กรณีศึกษา การตลาดของ Nissin ที่กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เป็นมากกว่า แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับโลก ก็คงหนีไม่พ้น “Nissin” จากประเทศญี่ปุ่น
เพราะเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 64 ปี และมีผลิตภัณฑ์ไปวางขายอยู่ทั่วโลก

ที่น่าสนใจคือ Cup Noodle หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยของ Nissin ที่วางขายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1971
เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา มียอดขายทะลุ 50,000 ล้านถ้วย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งถ้าลองเฉลี่ยแล้ว จะเท่ากับว่า ขายได้ราว 1,000 ล้านถ้วยต่อปี เลยทีเดียว..

เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนคงสงสัยว่า แล้วอะไรที่ทำให้ Nissin หนึ่งในแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอายุยาวนานมากที่สุด ยังนั่งอยู่ในใจของผู้บริโภคมาได้จนถึงปัจจุบัน ?

ก่อนอื่น ถ้าพูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยทั่วไปแล้วก็มีข้อดีอยู่หลายข้อ
ไม่ว่าจะเป็น การเป็นอาหารที่ทำได้ง่าย ๆ เพียงใส่น้ำร้อน, เป็นอาหารแห้งที่เก็บไว้ได้นานหลายเดือน หรือการมีรสชาติหลากหลายให้เลือกทาน

แต่ต้องบอกว่า ข้อดีเหล่านี้ ไม่ใช่จุดแข็งเดียวที่ Nissin มี
เพราะอีกหนึ่งจุดแข็งที่ขึ้นชื่อของ Nissin ก็คือ การทำการตลาดด้วยความคิดสร้างสรรค์ ที่กล้าเนรมิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เป็นมากกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จนกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงในหลายประเทศ

การตลาดสร้างสรรค์ หรือ Creative Marketing ก็คือ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจ หรือเป็นสินค้าและบริการที่แตกต่างไปจากแบรนด์อื่น ๆ
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า การคิดนอกกรอบนั่นเอง

ซึ่งถ้าลองมองไปรอบ ๆ ตัว จะพบว่าหลาย ๆ แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความคิดสร้างสรรค์

ยกตัวอย่างเช่น Apple ที่มาพร้อมกับสโลแกน “Think Different” หรือการคิดให้แตกต่าง
ย้อนกลับไป ถ้า Apple ไม่พัฒนา iPhone แบบไร้ปุ่มกด ก็อาจจะไม่สามารถปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถือ และขึ้นมาเป็นผู้นำได้อย่างทุกวันนี้

หรือแม้แต่แอปพลิเคชันฟูดดิลิเวอรีต่าง ๆ ก็เกิดจากการสร้างสรรค์ช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเช่นกัน

ส่วน Nissin ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนโลก
แต่ Nissin ใช้วิธีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันแปลกใหม่ เพื่อให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเกิดการจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

ทีนี้เราลองมาดูกันบ้างว่า ผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ที่ Nissin สร้างสรรค์ออกมา มีอะไรบ้าง ?

- น้ำอัดลม รสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

Nissin เคยออก Cup Noodle Soda หรือน้ำอัดลมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรสชาติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยจะมีด้วยกัน 4 รสชาติ ได้แก่ รสซีฟูด, แกงกะหรี่, ราเม็ง และพริกมะเขือเทศ

- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รส Heattech

Nissin เคยจับมือกับ Uniqlo โดยนำนวัตกรรม Heattech ที่ช่วยให้เสื้อผ้าอบอุ่นแม้เบาบาง มาทำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีส่วนผสมของขิง พริกป่น และเครื่องเทศ ที่ผู้บริโภคทานแล้วจะรู้สึกถึงความอบอุ่นภายในร่างกาย เหมือนตอนสวมใส่เสื้อผ้า Heattech นั่นเอง

- ไม้ถูพื้น Cup Noodle

โดยปกติแล้วในระหว่างเกมกีฬา ก็จะมีพนักงานถือไม้ถูพื้นมาเช็ดเหงื่อบนสนาม เพื่อลดอันตรายจากการลื่นล้ม
แต่เมื่อปีที่แล้ว ในงานแข่งบาสเกตบอลที่ประเทศญี่ปุ่น Nissin สร้างปรากฏการณ์เรียกเสียงฮือฮา และเสียงหัวเราะให้กับผู้เข้าชมได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบไม้ถูพื้นที่มีหน้าตาเหมือนถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

นอกจากนี้ ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ฮา ๆ ไม่ว่าจะเป็น

หูฟังที่ออกแบบให้ที่ครอบหูทั้ง 2 ข้าง เป็นถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
หรือไหมขัดฟันที่มีหน้าตาเหมือนเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ไม่รู้ว่าช่วยให้ฟันสะอาด หรือช่วยให้เลอะอาหารมากกว่าเดิม เพราะมาพร้อมกับ 4 รสชาติ ได้แก่ รสไก่, เนื้อ, แกงกะหรี่ และซีฟูด

