กรณีศึกษา GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ จากร้านขายยา สู่แบรนด์อันดับ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อสุขภาพ

กรณีศึกษา GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ จากร้านขายยา สู่แบรนด์อันดับ 1 เครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อสุขภาพ

30 เม.ย. 2024
คนเกาหลีมีอายุเฉลี่ยถึง 84 ปี ติดอันดับหนึ่งในประเทศที่ประชากรมีอายุยืนยาวที่สุดในโลก
เคล็ดลับที่ทำให้คนเกาหลีมีอายุยืนยาว นอกจากจะเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเดินออกกำลังกายเป็นประจำ การทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว
อีกเคล็ดลับคือ “โสม” ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นถิ่นประจำชาติเกาหลีใต้นั่นเอง..
ที่ผ่านมา หลายคนอาจคุ้นเคยกับโสมมาบ้างผ่านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า “GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ” คือแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ๆ ที่นำโสมเกาหลีมาพัฒนาต่อยอดเมื่อ 57 ปีก่อน
จนปัจจุบัน จากแบรนด์เล็ก ๆ ได้ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำ” ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม
โดยสร้างยอดขายได้หลัก 1,000 ล้านบาทต่อปี และครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 62% ในปี 2566 ที่ผ่านมา
บทความนี้ MarketThink มีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณพิชัย กิจอิทธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตังกุยจั๊บเบฟเวอเรจ จำกัด ถึงเคล็ดลับในการทำธุรกิจว่า ทำอย่างไรให้ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ยืนหนึ่งมากว่า 57 ปี ?
จุดเริ่มต้นของ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ เกิดขึ้นหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2
คุณเจริญสุข กิจอิทธิ ประธานกรรมการ ผู้ก่อตั้งบริษัท เจริญสุขเภสัชฮุ่นชิว จำกัด เดินทางจากเมืองจีนสู่ประเทศไทยด้วยวัยเพียง 12 ปี และเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากการเป็นลูกจ้างร้านขายยาย่านเยาวราช ก่อนจะย้ายไปขายยาที่ จังหวัดชุมพร และนครศรีธรรมราช
ด้วยความเป็นเด็กขยัน คุณเจริญสุขจึงมีโอกาสได้ดีลกับบริษัทขายยา ทำให้ได้ทำความรู้จักกับสมุนไพรต่าง ๆ ทั้งสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีน
จนสามารถสอบผ่านได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ปรุงยาสมุนไพร และได้เป็นเภสัชกรแพทย์แผนโบราณ ในวัยเพียง 26 ปี
จุดนี้เองที่ทำให้คุณเจริญสุขตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ด้วยการเปิดร้านขายยาในชื่อ “เจริญสุขเภสัช” ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ซึ่งทำให้คุณเจริญสุข มีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาดูงานด้านสมุนไพรที่ประเทศเกาหลีใต้
จึงเป็นที่มาของข้อสงสัยว่า ทำไมคนเกาหลี ถึงดูสุขภาพแข็งแรง เดินคล่องพร้อมแบกของได้สบาย ๆ ทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ คนก็เป็นผู้สูงอายุแล้ว ?
คำตอบที่คุณเจริญสุขค้นพบคือ ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่มีการปลูกและทานโสมเยอะ
หลังเดินทางกลับประเทศไทย คุณเจริญสุข จึงเกิดไอเดียนำโสมเกาหลีมาต่อยอด
โดยในปี 2510 ได้ออกผลิตภัณฑ์แรกซึ่งพัฒนาขึ้นมาเอง ด้วยการนำโสมมาผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านยาของตัวเอง และออกมาเป็น “ยาน้ำสกัดโสมเกาหลีตังกุยจับ”
กลายเป็นที่มาของ แบรนด์แรกในประเทศไทยที่นำโสมเกาหลีมาเป็นส่วนผสมทางยา
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า เส้นทางของบริษัทไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ..
เนื่องจากคนไทยไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับโสมมากนัก ประกอบกับยิ่งพอเป็นยาก็ยิ่งตีตลาดยากยิ่งขึ้นไปอีก
จุดเปลี่ยนจริง ๆ ที่ทำให้แบรนด์ยืนหนึ่งได้ในทุกวันนี้ คือ การมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่
ในสมัยนั้น เครื่องดื่มชูกำลัง กำลังเป็นทะเลเลือด ที่นอกจากจะมีคู่แข่งมากหน้าหลายตาแล้ว ก็ยังเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเช่นกัน
ซึ่งการมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ที่ว่า นั่นก็คือ การรุกเข้าสู่ทะเลเลือด แต่แตกต่างด้านนวัตกรรม​
ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2543 อย่าง “GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ” 
ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม เป็นรายแรกของประเทศไทย และได้กลายเป็น Core Product ของบริษัทในปัจจุบันอีกด้วย
โดยในปี 2565 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม มีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท
ซึ่ง GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 58% และมียอดขายอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง
และถ้าเทียบกับตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ที่มีมูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท ก็ยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดราว 8%
ปัจจุบัน ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม มีผู้เล่นยักษ์ใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มชูกำลัง โดดเข้ามาร่วมแข่งขันเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว คำถามสำคัญคือ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ มีกลยุทธ์อะไรในการแข่งขัน ให้ยังยืนหนึ่งได้มามากกว่า 57 ปี ?
