อินทนิล กับการเป็นร้านกาแฟ Eco Brand ที่สร้าง Impact ทั้งยอดขายและรักษ์สิ่งแวดล้อม

“โกโก้อร่อย กาแฟหอมละมุน รสชาติเข้มข้น”
ประโยคนี้ น่าจะทำให้หลายคนนึกถึงร้านกาแฟ อินทนิล ที่ปัจจุบันมีกว่า 1,050 สาขา ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด

ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่า ร้านกาแฟนี้กลับไม่ได้มีจุดขายแค่รสชาติเครื่องดื่มที่ อร่อย เพียงอย่างเดียว เมื่อเวลานี้ อินทนิล ได้ประกาศว่าได้ใช้แก้ว Bio Cup ไปแล้วกว่า 170 ล้านใบ นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลถึงเดือนเมษายน 2567)

และจากจำนวนแก้ว Bio Cup ทั้งหมด เมื่อนำมาเทียบการลด CO2 equivalent เท่ากับ 6,890 ตัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้อายุ 10 ปี กว่า 177,000 ต้น เลยทีเดียว

ทีนี้คงสงสัยว่าแก้ว Bio Cup มันคืออะไร ทำไมถึงลดการปล่อย CO2 ได้อย่างมหาศาล ?

อธิบายง่าย ๆ คือ Bio Cup เป็นแก้วเครื่องดื่มที่ผลิตจากพืช 100% สลายตัวได้ทางชีวภาพภายใน 180 วัน (ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมในกระบวนการหมักในโรงปุ๋ยหมัก) และมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า หากเทียบกับแก้วพลาสติกทั่วไปที่ร้านกาแฟส่วนใหญ่ใช้กัน ที่ใช้เวลาย่อยสลายนาน 450 ปี ส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกตามมา

นั่นแปลว่าแก้ว Bio Cup ของ อินทนิล นอกจากช่วยลดการปลดปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ ยังช่วยลดปัญหามลพิษจากการกำจัดขยะแบบไม่ถูกต้องอีกด้วย

และที่พีกไปกว่านั้นคือ ยิ่ง อินทนิล ขายเครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วยแก้ว Bio Cup นานเท่าไร ยอดขายก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปี 2558 มียอดขายเครื่องดื่มนับเฉพาะที่ใช้แก้ว Bio Cup อยู่ที่ 4 ล้านใบต่อปี
ปี 2566 มียอดขายเครื่องดื่มที่ใช้แก้ว Bio Cup สูงถึง 31 ล้านใบต่อปี

จะเห็นว่าในเวลา 9 ปี ยอดการใช้แก้ว Bio Cup เติบโตถึง 675% เลยทีเดียว

ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยุคนี้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และพร้อมสนับสนุนแบรนด์สินค้าที่ทำธุรกิจด้วยแนวทางนี้ เหมือนอย่างที่ อินทนิล ที่กำลังเติบโตด้วยการเป็น “ร้านกาแฟรักษ์โลก เพื่อสิ่งแวดล้อม” นั่นเอง

และที่สำคัญไม่แพ้ยอดขายก็คือ การรักษ์โลกอย่างยั่งยืน เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ อินทนิล ที่ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้ต้องการเป็น “บริษัทพลังงานที่สร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว”

ด้วยนโยบาย ที่ต้องการใช้นวัตกรรมสีเขียว + ไอเดียคิดนอกกรอบ เพื่อสร้างธุรกิจให้ยั่งยืน ก็เลยเป็นโจทย์ให้ ร้านกาแฟ อินทนิล ที่เป็นบริษัทในเครือ คิดต่อว่า..

“ทำไมต้องปล่อยให้ Bio Cup ย่อยสลายเองไปอย่างเปล่าประโยชน์ เราควรจะหาวิธีเพิ่มมูลค่าดีกว่าไหม ?”

คำถามนี้จึงเป็นที่มาให้เกิดโครงการ “Inthanin Bio Cup Upcycling” กับ PLA Plus (Start up)
ที่เป็นการอัพไซเคิลแก้ว Bio Cup ขึ้นรูปผลิตเป็นสินค้าต่าง ๆ โดยมีกระบวนการผลิตคร่าว ๆ ดังนี้

โดยเริ่มต้นจะนำแก้ว Bio Cup ที่ใช้แล้วผ่านเครื่องบดละเอียด จากนั้นก็ผ่านกระบวนการอัดรีดด้วยความร้อนที่มีการผสมเรซินเข้ามา

จนกลายมาเป็นเส้นใยที่แข็งแกร่งและทนทาน ขั้นตอน 3D Filament ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ (3D Printing Technology) ที่จะขึ้นรูปเพื่อผลิตเป็นสินค้าต่าง ๆ

โดยสินค้าแรกที่เริ่มอัพไซเคิล และเพิ่มมูลค่าให้แก้ว Bio Cup จะเป็น “แจกัน” มอบแสดงความยินดี ร้านแฟรนไชส์ซี สาขาเปิดใหม่ ซึ่งในอนาคตก็น่าจะเห็นการต่อยอดไปยังสินค้าอื่น ๆ ที่วางขายในร้านอินทนิล หรือช่องทางการขายอื่น ๆ ก็มีความเป็นไปได้

ขณะเดียวกันแม้ทาง อินทนิล จะเปลี่ยนมาใช้หลอดพลาสติกชีวภาพ แต่ก็ยังมีแคมเปญ “อินทนิล ยกดื่ม” #ให้หลอดเมื่อขอ ที่รณรงค์ให้คนไม่ใช้หลอดในการดื่มเครื่องดื่ม ถือเป็นการลดจำนวนขยะอีกหนึ่งวิธีที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

จะเห็นว่าทุก ๆ การเคลื่อนไหวของ อินทนิล คือสร้างการรับรู้ให้แก่คนไทยทั่วประเทศ ได้รู้ว่า อินทนิล คือ “ผู้นำเทรนด์ร้านกาแฟรักษ์โลก” ที่แม้จุดขายนี้จะมีร้านกาแฟอื่น ๆ ทำตาม แต่ก็ยังไม่มีร้านไหน ที่ลงทุนและลงมือทำอย่างจริงจังเท่ากับ อินทนิล

การเติบโตด้วยแนวคิดนี้เอง ทำให้ อินทนิล ประกาศชัดเจนว่าในอีก 4-5 ปีข้างหน้า จะสามารถขยายร้านกาแฟของตัวเองได้กว่า 2,500 สาขา ผ่านทั้งทำเลในสถานีบริการน้ำมันบางจาก และทำเลนอกสถานีบริการฯ เช่น ทำเลสำนักงาน, ศูนย์การค้า และแหล่งชุมชนต่าง ๆ โดยทุกร้านก็จะอยู่ภายใต้แนวคิด “อินทนิลเพื่อคุณ เพื่อโลก”

นับเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในวันนี้ หลายคนอาจยังมองภาพไม่ออก ว่าการทำธุรกิจด้วยแนวคิดยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม มันจะสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ ธุรกิจตัวเอง ด้วยวิธีไหน ?

อินทนิล.. ได้ทำให้เห็นแล้วว่า ธุรกิจร้านกาแฟกับสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ มันสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้

References
-เอกสารข้อมูล บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด
-ข้อมูลจาก บริษัท เนเชอร์เวิร์คส์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด