วิเคราะห์ แคมเปญ NATURE ARIGATO จาก Shokubutsu แบรนด์ครีมอาบน้ำ ขายดีอันดับ 1 สามปีซ้อน - MarketThink

ถ้าถามว่า ครีมอาบน้ำแบรนด์ไหนที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุด
แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ” (Shokubutsu Monogatari) ที่ยืนยันได้จากยอดขายอันดับ 1 ถึง 3 ปีซ้อน

แล้วถ้าถามต่อว่าทำไม โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ถึงเป็นแบรนด์ยอดนิยม ?
MarketThink จะพาทุกคนไปหาคำตอบ..

โดยเริ่มจากการพาทุกคนไปสำรวจจักรวาลของตลาดครีมอาบน้ำในเมืองไทยก่อนว่า มีมูลค่าสูงขนาดไหน

ปัจจุบัน ตลาดครีมอาบน้ำในเมืองไทย มีมูลค่าทั้งหมดประมาณ 8,400 ล้านบาท
แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่ครองสัดส่วนสูงสุด คือ กลุ่ม Beauty มีมูลค่าประมาณ 4,700 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 14%

โดยแบรนด์ที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดครีมอาบน้ำในประเทศไทยได้มากที่สุด มาตลอด 3 ปี คือ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ​

เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ครองแชมป์ แถมยังรักษาตำแหน่งมาได้อย่างต่อเนื่อง

หลัก ๆ มาจากคุณภาพสินค้า
เพราะการที่สินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจะครองใจผู้บริโภคได้ ต้องมาจากรากฐานที่แข็งแกร่ง

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ชื่อโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นนั้น มีความหมายว่า “ตำนานแห่งพืชพรรณธรรมชาติ” นั่นเอง

โดยความหมายของชื่อแบรนด์ ก็สะท้อนถึงจุดแข็งของแบรนด์ นั่นคือ เป็นครีมอาบน้ำ ที่ 99% ของสารสำหรับทำความสะอาด สกัดจากพืชธรรมชาติ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ลำพังสินค้าดีอย่างเดียวอาจจะไม่พอ การทำการตลาด และวางกลยุทธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็สำคัญ

ที่ผ่านมา จะเห็นว่า โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ มี 3 กลยุทธ์หลัก ๆ ที่ทำให้แบรนด์ยืนหนึ่งในสมรภูมิตลาดครีมอาบน้ำ

​1. การสร้าง Brand Awareness และจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยใช้ “Presenter Marketing”
หรือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้บุคคลหรือกลุ่มบุคคล แสดงสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าหรือผู้บริโภค

สำหรับ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ เอ่ยชื่อแบรนด์เมื่อไร นอกจากชื่อแบรนด์จะติดหู
หลายคนน่าจะนึกถึง นางเอกสาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” ที่เป็นพรีเซนเตอร์ต่อเนื่อง มากกว่า 7 ปี

และทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ผิวมีสุขภาพดี ด้วยพลังของธรรมชาตินั่นเอง

2. การเป็นแบรนด์ที่ขยันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ
มองผิวเผิน ครีมอาบน้ำอาจจะมีฟังก์ชันหลัก ๆ แค่การทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรก

แต่จริง ๆ แล้ว ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ มีความต้องการมากกว่านั้น

เพราะบางคนมองไปถึงประสบการณ์ในการอาบน้ำ เช่น เรื่องของกลิ่น ฟอง ไปจนถึงคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ
เพื่อเจาะตลาดครีมอาบน้ำพรีเมียมที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อาทิ Shokubutsu Whipped Foaming Bath ที่มีนวัตกรรมฟองโฟมนุ่มจากประเทศญี่ปุ่น
Shokubutsu Skin Solution Series นวัตกรรมเจลอาบน้ำสูตร Prebiotic ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคคนไทยที่มีปัญหาผิว

