วิเคราะห์ “ฟู้ด แฟคเตอร์-อควา-BEER ใบหยก” แท็กทีมปั้น "FAB" Food Holding บริหาร 8 แบรนด์ร้านอาหารดัง
25 ก.ค. 2024
เมื่อวานนี้ หลายคนคงได้เห็นหนึ่งในข่าวใหญ่ในวงการอาหารบ้านเรา นั่นคือ การจับมือกันของ 3 พันธมิตรธุรกิจ ได้แก่
- FOOD FACTORS บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด
- AQUA บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- BEER ใบหยก
เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB)
ซึ่งเป็นการนำอักษรตัวแรกของทั้ง 3 บริษัท มารวมกัน
พร้อมแต่งตั้งคุณเบียร์-ปิยะเลิศ ใบหยก นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โดยมีภารกิจสำคัญ คือ การเติมสีสัน สร้างไอเดีย ขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหาร รวมแบรนด์ร้านอาหารทั้งสิ้น 8 แบรนด์ จำนวน 204 สาขา แบ่งเป็น
บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด 3 แบรนด์ รวม 142 สาขา ประกอบด้วย
- ร้านซานตาเฟ่
- ร้านซานตาเฟ่ อีซี่
- ร้านเหม็ง แซ็ปนัว
- ร้านซานตาเฟ่ อีซี่
- ร้านเหม็ง แซ็ปนัว
บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 1 แบรนด์ คือ ร้านราเมงเดส รวม 5 สาขา
กลุ่มเบียร์ ใบหยก และบีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง 4 แบรนด์ รวม 57 สาขา ประกอบด้วย
- ร้านส้มตำเจ๊แดง สามย่าน
- ร้านเซไค โนะ ยามะจัง
- ร้านอุชิดายะ ราเมน
- ร้านอิคโคฉะ ราเมน
- ร้านเซไค โนะ ยามะจัง
- ร้านอุชิดายะ ราเมน
- ร้านอิคโคฉะ ราเมน
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เบื้องหลังการจับมือกันครั้งนี้มีที่มาอย่างไร ?
และใครคือผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากดีลในครั้งนี้ ?
ก่อนอื่นต้องฉายภาพให้เห็นแบ็กกราวนด์ของทั้ง 3 บริษัทก่อน..
เริ่มจาก ฟู้ด แฟคเตอร์ เป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ
ปัจจุบัน มีร้านอาหาร 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ ซานตาเฟ่, ซานตาเฟ่ อีซี่ และเหม็ง แซ็ปนัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะ และมีความเชี่ยวชาญด้านอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กและอาหารอีสาน ซึ่งมีตลาดที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ปัจจุบัน มีร้านอาหาร 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ ซานตาเฟ่, ซานตาเฟ่ อีซี่ และเหม็ง แซ็ปนัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะ และมีความเชี่ยวชาญด้านอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กและอาหารอีสาน ซึ่งมีตลาดที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ขณะที่คุณเบียร์ ก็เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จจากการ สร้างแบรนด์ร้านอาหาร อย่างบริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง มีธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน และร้านปีกไก่ทอดอันดับ 1 จากเมืองนาโกยะ เซไค โนะ ยามะจัง (Sekai no Yamachan), ร้านอุชิดายะ ราเมน และร้านอิคโคฉะ ราเมน
รวมทั้งคุณเบียร์ยังเป็นทายาทของตระกูลใบหยก จึงมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ Hospitality เป็นอย่างดี
ส่วน AQUA ก็เป็น Investment Company บริหารการลงทุนที่มีความหลากหลาย ทั้งธุรกิจนวัตกรรมด้านการเงิน (Fintech) ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งมีธุรกิจร้านอาหาร นั่นคือ ร้านราเมงเดส
ดังนั้น การมารวมพลังของ 3 พาร์ตเนอร์ ที่มีจุดแข็งและความชำนาญ ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นประโยชน์มหาศาล
โดยเป้าหมายสำคัญของการร่วมมือกันครั้งนี้ คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการทีมีคุณภาพ รวมถึงประสบการณ์ที่ดี ให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด
โดยตั้งใจให้การรวมตัวกันในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะที่แบรนด์ร้านอาหารแต่ละแบรนด์ ยังคงรักษาหัวใจสำคัญในด้านคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์
ด้านคุณฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เสริมว่า การที่ทั้ง 3 พาร์ตเนอร์ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน และมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้การ Synergy ในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้กลุ่ม AQUA สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น
แต่ยังมั่นใจด้วยว่าการได้ร่วมงานกับทีมที่มีประสบการณ์ รวมถึงการที่คุณเบียร์ มานำทัพเป็น CEO ของ FAB จะทำให้ FAB เป็นส่วนผสมที่ลงตัว
“ถ้าเทียบกับอาหารจานหนึ่งแล้ว ผมคอนเฟิร์มว่าจะต้องเป็นเมนูที่อร่อย จัดจ้าน ทานได้ไม่เบื่อ และได้การการันตีรางวัลจากนักทานอย่างแน่นอน”
ขณะที่คุณเบียร์ มองว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของ FAB คือ Young Generation ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน
เพราะเป็นกลุ่มที่มีการตัดสินใจที่เฉียบขาด กล้าที่จะใช้จ่ายกับสินค้าและการบริการที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง
แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังคงรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ด้วย โดยพยายามหาจุดเด่นของตัวเอง เพื่อเจาะเข้าถึงตัวลูกค้าได้ และต้องเป็นผู้นำทุกเทรนด์ ที่สำคัญคือความจริงใจต้องมาก่อน จึงจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้
พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชื่นชอบการรับประทานอาหารนอกบ้านในร้านอาหารที่มีความหลากหลาย ทำให้ธุรกิจร้านอาหารยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมูฟเมนต์ในวงการอาหารบ้านเรา และชวนให้น่าติดตามว่า จากนี้จะได้เห็นสีสันอะไรใหม่จาก FAB แต่ที่แน่ ๆ คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ คือ ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นั่นเอง