รวมไปถึงอีกหลายผลิตภัณฑ์สุดสร้างสรรค์ ที่ถูกโพสต์ผ่าน Twitter ของแบรนด์

ซึ่งถึงแม้ว่าบางอย่าง Nissin จะไม่ได้นำออกมาวางขายจริง ๆ
แต่ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนบนโลกออนไลน์ และชาวโซเชียลมีเดีย ให้เข้ามากดไลก์ กดแชร์ หรือบางครั้งผลิตภัณฑ์ก็ทำให้แบรนด์กลายเป็น “ไวรัล” ที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง และได้พื้นที่สื่อ ที่ช่วยโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แบบฟรี ๆ

ถ้าถามว่า Nissin เริ่มเป็นแบรนด์ที่เก่งเรื่องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ ตั้งแต่เมื่อไร ?

เรื่องนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่ตอนก่อตั้งแบรนด์ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นประสบกับภาวะขาดแคลนอาหาร จนรัฐบาลสนับสนุนให้คนญี่ปุ่นทานขนมปังที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา

แต่คุณโมโมฟุกุ อันโด เห็นว่า คนญี่ปุ่นชอบทานบะหมี่หรือราเม็งมากกว่า
จึงใช้เวลาหลายต่อหลายเดือนในการสร้างสรรค์บะหมี่รูปแบบใหม่ ๆ กลายมาเป็น “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ที่วางจำหน่ายในชื่อว่า Chikin Ramen รสไก่ เป็นแบรนด์แรกของโลก

สำหรับหลาย ๆ แบรนด์ เมื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้แล้ว ก็เลือกที่จะหยุดสร้างสรรค์ต่อ
แต่ไม่ใช่กับคุณโมโมฟุกุ อันโด ที่ยังมีไอเดียพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อ เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยที่มีชื่อว่า Cup Noodle ที่แค่เติมน้ำร้อนก็สามารถทานได้เลย

ความคิดสร้างสรรค์ของคุณโมโมฟุกุ อันโด นี้เอง ที่ทำให้ Nissin เป็น First Mover ที่เป็นจุดกำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งแบบซอง และแบบถ้วย ของโลก

และต่อมาในช่วงที่คุณโมโมฟุกุ อันโด อายุ 91 ปี แต่ชายผู้นี้ก็ไม่เคยที่จะหยุดรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
เขาออกมาประกาศว่า Nissin จะผลิตอาหารสำหรับทานบนอวกาศ

ซึ่งต่อมาเขาก็ทำสำเร็จจริง ๆ โดยในเดือนกรกฎาคม ปี 2005 Space Ramen บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีซุปเข้มข้น ทำให้ไม่ลอยในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ได้ถูกส่งขึ้นไปบนอวกาศ และมีนักบินชาวญี่ปุ่นเป็นคนแรกที่ได้ทาน

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็พอจะเห็นได้ว่า คุณโมโมฟุกุ อันโด ไม่เคยหยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เลย

และถึงแม้ว่าปัจจุบัน คุณโมโมฟุกุ อันโด จะเสียชีวิตไปแล้ว
แต่แนวคิดและจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ก็ไม่ได้หายไปไหน กลับกลายมาเป็นหนึ่งในคุณค่าที่แบรนด์ยึดถือมาโดยตลอด

นั่นก็คือ เน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วยนวัตกรรม เพื่อมอบความสุขและแรงบันดาลใจให้กับผู้คน

ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ก็เป็นที่มาของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุดแปลกของแบรนด์ ที่สามารถสร้างความสุขให้กับผู้คน และกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ได้ในปัจจุบันนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็คือ กลยุทธ์ Creative Marketing ที่ Nissin ใช้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จนทำให้แบรนด์กลายเป็นไวรัล และถูกพูดถึงอยู่อย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็เป็นกลยุทธ์ที่ทุก ๆ แบรนด์ หรือทุก ๆ ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้
แต่หลายคนอาจจะมองว่า “ยาก” เพราะว่าต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในสิ่งที่ยังไม่เคยมีคนทำ

หนึ่งในคำแนะนำที่คุณโมโมฟุกุ อันโด เคยบอกไว้ก็คือ “ให้มองรอบ ๆ ตัว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ” นั่นเอง

อ้างอิง:
-https://www.dbd.go.th/download/article/article_20190828102349.pdf
-https://www.tpa.or.th/tpanews/upload/mag_content/90/ContentFile1826.pdf
-https://www.nissin.com/en_jp/
-https://twitter.com/cupnoodle_jp?lang=en