เมื่อข้าวกล่องใน 7-Eleven มีเมนูเนื้อวัวแล้ว โดย รส’นิยม

ท่ามกลางวิกฤติโควิด ที่ยังเป็นโจทย์หินสำหรับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร
แบรนด์ รส'นิยม ในเครือ iberry Group เลยไม่รอช้า ปล่อยหมัดเด็ดเซอร์ไพรส์วงการ

ด้วยการเปิดตัว 3 เมนูข้าวกล่องพร้อมทาน​ ได้แก่ ข้าวกะเพราเนื้อโคขุนคัวพริกแห้ง, ข้าวแกงเขียวหวานสันคอเนื้อออสเตรเลีย และข้าวพะแนงสันคอเนื้อออสเตรเลีย

โดยทั้ง 3 เมนูนี้ ยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติจัดจ้าน เข้มข้น เหมือนมากินที่ร้านรส’นิยม

นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ที่เครือ iberry ของคุณปลา อัจฉรา บุรารักษ์ ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังในเครือมากมาย
อาทิ ไอเบอร์รี่, กับข้าว’กับปลา, โรงสีโภชนา, เจริญแกง, เบิร์นบุษบา และฟ้าปลาทาน ฉีกแนวมาจับตลาดอาหารพร้อมทาน

โดยเหตุผลหลัก ที่ทำให้คุณปลา ตัดสินใจเดินหมากธุรกิจนี้
เพราะผลพวงจากสถานการณ์​โควิด ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจร้านอาหารในเครือ ซึ่งมีสาขาที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้าเป็นจํานวนมาก ไม่พอ
ขณะนี้ยังสามารถให้บริการได้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน หรือ ใช้บริการดิลิเวอรี เท่านั้น

ซึ่งที่ผ่านมา ทาง iberry Group ได้แก้เกม โดยการรุกโมเดล Cloud Kitchen หรือครัวกลาง
เพื่อรองรับเทรนด์ดิลิเวอรี สำหรับแบรนด์ร้านอาหารในเครือ รวมถึงแบรนด์ที่ไม่มีหน้าร้าน

ล่าสุด ยังเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ด้วยการผลิตอาหารในรูปแบบบรรจุภัณฑ์พร้อมทาน
โดยเลือกจับมือกับทาง C.P. Group ซึ่งตอนนี้มีแคมเปญ “ยกร้านดัง.. มาไว้ใกล้คุณ”
เพราะมองว่า มีความเชี่ยวชาญ สามารถผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

ที่สำคัญสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยการวางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
ซึ่งจะเรื่มวางขาย 5,500 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)
และในอนาคต มีแผนจะขยายพื้นที่ในการจำหน่ายไปทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งผ่านบริการ 7-Delivery ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เมนูข้าวกล่องพร้อมทานของ รส’นิยม วางขายในราคากล่องละ 69 บาท

ส่วนสาเหตุที่เลือกประเดิมด้วยแบรนด์รส’นิยม ทั้งที่ iberry Group มีร้านอาหารในเครือมากมาย
เนื่องจากคุณปลา มองว่า จุดเด่นของ รส’นิยม คือ นำเสนออาหารรสชาติจัดจ้าน เข้าถึงง่าย

โดยทางแบรนด์ได้เพิ่มความแปลกใหม่ ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบหลัก คือ เนื้อวัว
เพราะมองว่า ในตลาดอาหารพร้อมทาน ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบหลัก อย่างเนื้อวัว
ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเมนูกะเพรา, พะแนง และแกงเขียวหวาน ซึ่งเป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคย​

อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดถึงรสชาติของแบรนด์อื่น ๆ คุณปลาแย้มว่า ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค​ เพียงแต่อาจจะต้องอดใจรอกันอีกนิด

นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การเอาตัวรอด ของแบรนด์ร้านอาหารในยุคโควิด ที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะสำหรับเชนร้านอาหาร ที่มีพนักงานนับพันชีวิต และร้านอาหารกว่า 60 สาขา ที่ต้องประคองให้รอด

ซึ่งถ้าถามว่า กลยุทธ์นี้ จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้หรือไม่ คงไม่มีใครรู้
รู้แต่ว่า วิกฤตินี้ถ้าไม่สู้ ก็มีแต่แพ้

เหมือนอย่างที่คุณปลา โพสต์ลง Instagram ส่วนตัวว่า “มีคนถามปลาว่า เราจะรอดกันไหมครั้งนี้
ปลาก็ได้แต่บอกว่า รอดรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือ เราจะไม่ยอมแพ้”