Metaverse ไหวไหม.. ยอดขายแว่น VR ทั่วโลก ลดลงมากกว่า 12% แต่นักวิเคราะห์มอง Apple คือความหวังใหม่ - TechBite
29 ธ.ค. 2022
เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่ Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta และหันมาโฟกัสกับ Metaverse ซึ่งมองว่าจะกลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคต โดยทุ่มเงินหลายแสนล้านบาท ในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว
แต่ดูเหมือนว่า การเดิมพันของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไปกับ Metaverse นั้น เส้นชัยยังอีกยาวไกล และต้องเจออุปสรรคอีกมาก
โดยล่าสุด บริษัทวิเคราะห์ CCS Insight ให้ข้อมูลว่า
ยอดขายแว่น VR และ AR ทั่วโลก ในปี 2022 อยู่ที่ 9.6 ล้านชุด ซึ่งลดลงมากกว่า 12% จากปีก่อนหน้า
ยอดขายแว่น VR และ AR ทั่วโลก ในปี 2022 อยู่ที่ 9.6 ล้านชุด ซึ่งลดลงมากกว่า 12% จากปีก่อนหน้า
และจากข้อมูลของบริษัทวิจัย NPD Group เผยว่า
ยอดขายแว่น VR ในสหรัฐฯ ในปี 2022 อยู่ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 38,100 ล้านบาท) ลดลง 2% จากปีก่อนหน้า
ยอดขายแว่น VR ในสหรัฐฯ ในปี 2022 อยู่ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 38,100 ล้านบาท) ลดลง 2% จากปีก่อนหน้า
ซึ่งในตลาดแว่น VR ปัจจุบันมีแว่น Meta Quest เป็นผู้นำ
อย่างไรก็ตาม ยอดขายแว่น VR ของ Meta ในปี 2022 นี้ “ลดลง”
อย่างไรก็ตาม ยอดขายแว่น VR ของ Meta ในปี 2022 นี้ “ลดลง”
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ แว่น Quest 2 ตัวฮิตของ Meta มีการเปิดตัวมาหลายปีแล้ว จึงไม่ค่อยดึงดูดผู้บริโภค และบางคนก็ชะลอการซื้อจนกว่าจะมีการเปิดตัว Quest 3
แถมแว่น VR ตัวใหม่ของ Meta อย่าง Quest Pro ซึ่งเป็นรุ่นไฮเอนด์ ก็มีราคาสูงเกินไปกว่าที่คนทั่วไปจะเอื้อมถึง..
ทั้งปัจจัยเรื่อง ธุรกิจโฆษณาทั่วโลก ที่เริ่มซบเซา เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน
ประกอบกับ ตลาดแว่น VR / AR และธุรกิจ Metaverse ที่ไม่ประสบความสำเร็จตามคาด
ทำให้ตอนนี้ ราคาหุ้นของ Meta ร่วงลงแล้วกว่า 66% นับจากตอนต้นปี..
ประกอบกับ ตลาดแว่น VR / AR และธุรกิจ Metaverse ที่ไม่ประสบความสำเร็จตามคาด
ทำให้ตอนนี้ ราคาหุ้นของ Meta ร่วงลงแล้วกว่า 66% นับจากตอนต้นปี..
ทั้งนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็เคยกล่าวไว้ว่า ธุรกิจ Metaverse เป็นเกมที่ต้องเล่นระยะยาว
โดยอาจต้องใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นกระแสหลักได้ (Mainstream)
และถึงตอนนั้น ตลาดนี้จะมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ (มากกว่า 10 ล้านล้านบาท)
โดยอาจต้องใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นกระแสหลักได้ (Mainstream)
และถึงตอนนั้น ตลาดนี้จะมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ (มากกว่า 10 ล้านล้านบาท)
ซึ่งไม่ใช่แค่ Meta ที่ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลไปกับ Metaverse
แต่ยังมีอีกหลาย ๆ บริษัทเทคโนโลยี ที่ร่วมเดิมพันไปกับเทรนด์นี้ด้วย เพื่อสร้างบริการในโลกเสมือน เช่น การทำงาน, เล่นเกม, การศึกษา, ความบันเทิง, กีฬา ฯลฯ
แต่ยังมีอีกหลาย ๆ บริษัทเทคโนโลยี ที่ร่วมเดิมพันไปกับเทรนด์นี้ด้วย เพื่อสร้างบริการในโลกเสมือน เช่น การทำงาน, เล่นเกม, การศึกษา, ความบันเทิง, กีฬา ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้ตลาดแว่น VR / AR จะไม่สดใสเท่าไรนัก
แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า ปี 2023 หรือ 2024 อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดนี้ ด้วยการมาของ “Apple”
แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า ปี 2023 หรือ 2024 อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดนี้ ด้วยการมาของ “Apple”
ที่ผ่านมา มีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนาแว่น VR / AR ของตัวเอง
ซึ่ง Apple มีศักยภาพมากพอที่จะเข้าสู่ตลาดนี้ และช่วยนำพา Metaverse ไปสู่กระแสหลัก ได้เร็วขึ้น
ซึ่ง Apple มีศักยภาพมากพอที่จะเข้าสู่ตลาดนี้ และช่วยนำพา Metaverse ไปสู่กระแสหลัก ได้เร็วขึ้น
เนื่องจาก Apple ขึ้นชื่อเรื่องของการสร้างผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค ทั้งในด้านดิไซน์, นวัตกรรม, User Experience และแบรนด์ เป็นต้น
อีกทั้ง Apple ยังมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
อีกทั้ง Apple ยังมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
การเข้ามาของ Apple ในตลาดแว่น VR / AR
จึงน่าจะทำให้เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์นี้ น่าสนใจและเกิดการใช้งานในชีวิตประจำวัน มากยิ่งขึ้น สำหรับคนทั่วไป
จึงน่าจะทำให้เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์นี้ น่าสนใจและเกิดการใช้งานในชีวิตประจำวัน มากยิ่งขึ้น สำหรับคนทั่วไป
“หากมีสักบริษัท ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนตลาด VR ได้ในชั่วข้ามคืน.. บริษัทนั้นคงเป็น Apple
ด้วยฐานสาวกที่เหนียวแน่นและมหาศาล ของแบรนด์
ด้วยฐานสาวกที่เหนียวแน่นและมหาศาล ของแบรนด์
คงมีคนจำนวนมาก ที่เต็มใจจะจ่ายเงินให้กับเทคโนโลยีนี้ หาก Apple เปิดตัวแว่น VR / AR”
คุณ Leo Gebbie นักวิเคราะห์จาก CCS Insight กล่าว
คุณ Leo Gebbie นักวิเคราะห์จาก CCS Insight กล่าว
อ้างอิง :
-https://www.cnbc.com/2022/12/28/metaverse-off-to-ominous-start-after-vr-headset-sales-shrank-in-2022.html
-https://www.cnbc.com/2022/12/28/metaverse-off-to-ominous-start-after-vr-headset-sales-shrank-in-2022.html