วิเคราะห์การตลาด MK ขายสุกี้ใน 7-Eleven เซ็ตละ 69 บาท
10 เม.ย. 2024
ล่าสุด MK Restaurants เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตรพร้อมปรุง ขนาด 325 กรัม ในราคาเซ็ตละ 69 บาท เฉพาะที่ 7-Eleven เท่านั้น
ซึ่งในเซ็ตประกอบด้วย
- ผักรวม ได้แก่ ผักบุ้ง แคร์รอต ขึ้นฉ่าย ผักกาดขาว วุ้นเส้น เห็ดชิเมจิดำ
- สารพัดลูกชิ้น ได้แก่ ลูกชิ้นรักบี้, ลูกชิ้นเอ็มเค, เต้าหู้ปลา, สาหร่ายทรงเครื่อง, เอ็มเค แซลมอน
- วุ้นเส้น
- สารพัดลูกชิ้น ได้แก่ ลูกชิ้นรักบี้, ลูกชิ้นเอ็มเค, เต้าหู้ปลา, สาหร่ายทรงเครื่อง, เอ็มเค แซลมอน
- วุ้นเส้น
ในเซ็ตยังมี “น้ำจิ้มสุกี้เอ็มเค สูตรต้นตำรับ” มาให้ด้วยในปริมาณราว 80 กรัม
ซึ่งหลาย ๆ คนมองว่า ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการทานที่ร้าน หรือสั่งมาช่องทางดิลิเวอรี
ซึ่งหลาย ๆ คนมองว่า ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการทานที่ร้าน หรือสั่งมาช่องทางดิลิเวอรี
แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นข้อเสีย แต่จากการลงพื้นที่ของทีมงาน MarketThink พบว่า พนักงานของ 7-Eleven ถือโอกาสแนะนำ น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบบรรจุขวดที่วางจำหน่ายใน 7-Eleven มาแล้วก่อนหน้านี้ (ขนาด 350 กรัม ราคาขวดละ 65 บาท)
หากมองในเชิงการตลาด การที่พนักงาน 7-Eleven แนะนำน้ำจิ้มให้ลูกค้าซื้อเพิ่มเติม เป็นกลยุทธ์ที่มีชื่อว่า “Up-Selling” เพื่อช่วยให้สร้างยอดขายได้มากขึ้น
นอกจากนี้ หากเราสังเกตกันดี ๆ ก็จะพบว่า วัตถุดิบต่าง ๆ ที่อยู่ในชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตรพร้อมปรุงของ MK ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่ MK ใช้ภายในร้านของตัวเองอยู่แล้ว
หากเราลองวิเคราะห์เพิ่มเติม จะพบว่าการจำหน่าย ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตรพร้อมปรุง จะทำให้ MK ได้ประโยชน์ ดังนี้
1. ขายได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องรอร้านเปิดอีกต่อไป
เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว MK Restaurants มีสาขาอยู่ในห้างสรรพสินค้า ที่มีเวลาเปิด-ปิด อย่างชัดเจน ทำให้ MK มีเวลาในการขายสินค้าของตัวเอง เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน
แต่การขาย ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตรพร้อมปรุง ที่ 7-Eleven จะทำให้ MK สามารถขายสินค้าของตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาเปิด-ปิด ของสาขา อีกต่อไป
2. เพิ่มช่องทางการขาย เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น
เรียกว่า MK Restaurants แทบไม่ต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติม เพราะใช้สินค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติม
ซึ่งกลยุทธ์แบบนี้เรียกว่า “Market Development Strategy” หรือก็คือ การขายสินค้าเดิม ในตลาดใหม่
ทำให้ MK สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเข้าถึงได้มาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการกินสุกี้จานด่วน ในราคาที่เข้าถึงง่าย เมื่อเทียบกับการกินสุกี้ในร้านอาหาร
3. แถมการผลิตสินค้าเดิมในปริมาณมากขึ้น เพื่อส่งเข้า 7-Eleven อาจจะทำให้ยิ่งเกิดสิ่งที่เรียกว่า Economies of Scale หรือการประหยัดต่อขนาด ที่ยิ่งผลิตเยอะ ต้นทุนต่อหน่วยยิ่งลดลงได้อีกต่างหาก
ทีนี้ลองมาคำนวณกันเล่น ๆ ว่าถ้า MK ขายเซ็ตสุกี้ได้วันละเท่านี้ หนึ่งปีจะกลายเป็นรายได้เท่าไร
-ถ้าขายได้วันละ 500 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 12.6 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 1,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 25.2 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 2,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 50.4 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 3,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 75.6 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 5,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 125.9 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 1,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 25.2 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 2,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 50.4 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 3,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 75.6 ล้านบาท
-ถ้าขายได้วันละ 5,000 เซ็ต หนึ่งปีจะเป็นรายได้ 125.9 ล้านบาท
และปิดท้ายด้วยผลประกอบการของ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของ MK สุกี้
ปี 2566 รายได้ 16,974 ล้านบาท กำไร 1,682 ล้านบาท..