รัฐบาลอินโดนีเซีย เตรียมตั้งบริษัทผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่าโครงการ 3.7 แสนล้านบาท
14 ต.ค. 2020
ผู้บริหารของ Mining Industry Indonesia (MIND ID) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยมีหน้าที่ดูแลบริษัทเหมืองแร่ของรัฐทั้งหมด
ได้กล่าวกับสำนักงานข่าว Reuters ว่า กลุ่มบริษัทภายใต้การดูแลของรัฐบาลอินโดนีเซีย
กำลังเตรียมระดมทุนจัดตั้งบริษัท เพื่อผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
ได้กล่าวกับสำนักงานข่าว Reuters ว่า กลุ่มบริษัทภายใต้การดูแลของรัฐบาลอินโดนีเซีย
กำลังเตรียมระดมทุนจัดตั้งบริษัท เพื่อผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
โดยอินโดนีเซียนั้น มีทรัพยากรที่พร้อมสำหรับการผลิตแบตเตอรีอยู่แล้ว
เพราะเป็นผู้ผลิตแร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก
ซึ่งแร่นิกเกิล เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี และเปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า
จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี EV
เพราะเป็นผู้ผลิตแร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก
ซึ่งแร่นิกเกิล เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี และเปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า
จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี EV
ซึ่งบริษัทใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า “Indonesia Battery Holding”
และก่อตั้งโดย MIND ID, บริษัทเหมืองแร่ของรัฐ Aneka Tambang (ANTAM), บริษัทสาธารณูปโภคไฟฟ้าของรัฐ Perusahaan Listrik Negara (PLN) และบริษัทน้ำมันของรัฐ Pertamina
และก่อตั้งโดย MIND ID, บริษัทเหมืองแร่ของรัฐ Aneka Tambang (ANTAM), บริษัทสาธารณูปโภคไฟฟ้าของรัฐ Perusahaan Listrik Negara (PLN) และบริษัทน้ำมันของรัฐ Pertamina
“เรากำลังเตรียมแผนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้โครงการใช้นิกเกิล สำหรับการผลิตแบตเตอรี
สามารถดำเนินการได้ทันที” Orias Petrus Moedak ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MIND ID กล่าวว่า
สามารถดำเนินการได้ทันที” Orias Petrus Moedak ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MIND ID กล่าวว่า
โดยบริษัทฯ จะช่วยสร้างอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมทุกกระบวนการ
ตั้งแต่การผลิตสารเคมีและแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี ไปจนถึง
การสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง และกระบวนการรีไซเคิลแบตเตอรีเก่า
ตั้งแต่การผลิตสารเคมีและแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี ไปจนถึง
การสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง และกระบวนการรีไซเคิลแบตเตอรีเก่า
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับบริษัทจากจีนและเกาหลี
โดยมูลค่าของโครงการนี้คือ 12,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 374,000 ล้านบาท
โดยมูลค่าของโครงการนี้คือ 12,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 374,000 ล้านบาท
Orias กล่าวเพิ่มเติมว่า คนงานเหมืองของ ANTAM จะทำงานในโครงการแบตเตอรี EV ที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงการชะล้างกรดแรงดันสูง (HPAL) และโครงการโรงไฟฟ้าเตาเผาแบบหมุน (RKEF) รวมเป็นมูลค่า 2,000 ล้านถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ (62,300 ล้านบาท ถึง 93,500 ล้านบาท)
รวมถึงการชะล้างกรดแรงดันสูง (HPAL) และโครงการโรงไฟฟ้าเตาเผาแบบหมุน (RKEF) รวมเป็นมูลค่า 2,000 ล้านถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ (62,300 ล้านบาท ถึง 93,500 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลอินโดนีเซีย เคยให้สัมภาษณ์กับ Reuters ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
Tesla ได้ติดต่อกับรัฐบาลอินโดนีเซียอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับการร่วมทุนในอินโดนีเซีย สำหรับการผลิตแร่นิกเกิลเช่นกัน
Tesla ได้ติดต่อกับรัฐบาลอินโดนีเซียอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับการร่วมทุนในอินโดนีเซีย สำหรับการผลิตแร่นิกเกิลเช่นกัน