กรณีศึกษา ท็อปส์กับวิธีขับเคลื่อนธุรกิจตัวเองด้วย Soft Power ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

กรณีศึกษา ท็อปส์กับวิธีขับเคลื่อนธุรกิจตัวเองด้วย Soft Power ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

5 เม.ย. 2024
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะถึงนี้ เราได้เห็นแบรนด์สินค้ามากมาย ได้คิดค้นแคมเปญและกลยุทธ์การตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ตัวเอง
หนึ่งในแบรนด์ที่ MarketThink รู้สึก Wow กับไอเดียก็คือ ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล
เพราะสิ่งที่ ท็อปส์ ทำคือ การเลือกเอา The Best of Thailand มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผลักดันอาหาร, ผลไม้ และสินค้าไทย ที่มาจากเกษตรกรและธุรกิจ SME ให้ลูกค้าได้เที่ยว ชิม ช็อป จบในทีเดียว ผ่านทุกสาขาของตัวเอง เช่น ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่ ทุกสาขา 
งานเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ - 23 เมษายน 2567 
ซึ่งท็อปส์ใช้ชื่อแคมเปญนี้ว่า Discover Thailand: Land of Food, Land of Smiles
โดยมีเป้าหมายที่จะให้อาหารและสินค้าไทยต่าง ๆ ที่เป็น Soft Power ให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเที่ยวในเทศกาลนี้ โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดราว ๆ 2.44 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว 
โดยในแคมเปญนี้ จะมี 5 แนวคิดการตลาดสุดเจ๋ง ที่จะนำมาขับเคลื่อนรายได้และผลักดัน Soft Power ไทยให้ Impact หลายมิติ
1. ท็อปส์ ขับเคลื่อนอาหารไทยให้เป็น Soft Power ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องหลงใหล
รู้หรือไม่ ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกกว่า 12,000 แห่ง ที่น่าสนใจ คือ มีหลายเมนูที่นานาชาติยกให้เป็นเมนูระดับโลก เช่น ต้มยำกุ้ง, ผัดไทย, ส้มตำ 
พูดได้ว่าอาหารไทย คือ Soft Power ที่หลาย ๆ ประเทศต่างชื่นชอบในรสชาติความอร่อย
และด้วย “ท็อปส์” ถือเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ยืนหนึ่งในเรื่องวัตถุดิบและคุณภาพอาหาร จนขึ้นแท่นเป็น “ฟู้ดรีเทล” เบอร์หนึ่งในใจผู้บริโภค เลยเป็นเหตุผลให้ ท็อปส์ นำจุดแข็งตรงนี้มาใช้ในแคมเปญ ด้วยการนำสารพัดเมนูอาหาร, ผลไม้, ขนม มากกว่า 1,000 รายการ ที่มาจากเกษตรกรและ SME เช่น ปลากะพงสามน้ำจากสงขลา, มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว
อีกทั้งยังมีการนำร้านอาหาร สตรีตฟู้ด ระดับตำนานผ่านทาง Tops Eatery ขนมจีนแกงปู, ข้าวซอยหมูกรอบชาชู, สะเต๊ะปาร์ตี้ เป็นต้น จนถึงมีการนำสินค้าเกี่ยวกับวันสงกรานต์ ไม่ว่าจะเป็น กางเกงช้าง, ปืนฉีดน้ำ, แว่นตากันน้ำ
วิธีนี้สร้างประโยชน์หลายมิติเลยทีเดียว เพราะลูกค้าจะมีสินค้าให้เลือกมากมาย ท็อปส์เองก็มีรายได้เพิ่มขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือเกษตรกรและ SME สร้างรายได้เพิ่มขึ้น
2. เปลี่ยนดีไซน์สาขาให้มีกลิ่นอายเทศกาลสงกรานต์  
UNESCO ขึ้นทะเบียน เทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรม สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเที่ยวเทศกาลนี้ และในปีนี้ก็น่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน ๆ เมื่อทางภาครัฐเองได้เข้ามาผลักดันในหลาย ๆ มิติ 
และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลนี้ บวกกับสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้เห็นว่าประเทศไทยเรามีดีอะไรบ้าง ที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร 
ทำให้ในสาขาของ ท็อปส์ มีการปรับดิไซน์ใหม่ให้เข้ากับธีมสงกรานต์ ขณะเดียวกันก็จะมีโซน Photo Booth โซนถ่ายรูปกับรถตุ๊กตุ๊ก ที่ดิไซน์ทันสมัยผสมผสานเอกลักษณ์ไทย ได้อย่างลงตัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาถ่ายภาพที่ระลึก
3. เกาะกระแสท่องเที่ยวไทย Soft Power ที่มาแรงในปีนี้  
