รู้จัก “LEAD” หลักสูตรสอนธุรกิจรีเทลของเซ็นทรัลพัฒนา ที่เจ้าของ GENTLEWOMAN, RAVIPA, YUEDPAO เคยเรียนด้วยกัน

รู้จัก “LEAD” หลักสูตรสอนธุรกิจรีเทลของเซ็นทรัลพัฒนา ที่เจ้าของ GENTLEWOMAN, RAVIPA, YUEDPAO เคยเรียนด้วยกัน

12 ก.ค. 2024
แม้จะอยู่คนละวงการ และต่างธุรกิจ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เจ้าของ GENTLEWOMAN, RAVIPA, ร้านชาชงดี, BEAUTRIUM, Salad Factory, YUEDPAO และอีกหลายแบรนด์มาแรง เคยเรียนหลักสูตรธุรกิจอยู่ในคลาสเดียวกัน
คลาสที่ว่า ก็คือ “LEAD” หลักสูตรสอนทำธุรกิจรีเทล ที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) 
หนึ่งในผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้ารายใหญ่ของไทย จัดขึ้นมา
แล้วหลักสูตรนี้มีอะไรดี ? ทำไมเจ้าของแบรนด์ระดับที่มีรายได้หลักร้อยล้าน
หรือพันล้านถึงสนใจเข้าไปเรียน ? 
บทความนี้ MarketThink จะสรุปความน่าสนใจของโครงการ “LEAD” แบบเข้าใจง่าย ๆ
LEAD คือโครงการที่จะเปิดให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มาเรียนรู้เรื่องธุรกิจด้วยกัน 
และทดลองทำธุรกิจจริงไปด้วยกัน “แบบเข้มข้น” 
โดยคนที่จะเข้าไปเรียนหลักสูตร LEAD ได้ จะต้องเป็นผู้ประกอบการ
ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์เท่านั้น และส่วนใหญ่เจ้าของกิจการจะต้องลงมาเรียนเอง 
ห้องเรียนแห่งนี้เลยเต็มไปด้วยนักธุรกิจระดับเทพในเรื่องต่าง ๆ มีทั้งคนที่เก่งด้านการเงิน, การตลาด, การปั้นแบรนด์มารวมตัวกัน คอยแชร์ประสบการณ์เรื่องต่าง ๆ ให้กันและกันอย่างใกล้ชิด​
จนเกิดเป็นคอนเน็กชันและเครือข่ายธุรกิจใหม่ ๆ ในแบบหาที่ไหนไม่ได้ 
ในส่วนของหลักสูตร นักเรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นเบสิกของการทำธุรกิจ 
เช่น การทำแบรนด์, การพยากรณ์ยอดขาย ไปจนถึงเรื่องยาก ๆ 
อย่างการเขียนแผนธุรกิจ, เรื่องการวิเคราะห์ดาตา และอีกหลาย ๆ เรื่องที่ต้องรู้ในยุคนี้
โดยมี ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และ ผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ เป็นที่ปรึกษาเรื่องธุรกิจให้ตลอดหลักสูตร
อีกไฮไลต์เด็ดของโครงการ LEAD ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เซ็นทรัลพัฒนามีพื้นที่ให้ทดลองทำจริง วัดผลสำเร็จด้วยการทำยอดขายจริงในเวิร์คช็อป Pop-up market ในพื้นที่ศูนย์การค้า Prime location ของเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อให้ผู้เรียนทดลองตลาดใหม่ สินค้าใหม่ได้ทันที ว่าแบบไหนเวิร์ก หรือไม่เวิร์กกับธุรกิจของตัวเอง จนหลายแบรนด์สเกลอัพธุรกิจได้เลยตั้งแต่ตอนเรียน ไม่ต้องรอทำหลังจบหลักสูตร
ทำให้คนที่จบจากหลักสูตร LEAD ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่เป็นโครงการที่ได้อะไรกลับไปเยอะ 
ไม่ใช่แค่คลาสเรียนธุรกิจทั่ว ๆ ไป 
ทั้งนี้ โครงการ LEAD ถูกจัดมา 5 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งที่ 5 ก็เพิ่งจบไปหมาด ๆ 
และก็เต็มไปด้วยนักธุรกิจไฟแรงเหมือนครั้งก่อน ๆ 
แล้วในรุ่นที่ 5 นี้ มีนักเรียนคนไหน จากแบรนด์อะไร น่าสนใจบ้าง ? มาดูกัน 
- KIM & CO. ธุรกิจร้าน Multi-brand Store รวบรวมแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์เกาหลีเอาไว้กว่า 200 แบรนด์ 
มีเจ้าของคือ คุณต้องตา อาชาเทวัญ (ต้อง)
โดย KIM & CO. มี House Brand ของตัวเองชื่อว่าแบรนด์ KIM & CO. ORIGINAL 
เน้นขายรองเท้าผ้าใบใส่สบาย ดิไซน์สวย ในราคาเข้าถึงง่าย 
คุณต้องบอกว่า โครงการ LEAD ทำให้ KIM & CO. กล้าที่จะสร้างความแตกต่าง
โดยการนำ “นวัตกรรม” กับ “แฟชั่น” ที่ดูไม่ค่อยจะเข้ากันมารวมกัน จนเกิดเป็นจุดเด่นที่คู่แข่งในตลาดไม่มี คือเป็นรองเท้าแฟชั่นที่กันน้ำ และยืดหยุ่น ใส่สบายในเวลาเดียวกัน
ที่สำคัญ ยังทำให้ KIM & CO. มีที่ยืนในใจลูกค้า และสามารถขยายสาขาจาก 3 สาขา 
เป็น 17 สาขา ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น หลังจากเข้าหลักสูตรได้ 
- SELF. SMOOTHIE แบรนด์สมูทที ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของเพื่อน 3 คน 
มาเปิด Pop-up Store เล็ก ๆ แต่ขายดิบขายดี จนต้องขยายสาขา
คุณณภัสสร ฉลาดมานะกุล (มายด์) หนึ่งในผู้ก่อตั้งบอกว่า จริง ๆ แล้วธุรกิจสมูททีนั้นถือเป็น Red Ocean พอสมควร แต่ก็เชื่อว่าจะต้องมี Blue Ocean ซ่อนอยู่ใน Red Ocean เสมอ จึงเลือกที่จะลงมือทำเลย 
โดยมุ่งเน้นการนำเสนอสมูททีที่แตกต่าง ด้วยความจริงใจ ใช้ผลไม้สดมาปั่นให้ดูแบบเห็น ๆ ต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่จะไม่ให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการทำ
คุณมายด์บอกว่าหลังจากเข้าหลักสูตร LEAD ก็ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อน ๆ 
จากหลากหลายอุตสาหกรรม มีความเชี่ยวชาญ “รู้จริง” ในแต่ละเรื่องที่ต่างกันไป และได้รับคำแนะนำที่จริงใจจากอาจารย์และเพื่อน ๆ
ก็ยิ่งทำให้ตัวคุณมายด์เองมั่นใจมากขึ้นว่ามาถูกทางแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ตัวเองยังไม่เก่ง 
และได้มีโอกาสเรียนรู้เพิ่มจากโครงการนี้เยอะเหมือนกัน
- BOTTOMLESS COFFEE ROASTERS ตำนาน Specialty Coffee 
แบรนด์แรกของเมืองไทย ของคุณนพพล อมรพิชญ์ปรัชญา (หมู)
BOTTOMLESS COFFEE ROASTERS เกิดจากความคลั่งไคล้ในกาแฟของคุณหมู 
ที่คิดว่าอยากนำกาแฟที่พิเศษแบบนี้ ออกไปให้คนทั่วไปได้ชิมบ้าง จนเกิดเป็นธุรกิจขึ้นมา 
แต่คุณหมูยอมรับว่าตัวเองอาจจะเก่งเรื่องกาแฟ แต่ไม่ค่อยเก่งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เท่าไร 
พอได้เข้าร่วมโครงการ LEAD ก็ได้ทั้งเพื่อนร่วมคลาส และผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเสริมความรู้ตรงนี้ให้แน่นขึ้น
ที่ว่ามาเป็นแค่ตัวอย่างของนักเรียนในคลาสเท่านั้น ยังมีนักเรียนอีกหลายท่านที่มีธุรกิจที่น่าสนใจเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็น
- คุณวิพาสน์พร ศรีพุ่ม เจ้าของแบรนด์ยาดม HOLEN (โฮเล่น) ที่เอาคาแร็กเตอร์เตอร์จากวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์มาใส่สินค้าอย่างยาดมสมุนไพรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยหลังจากที่คุณวิพาสน์พรได้เข้าร่วมโครงการ LEAD ก็ได้มีโอกาสทดลองใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการเพิ่มยอดขายให้สินค้า
อย่างการ Collaboration กับเจ้าของแบรนด์อื่นในชั้นเรียน เพื่อแชร์ฐานลูกค้ากัน รวมไปถึงการทดลองขายยาดมในช่องทางใหม่ ๆ ทั้งบนออนไลน์ และช่องทางออนไซต์ ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล
จนยอดขายของ HOLEN เพิ่มขึ้น 3 เท่า หลังเข้าโครงการเลยทีเดียว

