ชวนเจาะลึกไฮไลต์ ในงาน KBTG Techtopia: Across The AI-Verse เทคโนโลยี AI ที่นักการตลาด ควรรู้

เมื่อวันที่ 1-2 กันยายน ที่ผ่านมา บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้จัดงาน KBTG Techtopia: Across The AI-Verse ขึ้น

เพื่อพาคนในแวดวงเทคโนโลยี ไปเจาะลึก และต่อยอดองค์ความรู้ ทางด้านเทคโนโลยี AI ที่กำลังมาแรง ในช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ ผ่านมุมมองของวิทยากร 
ซึ่งเป็นผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเทคโนโลยี AI มากกว่า 35 ท่าน ตลอด 2 วันเต็ม

สำหรับใครที่ไม่ได้ไปร่วมงาน MarketThink จะพาไปเจาะลึกถึง ไฮไลต์สำคัญ ที่เกิดขึ้นในงาน 
โดยเฉพาะในด้านโอกาส และความเป็นไปได้ ของคนทำธุรกิจ และการตลาด ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี AI กันในบทความนี้..

ก่อนอื่น เพื่อเป็นการปูพื้นความเข้าใจ ขอเล่าถึงภาพรวม และเทรนด์ของเทคโนโลยี AI ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้กันก่อน 

โดยคุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้ให้ข้อมูล เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่น่าสนใจ ไว้หลายเรื่องด้วยกัน ได้แก่

ในโลกของเทคโนโลยี AI เปิดโอกาสให้คนทำอะไรได้มากกว่าเดิม 
ทั้งการแต่งเพลง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปิน 
การออกแบบตกแต่งภายใน โดยไม่ต้องเป็นมัณฑนากร

หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า รุ่นลูกรุ่นหลานของเรา อาจทำในสิ่งที่ยากจนแทบทำไม่ได้ในยุคปัจจุบัน อย่างการออกแบบยานอวกาศ ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ก็เป็นไปได้

และที่สำคัญที่สุด ก็คือ เทคโนโลยี AI จะทำให้โลกของเรา มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าที่เคยเป็น ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา

เพราะเทคโนโลยี AI จะเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มนุษย์ต้องเจอ 
โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การแพทย์ และสังคมผู้สูงอายุ 

ในปัจจุบัน โลกของเรามีบริษัทสตาร์ตอัป ด้าน Generative AI ในระดับยูนิคอร์น มากถึง 5 แห่ง เฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้

และยังมีอีกหลายร้อยบริษัท ที่อยู่ในช่วงระหว่างการระดมทุน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามหาศาล..

นอกจากนี้ คุณเรืองโรจน์ ยังได้ให้ข้อมูลด้วยว่า ในปัจจุบัน KBTG เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี AI ของไทย และมีวิสัยทัศน์ ที่ต้องการเป็น AI-First Company มาตั้งแต่ปี 2019

อย่างไรก็ตาม สูตรลับแห่งความสำเร็จของ KBTG กลับไม่ได้มีเพียงเทคโนโลยี AI เพียงอย่างเดียวเท่านั้น 
เพราะยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ รวมอยู่อีก

โดยคุณเรืองโรจน์ เรียกสูตรลับแห่งความสำเร็จของ KBTG นี้ว่า State of M.A.D. ซึ่งประกอบไปด้วย

- M: Machine Learning 
เป็นเทคโนโลยี ที่นำมาใช้กับงานทางด้านสินเชื่อ การให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ของทางธนาคาร

- A: Artificial Intelligence (AI)
เป็นเทคโนโลยี ที่นำมาใช้กับกระบวนการตรวจสอบ และยืนยันตัวตนต่าง ๆ ของธนาคาร รวมถึงระบบ Chatbot ที่ทำหน้าที่เป็นคอลเซนเตอร์ ที่ให้ความช่วยเหลือ และให้บริการต่าง ๆ กับลูกค้าของธนาคาร

นอกจากนี้ KBTG ยังมีโครงการศึกษาวิจัย ร่วมกับ MIT Media Lab ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อีกหลากหลายด้าน 

ไม่ว่าจะเป็น Chatbot ที่เปิดให้ผู้ใช้งาน ได้จำลองการพูดคุยกับตัวเอง ในอนาคตได้

- D: Data
คือการให้ความสำคัญกับการปกป้อง และคุ้มครองข้อมูล (Data) ส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

เพราะในยุคปัจจุบัน ข้อมูลถือเป็นสินทรัพย์ (Asset) ที่มีค่ามหาศาล ซึ่งแม้จะมีการนำข้อมูลมาใช้ แต่ก็ต้องมีการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานไปพร้อม ๆ กัน

เป็นการรักษาสมดุล ระหว่าง การใช้งานเทคโนโลยี กับความปลอดภัย

จากสูตรลับแห่งความสำเร็จของ KBTG ข้างต้น ทำให้ในปัจจุบัน KBTG มี AI Landscape ครอบคลุมครบทั้ง Ecosystem ของการทำธุรกิจ 

ทั้งในด้าน Sales & Marketing, Customer Service, Business Operation และ Strategy & Business Intelligence เป็นต้น

ส่วนตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ KBTG ที่มีการใช้เทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลัง ก็มีทั้ง K PLUS, MAKE by KBank, KhunThong (ขุนทอง) และ K-GPT 

เมื่ออ่านมาจนถึงจุดนี้ เชื่อว่าผู้อ่าน น่าจะได้เห็นภาพรวม และเทรนด์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี AI จากมุมมองของคุณเรืองโรจน์ พูนผล ซึ่งเป็นประธานของ KBTG เป็นที่เรียบร้อย