3. ไม่ได้โฟกัสแค่ยอดขาย แต่เน้นเติบโตไปกับสังคม
อีกหนึ่งจุดแข็งของโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ คือ ไม่ได้เน้นการเติบโตแค่ในเชิงยอดขาย แต่พร้อมเติบโตไปพร้อมกับสังคม

พูดง่าย ๆ ว่า มี Brand Purpose ที่ชัดเจนว่าอยากจะทำอะไรเพื่อสังคม

สะท้อนได้จาก การที่โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ จริงจังกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยการลดน้ำหนักขวดบรรจุภัณฑ์ลงถึง 12% ต่อขวด
ซึ่งในแต่ละปีมีการผลิตขวดบรรจุภัณฑ์จำนวนประมาณ 8,596,000 ขวด

ทำให้ใน 1 ปี ทางแบรนด์มีส่วนช่วยในการลดการใช้พลาสติกลงได้มากถึง 42 ตัน/ปี

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากชุมชนท้องถิ่น

หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่น่าภูมิใจ คือ การลงพื้นที่ไปศึกษาและวิจัย จนสามารถนำมะไฟจีนจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดน่าน มาพัฒนาสารสกัดวัตถุดิบใหม่ ในการทำผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำและเจลล้างหน้า โชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ ได้สำเร็จ

ที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ยังได้สนับสนุนชุมชนผู้ปลูกมะไฟจีนให้มีรายได้จากการพัฒนาวัตถุดิบของสินค้า รวมทั้งสนับสนุนเกษตรชุมชนของชาวบ้านให้มีรายได้ต่อเนื่องอย่างยั่งยืนอีกด้วย

มาถึงตรงนี้ คงหายข้องใจแล้วว่า ทำไม โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ถึงมียอดขายอันดับ 1 ถึง 3 ปีซ้อน

แต่เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จให้กับแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นการขอบคุณผู้บริโภคจากใจ
ทางแบรนด์จึงได้จัดแคมเปญกิจกรรมสุดพิเศษ ในธีม “NATURE ARIGATO : อาริกาโตะธรรมชาติ ขอบคุณทุกคุณค่าคู่ผิวสวย”

ที่ตั้งใจขอบคุณ พลังของพืชพรรณธรรมชาติจากญี่ปุ่น ที่ทำให้โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ครองอันดับ 1 ในทุกความมั่นใจของผิวสาวไทยถึง 3 ปีซ้อน และขอบคุณธรรมชาติ ที่ทำให้ผิวสวยดุจธรรมชาติสร้าง

เพราะคุณค่าของธรรมชาติทั้งหมดนี้ หลอมรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ของโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ทั้ง 5 สูตร ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ได้แก่

- Japanese Camellia กลิ่นหอมแนวดอกไม้ หอมติดผิว ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดี แลดูกระจ่างใส
- Chinese Milk Vetch กลิ่นยอดนิยม หอมดอกไม้อ่อน ๆ หอมติดผิว ผิวนุ่ม
- Orange Peel Oil กลิ่นหอมสดชื่น สดใส ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส มีชีวิตชีวา
- Ginkgo กลิ่นหอมผ่อนคลาย ช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่ม
- Oat Milk สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้ง

สำหรับใครที่อยากค้นหานิยามของ NATURE ARIGATO : อาริกาโตะธรรมชาติ เพิ่มเติม
สามารถตามไปชม TVC ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=3aLn5IaUE9w]

ส่วนอนาคต แน่นอนว่า ในฐานะที่โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ เป็นแบรนด์ภายใต้ ไลอ้อน (ประเทศไทย) ในเครือสหพัฒน์

ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคของเมืองไทย
จากนี้ยังคงมีแผนรุกตลาดครีมอาบน้ำ เพื่อขยายฐานสร้างการเติบโต พร้อมนำสินค้านวัตกรรมใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

ส่วนจะมีผลิตภัณฑ์อะไรมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ ที่มีความละเอียดอ่อนขึ้น ต้องรอติดตาม