- คุณเอกพล วงศ์ภัทรกุล เจ้าของแบรนด์กระเป๋าเดินทาง COVE ที่สร้างจุดเด่นให้กระเป๋าเดินทางด้วยฟังก์ชันการใช้งานและดิไซน์ทันสมัย มาเสนอขายในราคาที่จับต้องได้
โดยคุณเอกพลบอกว่า หลังจากเข้าโครงการ LEAD ก็ได้เรียนรู้เรื่องของการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถออกสินค้าใหม่ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น และโต 100% ได้ภายใน 1 ปี หลังจากเข้าโครงการ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเซ็นทรัลพัฒนาถึงต้องทำขนาดนี้ให้กับนักเรียนด้วย ? 
คำตอบคือ เซ็นทรัลพัฒนาตั้งใจทำคลาสนี้ให้เป็น “Gateway to Success” หรือแพลตฟอร์มที่จะนำพาผู้ประกอบการหน้าใหม่ ๆ เข้าสู่ Business Ecosystem อันแข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัลมากขึ้น 
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าแบรนด์เล็กโต แบรนด์ใหญ่ก็จะโตตามไปด้วย เหมือนเป็นกลยุทธ์ ที่ Win-Win ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
สุดท้ายนี้ โครงการ LEAD ครั้งที่ 6 ได้ถูกจัดขึ้นอีกครั้งในธีม Growth & Sustainability และได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมหลักสูตรครบเรียบร้อยแล้ว
สำหรับรายละเอียดของหลักสูตร LEAD ครั้งที่ 6 ถ้าให้สปอยล์สั้น ๆ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจให้เติบโต “แบบยั่งยืน” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องรักษ์โลก แต่จะมีการอัปเดตเนื้อหาให้เข้ากับยุคนี้อีกด้วย
ไม่แน่ว่าธุรกิจที่มีรายได้เป็นร้อยเป็นพันล้านรายต่อไป อาจจะเป็นใครสักคนที่ได้อ่านบทความนี้ แล้วไปสมัครเข้าหลักสูตร LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา ในอนาคตก็ได้
#LEAD #เซ็นทรัลพัฒนา #CentralPattana
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.