ก็ได้เวลาที่เราจะไปเจาะลึก ถึงรายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติม เกี่ยวกับบทบาท และความเป็นไปได้ ของการใช้เทคโนโลยี AI ในการทำธุรกิจ และทำการตลาด 

โดยหัวข้อแรก ที่เราจะไปเจาะลึกเพิ่มเติม ก็คือ Artificial Intelligence, Real Revenue: How Generative AI Enables Sales and Marketing 

ซึ่งวิทยากร ที่จะมาให้ข้อมูลในหัวข้อนี้ ก็คือคุณ Simon Dale รองประธานบริหาร และกรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลี ของ Adobe

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหัวข้อนี้ ก็คือ เราจะใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างยอดขาย และทำการตลาด ให้กับการทำธุรกิจ ได้อย่างไร

เรื่องนี้ คุณ Simon เริ่มต้นด้วยการยกผลการสำรวจ มุมมองเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี AI ของคนที่ทำงานด้านการตลาด โดยพบว่า กว่า 42% ของผู้ที่ทำงานด้านการตลาด มองว่าเทคโนโลยี AI มีความสำคัญต่อองค์กร

ในขณะที่ กว่า 89% ของนักการตลาด และผู้ที่ทำงานด้าน Customer Experience มองว่าการใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยให้นักการตลาด สามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกัน สำหรับลูกค้าแต่ละคนได้

คำถาม คือ แล้วเทคโนโลยี AI จะเข้ามาช่วยให้การทำงานของนักการตลาดง่ายขึ้น และช่วยสร้างรายได้ ให้กับการทำธุรกิจ ได้อย่างไร

คุณ Simon จึงได้ยกตัวอย่างการใช้ฟีเจอร์ Generative AI Fill บนแอปพลิเคชัน Adobe Photoshop 
ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างภาพกราฟิกใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือแก้ไขภาพกราฟิกที่มีอยู่เดิม เพียงแค่พิมพ์คำสั่งง่าย ๆ ได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเช่น แคมเปญโฆษณาบัตรเครดิต ที่เปลี่ยนภาพพื้นหลัง ไปตามฤดูกาล หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน

เป็นการเปิดโอกาสให้นักการตลาด สามารถสร้างแคมเปญการตลาดใหม่ ๆ ได้ โดยใช้ภาพกราฟิกที่มีอยู่เดิม ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการออกแบบใหม่

หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เทคโนโลยี AI มีส่วนช่วย ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์ ของนักการตลาด ได้โดยตรงนั่นเอง

ส่วนหัวข้อที่สอง ที่เราจะพาไปเจาะลึก จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาโปรแกรม ที่ส่งผลต่อนักพัฒนาทั่วโลก ในหัวข้อ Lessons Learned Building the World’s First GenAI Product โดยคุณ Ryan J. Salva ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI และนักพัฒนาโปรแกรม ของ GitHub

สิ่งที่น่าสนใจในหัวข้อนี้ ก็คือ คุณ Ryan ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ เป็นอย่างมาก

ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ ในทุกวันนี้ GitHub Copilot ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการเขียนโปรแกรมของนักพัฒนา ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI มีผู้ใช้งานเกิน 1.5 ล้านคน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนการใช้งาน GitHub Copilot ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งที่ต้องการ แล้ว GitHub Copilot จะช่วยแนะนำโคดเบื้องต้น ให้กับนักพัฒนาในทันที 

ทำให้นักพัฒนาที่ใช้ GitHub Copilot สามารถทำงานได้เร็วขึ้น มากกว่า 55% ในขณะที่โปรแกรมที่ได้ มีคุณภาพ และความพึงพอใจที่ดีขึ้น

โดยคุณ Ryan ได้ให้ความเห็นไว้ว่า คนที่จะได้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยพัฒนาโปรแกรม ก็คือ นักพัฒนาที่มีประสบการณ์น้อย นักเรียน และนักศึกษา ที่อยู่ระหว่างการฝึกเขียนโปรแกรม

เพราะเทคโนโลยี AI จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการให้คำแนะนำ และเพิ่มพูนประสบการณ์ ให้กับคนกลุ่มนี้ 

ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบ บทบาทของเทคโนโลยี AI ว่าเป็น เครื่องคิดเลข ของห้องเรียน ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ต่อการเรียนรู้ของคน ไม่ต่างจากเครื่องคิดเลข ในอดีตที่ผ่านมา..

นอกจากทั้งสองหัวข้อ ที่เราพาไปเจาะลึกกันในบทความนี้แล้ว งาน KBTG Techtopia ยังมีไฮไลต์สำคัญในด้านอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น

- การใช้เทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมการเงิน การธนาคาร และสุขภาพ
- ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี AI กับความเป็นมนุษย์
- จริยธรรม และความยั่งยืน ของการใช้งานเทคโนโลยี AI

รวมถึงยังมีบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI ระดับโลกอีกมากมาย ที่มาร่วมเปิดบูท แสดงตัวอย่างการใช้งานจริง รวมถึงให้คำปรึกษา Solution การทำธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยี AI 

เช่น Google Cloud, Cisco, Splunk, Slack, GitHub และ KBTG Labs เป็นต้น

เมื่ออ่านมาจนถึงจุดนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงได้รับทราบถึงข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในด้านการตลาด และการพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยสร้างความสะดวกสบาย ให้กับการใช้ชีวิตของผู้คน

สำหรับใครที่พลาดงาน KBTG Techtopia: Across The AI-Verse ก็ไม่ต้องเสียดาย แต่สามารถรอติดตามงานดี ๆ จาก KBTG ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในปีหน้า ได้อย่างแน่นอน