ไตรมาสแรก ปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 9.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 
เป็นสัญญาณว่าการท่องเที่ยวไทยกำลังได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย 
ท็อปส์ เองก็ไม่พลาดที่จะนำการท่องเที่ยวที่เป็นอีกหนึ่ง Soft Power เข้ามาอยู่ในแคมเปญ
ด้วยการให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบ 500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ลงทะเบียนที่ https://tops.sh/s/veZ3Kf เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดี 20 ท่าน เข้าร่วม Exclusive Unseen Food Trip โดยมี 2 ดาราสุดฮอต คุณฟอส-จิรัชพงศ์ และคุณบุ๊ค-กษิดิ์เดช ที่จะพาไปท่องเที่ยวเมืองไทยในมุมมองใหม่ที่ไม่เคยเห็น พร้อมพาไปชิมเมนูอาหารความอร่อยสุดพิเศษ 
4. จับมือกับพาร์ตเนอร์เพื่อสร้าง Impact ด้านความคุ้มค่า
หนึ่งในวิธีขับเคลื่อนแคมเปญให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด คือการมอบสิทธิพิเศษและโปรโมชัน โดยเฉพาะวิธีการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เพื่อสร้างสิทธิประโยชน์หลากหลาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ท็อปส์เองก็ Move on ด้วยแนวคิดนี้เช่นกัน ด้วยการจับมือกับพาร์ตเนอร์หลายแบรนด์ดัง เพื่อทำให้ลูกค้าได้ เที่ยว ชิม ช็อป นอกจากจบในแคมเปญเดียวแล้วนั้น ก็ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า โดยแบ่งเป็น 3 โปรโมชัน ตอบโจทย์ 3 ไลฟ์สไตล์   
สายเที่ยว : จองตั๋วเครื่องบิน AirAsia แสดงบอร์ดดิงพาสรับส่วนลด 50 บาท เมื่อช็อปครบ 500 บาท 
สายดูหนัง : รับส่วนลดบัตรชมภาพยนตร์ SF 50 บาท/ที่นั่ง เมื่อช็อปครบ 500 บาทขึ้นไป 
สายช็อป : รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% และผ่อน 0% นาน 6 เดือน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ โดยทุกข้อเสนอจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2567 
5. ต่อยอด นิสัยคนไทยถึงการเป็น “ผู้ให้” มาสู่แคมเปญ  
สิ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลสงกรานต์มาอย่างยาวนานก็คือ “การทำบุญ” อีกทั้งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย อุปนิสัยคนไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ “เป็นผู้ให้”
ท็อปส์ ได้นำพฤติกรรมตรงนี้ เข้ามาต่อยอดเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ ด้วยการเชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคในโครงการ “Pay it Forward ได้โอกาส...ให้โอกาส” โดยได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะนำเงินที่ได้มาปรับปรุงห้องผ่าตัด, สร้างอาคารหอผู้ป่วย 
จะเห็นว่าแคมเปญ Discover Thailand: Land of Food, Land of Smiles ของท็อปส์ ไม่ได้มุ่งเน้นแค่สร้างยอดขายให้แก่ตัวเองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพียงอย่างเดียว
แต่ยังใช้ความแข็งแกร่งในโครงสร้างธุรกิจค้าปลีก พร้อมหยิบกิมมิกต่าง ๆ มาช่วยผลักดันอาหาร, ขนม จนถึงวัฒนธรรมของคนไทย ที่มีเอกลักษณ์แตกต่าง ไม่เหมือนชาติใดในโลก โดยคนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือ เกษตรกร, ธุรกิจ SME ที่จะมียอดขายเพิ่มมากขึ้น
และไม่แน่ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเดินทางมาเมืองไทย ร้านค้าและ SME เล็ก ๆ อาจจะมีอาหารอร่อย ๆ สินค้าเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่ถูกใจนักลงทุนต่างชาติ จนแบรนด์สินค้าตัวเอง Go Inter ก็ได้ ใครจะไปรู้ 
แต่ที่เรารู้แน่ ๆ คือ วิธีการทำธุรกิจของท็อปส์ คือการเติบโตไปพร้อม ๆ กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตัวเอง
อ้างอิง : 
-ข่าวประชาสัมพันธ์ Tops Thailand
-https://www.thaipbs.or.th/now/content/158
-https://www.thaipbs.or.th/news/content/337958
-https://www.thansettakij.com/business/tourism/592371
Tag:tops
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.