ผ่านมา

- ความท้าทาย (Brand Challenge)

1. ตลาดร้านอาหารมีการแข่งขันสูง
อุตสาหกรรมร้านอาหารเต็มไปด้วยคู่แข่ง ทั้งเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ และผู้เล่นรายใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสร้างจุดแตกต่างเป็นความท้าทายที่สำคัญ

2. การเป็นแบรนด์ในตำนาน จึงอาจทำให้ขาดความสดใหม่
แม้ความเป็น “ตำนาน” จะสร้างความน่าเชื่อถือและความผูกพันกับลูกค้า แต่หากไม่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูห่างไกลจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

3. Brand Awareness ในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ยังไม่แข็งแกร่งพอ
แม้แบรนด์จะมีฐานลูกค้าประจำ แต่การเข้าถึงและสร้างการจดจำในกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น

วิเคราะห์กลยุทธ์ ส่งต่อตำนานความอร่อย ผ่านมื้ออาหาร ของ SEE FAH

1. กลยุทธ์ The Remaking of SEE FAH

เพื่อให้แบรนด์ SEE FAH สามารถเข้าถึง Target ลูกค้า Young Gen ได้มากขึ้น และในขณะเดียวกันยังคงรักษาเสน่ห์ของความเป็น SEE FAH แบบดั้งเดิม แบรนด์จึงต้องมีการ Refresh ภาพลักษณ์ใหม่

ตั้งแต่การออกแบบร้าน ชุดยูนิฟอร์ม เล่มเมนู และเพิ่มเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึง Target ลูกค้า Young Gen แต่ยังเก็บกลิ่นอายความเป็น SEE FAH แบบดั้งเดิมเอาไว้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม

โดยเมนูที่สะท้อนตัวตนของ SEE FAH ยุคใหม่ ก็อย่างเช่น
- ข้าวไข่ข้นหน้าไก่ราชวงศ์
เป็นเมนูที่ต่อยอดมาจาก 2 เมนู Signature ของ SEE FAH คือ เมนูข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก และเมนูข้าวไข่ข้นกุ้ง สูตรต้นตำรับจาก SEE FAH กลายเป็นเมนู Signature Combination เมนูนี้

- ข้าวหมูสับปลาเค็มไข่ดาว
เป็นเมนูง่าย ๆ แต่มีความพิเศษ เพราะเป็นเมนูที่มีสไตล์ความเป็นโฮมมี หอม อร่อย กินได้บ่อย ๆ ไม่มีเบื่อ เหมือนเมนูที่ทำโดยรสมือที่คุ้นเคยของคนในครอบครัว

- ยำเกาเหลาราชวงศ์
เมนูนี้ นำเครื่องลูกชิ้นปลาต่าง ๆ จากเมนูบะหมี่แห้งราชวงศ์ ซึ่งเป็น Signature ของ SEE FAH ที่ทุกคนคุ้นเคย นำมาทำเป็นเมนูยำเกาเหลาราชวงศ์ เป็นเมนูกินเล่นเมนูใหม่ ที่น่าสนใจ

2. Collaboration Marketing
SEE FAH x Awakening Bangkok 2024 ที่ปากคลองตลาด เป็นการ Pre-Debut ตัวตนใหม่ของ SEE FAH ผ่านการคอลแลบระหว่าง Lighting Art x Food

3. สร้าง Customer Experience รูปแบบใหม่
โดยยก Lighting Art จากงาน Awakening Bangkok 2024 มาไว้ที่ SEE FAH สาขา centralwOrld

4. กลยุทธ์ Music Marketing
SEE FAH เตรียม Remake เพลง “อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว” เป็นเวอร์ชันใหม่ โดยจับมือกับ 2 ศิลปินดังจากคน 2 Gen

นำมาผสานกับเสน่ห์ของดนตรีแบบคลาสสิก และซาวนด์ดนตรีสมัยใหม่ เพื่อขยายการรับรู้ของแบรนด์ SEE FAH ไปสู่ Target ลูกค้าที่เป็นคน Young Gen ทำให้ SEE FAH กลายเป็นร้านอาหารที่อยู่ในใจของคนทุกวัย

โดยเพลง “อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว” เวอร์ชันใหม่ที่นำมา Remaking จะเป็นอย่างไร ศิลปินดังจากคน 2 Gen จะเป็นใคร สามารถติดตามฟังได้เร็ว ๆ นี้..

ผลลัพธ์ทางการตลาด ที่ได้จากกลยุทธ์ของ SEE FAH

1. เชื่อมโยงลูกค้ากลุ่ม Young Gen ด้วยเมนูที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

จัดเต็มด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย กินได้ทุกโอกาส ในคอนเซปต์ “ไม่ว่าจะฟีลไหน อารมณ์ไหน ก็ฟูลได้ทุกฟีลที่ SEE FAH” อิ่มท้อง อิ่มใจ ในแบบที่ใช่สำหรับคนทุก Gen

2. เติมความสดใหม่ให้แบรนด์ที่มีอายุ 89 ปีเข้าถึงง่ายขึ้น
ด้วยการปรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ทันสมัย แต่ยังคงความอบอุ่นแบบ SEE FAH ทำให้แบรนด์ร้านอาหารในตำนาน ยังคงมีชีวิตชีวาในทุกยุค

3. ดูแลลูกค้าเดิม ให้ผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น
ด้วยการเก็บทุกกลิ่นอายความเป็น SEE FAH แบบดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งรสชาติและบรรยากาศ เพื่อให้ความทรงจำดี ๆ อยู่คู่กับลูกค้าตลอดไป

#อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว #FullทุกFeelที่สีฟ้า