
“อินทนิล” เปิดสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมันบางจาก BSRC เสริมกลยุทธ์ขยายฐานตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เสริมแกร่งสาขาทั่วประเทศ
26 มี.ค. 2025
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) และผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมเปิดร้านอินทนิลสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมัน บางจาก ที่บริหารงานโดย บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC)
การเปิดอินทนิลสาขานี้อยู่ในช่วงเวลาที่อินทนิลเปิดตัวจำหน่ายมัทฉะพรีเมี่ยม (Uji Matcha) พร้อมกันทั่วประเทศ และนอกเหนือจากเครื่องดื่มซึ่งเป็นจุดแข็งของแบรนด์อินทนิลแล้ว ยังต่อยอดด้วยการเพิ่มสินค้าในกลุ่มสินค้า Non-Drink เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของลูกค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ไม่จำกัดเพียงแค่เครื่องดื่ม และมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มดังกล่าว อาทิ เมนูอาหารเช้า เช่น โจ๊ก ไข่กระทะ ขนมไทย ของว่างต่าง ๆ จับคู่กับเครื่องดื่มได้ตลอดวัน นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมเมนูเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำผลไม้ปั่น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 15-20 ตั้งแต่เริ่มจำหน่ายมา
ปีนี้ อินทนิลตั้งเป้าขยาย 1,400 สาขา พร้อมผลักดันรูปแบบการเพิ่มเติมสินค้ากลุ่ม Non-Drink กว่า 500 สาขา ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ เพื่อพลิกโฉมร้านอินทนิล สู่รูปแบบใหม่ที่มีภาพลักษณ์ทันสมัย และรองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
พร้อมกันนี้ อินทนิลจัดแบรนด์แคมเปญ “ทำสุด ไม่ทำทรง” เพื่อสื่อสารความเป็นตัวตนของแบรนด์ ที่ทำสุดกับเครื่องดื่มทุกแก้ว พร้อมสนับสนุนผู้คนที่ตั้งใจทำสิ่งต่าง ๆ อย่างสุดความสามารถเช่นกัน โดยได้เปิดรับเรื่องราวจากลูกค้าที่ส่งเรื่องที่ทำสุดในรูปแบบ ของตนเองนำเสนอผ่านโฆษณาออนไลน์ 3 เรื่อง รวมถึงเชิญชวนลูกค้าร่วมทำภารกิจผ่านแคมเปญ “21 Days Challenge” ทำให้ชิน อินเป็นนิสัย เพื่อรับรางวัลพิเศษ จากทฤษฎี 21 วัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ว่า ถ้าเราทำอะไรติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน พฤติกรรมนั้นจะติดตัวกลายเป็นนิสัย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกับน้ำมันบางจาก “เติมฉ่ำ ซัมเมอร์” เฉพาะสมาชิก
บางจากกรีนไมลส์ที่เติมน้ำมันตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 นำสลิปแลกรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่มอินทนิลครึ่งราคาสำหรับเมนูอเมริกาโน่และชาไทย โดยใช้สิทธิ์ได้ถึง 15 เมษายน 2568
บางจากกรีนไมลส์ที่เติมน้ำมันตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 นำสลิปแลกรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่มอินทนิลครึ่งราคาสำหรับเมนูอเมริกาโน่และชาไทย โดยใช้สิทธิ์ได้ถึง 15 เมษายน 2568
เกี่ยวกับบางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมันผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล ร้าน Lemon Green น้ำมันหล่อลื่น FURIO EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 3) กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาดดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจแนวใหม่ เช่น ธุรกิจ Battery as a Service สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie และได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
บางจากฯ ได้รับการจัดอันดับ Top 1% ระดับสูงสุดของโลกด้านความยั่งยืน ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing ใน S&P Sustainability Yearbook 2025 โดย S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA)ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี DJSI รวมถึงได้รับการจัดอันดับที่ 24 ใน Fortune Southeast Asia 500 และเป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินความยั่งยืน MSCI ESG Ratings ระดับ AA สูงสุดในกลุ่ม Oil & Gas Refining, Marketing, Transportation & Storage ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 และได้รับการยกย่องจาก Financial Times ให้เป็น Asia Pacific Climate Leader ในปี 2024 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล "สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567" (Kincentric Best Employer Thailand 2024) เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มธุรกิจน้ำมันของไทยที่ได้รับการยกย่องจากองค์กรชั้นนำระดับโลก
บางจากฯ ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangchak.co.th/th/home