สหภาพยุโรป กล่าวหา Apple ว่า ผูกขาดเทคโนโลยีการชำระเงินไร้สัมผัส

“Apple Pay” ระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้ผูกบัตรต่าง ๆ ของตัวเอง เอาไว้กับอุปกรณ์ของ Apple แล้วชำระเงินได้แบบ Tap and Go
หรือก็คือ ผู้ใช้สามารถใช้อุปการณ์เพียงอย่างเดียว เช่น iPhone ในการชำระเงินที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องหยิบบัตรขึ้นมาให้วุ่นวาย

ด้วยความสะดวกสบายนี้เอง จึงทำให้บริการดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป โดยมีธนาคารกว่า 2,500 แห่งที่รองรับบริการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรป ได้มีการกล่าวหา Apple ว่าระบบ Apple Pay กำลังการผูกขาดเทคโนโลยีการชำระเงิน

พร้อมให้เหตุผลว่า Apple ได้มีการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงเทคโนโลยีหลักสำหรับพัฒนาระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส
เพราะเมื่อการเข้าถึงเทคโนโลยีถูกจำกัด ก็เป็นเรื่องยากที่คู่แข่งจะสามารถพัฒนาระบบการชำระเงินมาแข่งขันกับ Apple ได้

ส่งผลให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อย ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จึงตกอยู่ที่ Apple นั่นเอง

ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถูกกล่าวหาว่าเป็นการปิดกั้นการพัฒนานวัตกรรมและผิดกฏหมายการแข่งขันทางการค้าของยุโรป
จึงทำให้ Apple อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมา (ราว 126,160 ล้านบาท)

แต่ล่าสุด Apple ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมระบุว่า Apple Pay เป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกการชำระเงินของชาวยุโรป ยังมีผู้ให้บริการการชำระเงินไร้สัมผัสอีกหลายเจ้า ที่พร้อมแข่งขันกับ Apple แต่ด้วยความสะดวกและปลอดภัย Apple Pay จึงได้รับความนิยมกว่า

อีกทั้งยังระบุว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมแน่นอน เพียงแต่ทั้งหมดต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Apple ได้ถูกตั้งคำถามถึงตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี ว่ากำลังผูกขาดตลาดการแข่งขันหรือไม่ ?

เช่นในปีที่ผ่านมา ก็มีกรณีที่ Apple ถูก Spotify ร้องเรียนว่า App Store มีการผูกขาดช่องทางการชำระเงินของนักพัฒนาเช่นกัน

สำหรับ Apple Pay เป็นระบบที่ให้บริการครั้งแรก เมื่อปี 2015 แต่ก็น่าเสียดาย ที่ระบบดังกล่าวยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย..

อ้างอิง :
-https://www.bbc.com/news/business-61300874