1. เลือกใช้โสมที่ดีที่สุด และมีเทคโนโลยีการสกัด ที่ไม่ทำให้รสชาติขม
“หวานเป็นลม ขมเป็นยา” คงเป็นหนึ่งคำนิยามของอาหารเพื่อสุขภาพ
แต่คำนิยามนี้อาจใช้ไม่ได้กับ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ
เพราะแบรนด์มีเทคโนโลยีการสกัดต้นตำรับจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยดึงสารสกัดต่าง ๆ ออกมาอย่างครบถ้วน แต่ไม่ดึงรสชาติขมออกมา
ที่น่าสนใจ นอกจากจะมีเทคโนโลยีการสกัดด้วย Know-How ที่สั่งสมมาเป็นเวลานานแล้ว
GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ยังเลือกใช้ “โสมที่ดีที่สุด” อีกด้วย
รู้หรือไม่ว่า โสมที่ดีที่สุดคือ โสมที่มีอายุ 6 ปี
โดยมีงานวิจัยพบว่า โสมที่มีอายุ 6 ปี จะเป็นโสมที่มีสารจินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) ซึ่งมีประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ สูงที่สุด
คุณพิชัย ยังเล่าด้วยว่า โสมที่เลือกใช้กว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ใช่โสมผง แต่เป็น “โสมสด” นำมาสกัด โดยนำเข้าจาก “เมืองคึมซาน” เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกโสมมากที่สุดในประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง..
2. ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ GSD PlusTaurine 1,000 มิลลิกรัม ตอบโจทย์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังยิ่งกว่าเดิม
แต่เดิม GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ มีส่วนประกอบของโสมเกาหลีสกัด 400 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด และยังเต็มไปด้วยวิตามิน อย่าง วิตามินบี 2 และวิตามินบี 6
ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ในฐานะเครื่องดื่มชูกำลัง ที่นอกจากจะช่วยให้ความสดชื่น ลดความเหนื่อยล้าแล้ว
การที่มีสมุนไพรอย่างโสมเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย บำรุงระบบประสาทและสมอง
ที่น่าสนใจ เมื่อไม่นานมานี้ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ เพิ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีชื่อว่า “GSD PlusTaurine 1,000 มิลลิกรัม” ในราคาเพียง 12 บาท
ความพิเศษของสูตรนี้คือ การเพิ่มทอรีนเข้ามาถึง 1,000 มิลลิกรัม
ซึ่งทอรีน คือ สารที่พบได้ในเนื้อสัตว์ อย่าง เนื้อหมู เนื้อวัว ปลาแซลมอน ช่วยให้พลังงานกับร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล 
ที่สำคัญ ทอรีนยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนล้า บรรเทาอาการง่วงซึม ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้มากขึ้น
เรียกได้ว่า GSD PlusTaurine 1,000 มิลลิกรัม จะตอบโจทย์หลาย ๆ คน ทั้งในฐานะเครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้มากกว่าเดิม
3. การเป็น First Mover ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์
First Mover ในตลาด หมายถึง การเป็นเจ้าแรกที่รุกเข้าสู่ตลาดนั้น ๆ
เช่นเดียวกับ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ที่เป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม และอยู่คู่ประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 57 ปีแล้ว
ซึ่งหนึ่งในข้อดีของการเป็น First Mover คือ การที่แบรนด์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิก และการที่อยู่คู่ตลาดมาอย่างยาวนาน ยังทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และจดจำแบรนด์ได้
คุณพิชัย อธิบายง่าย ๆ ว่า ถ้าเมื่อไรที่ลูกค้านึกถึงเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม ก็ต้องนึกถึง GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ อย่างแน่นอน..
และอีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์ได้ไม่แพ้กันคือ การที่ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ เริ่มจากธุรกิจยามาก่อน
ทำให้มั่นใจได้ว่า ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทางบริษัทจะนึกถึงจรรยาบรรณ และประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
นอกจาก 3 กลยุทธ์ที่กล่าวไปข้างต้นนี้
คุณพิชัย ยังมองว่า การมีคู่แข่งเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาด ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นยักษ์ใหญ่แล้ว ย่อมหมายถึงการมีเงินทุนที่มากกว่า
เมื่อคู่แข่งทุ่มเงินทำการตลาด ก็นับว่าเป็นข้อดีที่ช่วยให้คนไทยเกิดความเข้าใจในเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสมมากขึ้น
และเมื่อคนไทยรู้จักกับเครื่องดื่มชูกำลังผสมโสมแล้ว คุณพิชัยเชื่อว่า แบรนด์แรก ๆ ที่คนไทยจะนึกถึงก็คือ “GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ”
ต้องบอกว่า ด้วยกลยุทธ์หลัก ๆ เหล่านี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ยืนหนึ่งในฐานะแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม มาอย่างยาวนานถึง 57 ปี ท่ามกลางตลาดที่กลายเป็นทะเลเลือดที่เดือดขึ้นในทุก ๆ วัน
ที่สำคัญ การออกเครื่องดื่มใหม่อย่าง GSD PlusTaurine 1,000 มิลลิกรัม ก็จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่าได้มากขึ้น
จึงช่วยให้แบรนด์แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจากเจ้าอื่น ๆ ได้มากขึ้น
และก็จะยิ่งทำให้แบรนด์ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ สามารถยืนหนึ่งต่อไปได้อีกยาวนาน..
ทั้งหมดนี้ คุณพิชัยสรุปสั้น ๆ ว่า ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ หรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ต่างก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ว่า
“เป็นผู้นําด้านผลิตภัณฑ์โสม โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ”
เมื่อใส่ใจผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เมื่อนั้นก็จะสอดคล้องกับสโลแกนของแบรนด์ GSD โสมเกาหลีตังกุยจับ ที่ว่า
“ถ้านึกถึงโสม ต้องโสมเกาหลีตังกุยจับ No.1 Ginseng in Thailand”
#GSD
#โสมเกาหลีตังกุยจับ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.