กรณีศึกษา โมเดลธุรกิจ จ้างดูโฆษณา แลกทีวี ไปใช้ฟรี 1 เครื่อง

กรณีศึกษา โมเดลธุรกิจ จ้างดูโฆษณา แลกทีวี ไปใช้ฟรี 1 เครื่อง

19 พ.ค. 2023
เชื่อว่าทุกคนคงเคยมีประสบการณ์ จ่ายเงินหลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นบาท เพื่อซื้อ “ทีวี” เครื่องใหม่ มารับชมรายการทีวี รวมถึงคอนเทนต์ออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ 
แต่เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทสตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่า Telly ได้ทำการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ 
แม้สเป็กต่าง ๆ จะเหมือนกับทีวีทั่วไป เช่น มีหน้าจอขนาด 55 นิ้ว ความละเอียด 4K มาพร้อมกับลำโพงซาวนด์บาร์ในตัว
แต่สิ่งที่แตกต่างจากทีวีทั่วไป ก็คือ ทีวีเครื่องนี้ มีหน้าจอแสดงผล “โฆษณา” ที่ด้านล่างของทีวี แยกออกมาจากตัวเครื่องโดยเฉพาะ
และที่สำคัญที่สุด คือ ทีวีเครื่องนี้ ไม่ได้มีไว้ขาย แต่มีไว้ “แจกฟรี” กลายเป็นโมเดลการทำธุรกิจที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้จะฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ที่บริษัทจะผลิตทีวีออกมา แล้วยกให้เราไปวางไว้ที่บ้านแบบฟรี ๆ 
แต่ในความจริงแล้ว สำนวนที่ว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” ก็ยังคงใช้ได้อยู่
เพราะ Telly ตั้งใจแจกทีวีให้แบบฟรี ๆ แลกกับการที่เราต้องยอมดูโฆษณาตลอดระยะเวลาที่ทีวีเครื่องนี้ตั้งอยู่ในบ้านของเรา
นั่นหมายความว่า เรากำลังถูกจ้างให้ดูโฆษณา โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นทีวี 1 เครื่อง ซึ่งมีมูลค่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,000 บาท) 
และตราบใดที่เรายังยอมดูโฆษณาบนทีวีเครื่องนี้ เราก็จะยังได้สิทธิ์ในการใช้ทีวีเครื่องนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
โดย CEO ของ Telly ระบุว่า จะมีการแสดงโฆษณา ที่หน้าจอด้านล่างเท่านั้น ซึ่งจะไม่บดบังการรับชมคอนเทนต์ปกติอย่างแน่นอน
แต่ในอนาคต อาจมีการแสดงโฆษณา ที่หน้าจอหลักขนาด 55 นิ้ว ในขณะที่เราไม่ได้รับชมคอนเทนต์ใด ๆ เช่นกัน
ซึ่งหลายคนอาจมองว่า การได้รับทีวีมาแบบฟรี ๆ แลกกับการดูโฆษณา เป็นสิ่งที่ฟังแล้วดู “คุ้มค่า” 
แต่ในความจริงแล้ว อย่าลืมว่า สิ่งที่ Telly จะได้จากผู้ที่ใช้ทีวีเครื่องนี้ ไม่ได้มีแค่เพียงการดูโฆษณาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังมี “ข้อมูลส่วนบุคคล” อีกเป็นจำนวนมาก เช่น
- คอนเทนต์ที่รับชม
- ช่วงเวลา และระยะเวลาที่รับชม
- ตำแหน่งที่ตั้งของทีวี
- สิ่งที่ค้นหาบนทีวี
- การตั้งค่า
- ปุ่มบนริโมตทีวีที่กด
รวมถึง Telly ยังมีการเก็บข้อมูลด้วยว่า ใครเป็นคนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในขณะนั้นอีกด้วย
ซึ่งนั่นหมายความว่า เรายอม “ขาย” ข้อมูลส่วนตัว และพฤติกรรมการใช้งานของเราแทบทั้งหมด เพื่อแลกกับทีวี 1 เครื่อง นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกข้อมูลในอีกด้านหนึ่งด้วยว่า “สมาร์ตทีวี” ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ต่างก็มีการเก็บข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ใช้งาน รวมถึงการแสดงโฆษณา ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
โดยเฉพาะในเมนูหน้าจอ “โฮม” ที่ทีวีแบรนด์ต่าง ๆ มักเลือกแสดงคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ซึ่งในบางครั้งคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่ว่านี้ ก็เป็นโฆษณาที่แอบแฝงอยู่นั่นเอง
ส่วนในด้านการทำธุรกิจนั้น ก็นับว่า Telly มีโมเดลการทำธุรกิจที่แปลกใหม่และน่าสนใจอยู่พอสมควร 
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การแจกทีวีแบบฟรี ๆ เพื่อแลกกับการดูโฆษณานั้น ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
แต่ในโลกของเทคโนโลยีนั้น เราได้เห็นการทำธุรกิจ ที่มีโมเดลการหารายได้ ในลักษณะนี้มาจนชินตาแล้ว
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook, Twitter และ Instagram ที่เราใช้งานกันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แลกกับการที่เราต้องยอมดูโฆษณาต่าง ๆ ที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม รวมถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ ยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเรา เพื่อนำไปวิเคราะห์ อีกทีหนึ่งด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หากโมเดลการทำธุรกิจของ Telly ประสบความสำเร็จในการหารายได้ ก็อาจมีบริษัทอื่น ๆ ที่สนใจแจกทีวีฟรีให้กับคนทั่วโลก ตามรอย Telly 
และเราคงได้มีโอกาสเห็นรูปแบบการรับชมทีวีของคนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ต้องเสียเงินในหลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นบาท เพื่อซื้อทีวี 1 เครื่อง
เปลี่ยนเป็นการ “ยืม” ทีวีมาใช้ แลกกับการดูโฆษณา และขายข้อมูลส่วนบุคคลของเรา..
อ้างอิง:
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.