โดยในขณะนี้ อินโดนีเซียผลิตรถยนต์ได้ 1.47 ล้านคัน ในปี 2022 และนับว่าเป็นจำนวนที่ขยับเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยอินโดนีเซีย มีข้อได้เปรียบสำคัญ คือการมีแหล่งแร่นิกเกิล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน
ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ใกล้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ในการจัดตั้งโรงงาน ที่อินโดนีเซีย เนื่องจากอินโดนีเซีย มีแร่นิกเกิลจำนวนมาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในแบตเตอรี่ จึงเหมาะแก่การไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ติดตามช่องทางอื่น ๆ ได้ที่ YouTube > youtube.com/channel/UCiKBxvrqZeq4gc_VSehH0QA/featured Facebook > facebook.com/MarketThinkTH Twitter > twitter.com/MarketThinkTH IG > instagram.com/marketthinkth/ Blockdit > blockdit.com/marketthinkth
ล่าสุด ประเทศอินโดนีเซีย ประกาศเปิดเกาะบาหลีให้เข้าเที่ยวได้ 14 ตุลาคมนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวบางประเทศ ให้สามารถเดินทางมายังสนามบิน Bali Ngurah Rai ที่จะเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
IG > instagram.com/marketthinkth/
โดยอินโดนีเซียนั้น มีทรัพยากรที่พร้อมสำหรับการผลิตแบตเตอรีอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ผลิตแร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งแร่นิกเกิล เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเจรจาเบื้องต้น กับ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ เกี่ยวกับการร่วมลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารกรุงเทพ” หรือ “ธนาคาร”) ประกาศในวันนี้ว่า ธนาคารได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นโดยมีเงื่อนไขกับธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด”) และ พีที แอสทร่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค (“แอสทร่า”) เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.12 ในธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค (“เพอร์มาตา”) ซึ่งเป็นธนาคารอินโดนีเซีย โดยคาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2563
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของอินโดนีเซียที่ 5.1% ต่อปี ก็มีแนวโน้มว่าในอนาคตอันใกล้ ภายในปี 2020 ประเทศนี้จะพาตัวเองก้าวมาอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงได้เป็นผลสำเร็จ