สรุป Innovation 4 ประเภท ใช้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้สินค้า ที่ทุกธุรกิจเอาไปปรับใช้ได้

Innovation หรือคำว่า “นวัตกรรม” แปลเป็นภาษาไทยตามพจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถานได้ว่า “การกระทำ หรือสิ่งที่ทำขึ้นใหม่หรือแปลกจากเดิม ซึ่งอาจจะเป็นความคิด วิธีการ หรืออุปกรณ์ เป็นต้น”

หรือหากแปลแบบง่าย ๆ นวัตกรรม หมายถึง การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน

โดยความสำคัญของนวัตกรรม ในมุมของธุรกิจและการตลาดนั้น ได้รับการพูดถึงในคลาสเรียน MBA

เพราะนวัตกรรมจะทำให้เกิดสินค้า บริการ หรือกระบวนการใหม่ ๆ ที่จะช่วยแก้ไข Pain Point ของผู้บริโภคที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขมาก่อน หรือปรับปรุงและแก้ไขสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เป็นการช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

แต่ก่อนที่ธุรกิจจะเริ่มสร้างนวัตกรรม มีอีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้ คือ การสร้างนวัตกรรมมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภท ก็มีวิธีและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

1. Incremental Innovation
- มีความซับซ้อนต่ำ
- อยู่ในตลาดเดิม
- ใช้เทคโนโลยีเดิม

นวัตกรรมประเภทแรก หากแปลเป็นภาษาไทยแบบง่าย ๆ คือ “นวัตกรรมจากการต่อยอด” เพราะเป็นการสร้างนวัตกรรม ด้วยการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว โดยนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น

เช่น การนำสินค้า บริการ หรือกระบวนการเดิม มาปรับปรุงให้มีฟีเชอร์ คุณสมบัติ การใช้งาน ประสิทธิภาพ หรือขั้นตอนที่ดีขึ้น

เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน หรือเพิ่มความสดใหม่ ให้กับตัวสินค้าหรือบริการ ในช่วงเวลาหนึ่ง

ซึ่งการสร้างนวัตกรรมในรูปแบบนี้ เรามักเห็นกันในสินค้าเทคโนโลยี ที่มักมีการปรับปรุง หรือออกสินค้ารุ่นใหม่ เป็นประจำทุกปีเพื่อกระตุ้นตลาด

- ตัวอย่างการสร้างนวัตกรรม Incremental Innovation

iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด มักมีการปรับปรุงจากรุ่นเก่าเพียงเล็กน้อย เช่น กล้อง ชิปประมวลผล และแบตเตอรี่ แต่การใช้งานโดยรวมยังคงเหมือนเดิม

โดยข้อดีของนวัตกรรมประเภทนี้คือ ใช้งบประมาณต่ำ ความเสี่ยงน้อย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน Position และตลาดของสินค้าใหม่

2. Disruptive Innovation
- มีความซับซ้อนปานกลาง
- อยู่ในตลาดเดิม
- ใช้เทคโนโลยีใหม่

เป็นการสร้างนวัตกรรมที่ “สร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดเดิม” เช่น การคิดค้นสินค้าหรือบริการ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ เข้ามาแทนที่สินค้าหรือบริการแบบดั้งเดิม

โดยในช่วงแรก ๆ นวัตกรรมแบบ Disruptive Innovation มักเป็นนวัตกรรมที่อยู่ในตลาดเล็ก ๆ (Niche Market) ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายไปยังตลาดที่ Mass ขึ้น

- ตัวอย่างการสร้างนวัตกรรม Disruptive Innovation

แอปพลิเคชัน Grab ที่เข้ามาแทนที่รถแท็กซี่แบบดั้งเดิม ด้วยการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน

หรือ Netflix ที่เข้ามาแทนที่ร้านเช่าวิดีโอ หรือแผ่นดีวีดี ด้วยบริการสตรีมมิงออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต

3. Architectural Innovation
- มีความซับซ้อนปานกลาง
- อยู่ในตลาดใหม่
- ใช้เทคโนโลยีเดิม

เป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยนำส่วนประกอบหรือเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาประกอบกันเป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดใหม่

โดยข้อดีอย่างหนึ่งของนวัตกรรมประเภทนี้คือ ความรวดเร็วในการปรับตัว เพื่อรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือสภาพของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

- ตัวอย่างการสร้างนวัตกรรม Architectural Innovation

รถยนต์ Toyota Prius เกิดจากการนำเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ Toyota มีอยู่แล้ว มาใช้ขับเคลื่อนรถยนต์ร่วมกัน กลายเป็นรถยนต์ Hybrid ที่มีอัตราการใช้น้ำมันน้อยลงมาก

4. Radical Innovation
- มีความซับซ้อนสูง
- อยู่ในตลาดใหม่
- ใช้เทคโนโลยีใหม่

เป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

โดยนวัตกรรมประเภทนี้ จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อตลาด ผู้บริโภค รวมถึง Business Model ที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป

- ตัวอย่างการสร้างนวัตกรรม Radical Innovation

ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ การเปิดตัว iPhone รุ่นแรกเมื่อปี 2007 ที่เปลี่ยนแปลงการแข่งขันของสมาร์ตโฟนไปอย่างสิ้นเชิง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก

รวมถึงทำให้บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในยุคนั้น ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อแข่งขันกับ iPhone

หรืออย่างเทคโนโลยี mRNA ที่ใช้ในการพัฒนาวัคซีนชนิดต่าง ๆ เปิดทางสู่การคิดค้นวิธีการรักษาโรคแบบใหม่ ๆ

โดยนวัตกรรมทั้ง 4 ประเภทที่ได้อธิบายไปข้างต้น เป็นการแบ่งนวัตกรรมตามเทคโนโลยี และผลกระทบต่อตลาดที่เกิดขึ้น

ซึ่งในความจริงแล้ว นวัตกรรมยังแบ่งได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การแบ่งประเภทนวัตกรรมตามเป้าหมาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่

- Process Innovation
เป็นการสร้างนวัตกรรม ที่ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ขั้นตอนการทำงานราบรื่น

- Product Innovation
เป็นการสร้างนวัตกรรมสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าหรือบริการ ทำงานได้ดี มีฟีเชอร์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

- Organizational Innovation
เป็นการสร้างนวัตกรรม ที่เปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานภายในองค์กร เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน

- Marketing Innovation
เป็นการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำการตลาด เช่น กระบวนการ เครื่องมือ และช่องทางที่ใช้ ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดได้ดียิ่งขึ้น

อ้างอิง :
-https://hbr.org/2017/06/the-4-types-of-innovation-and-the-problems-they-solve
-https://www.futurize.studio/blog/4-types-of-innovation-and-examples
-https://www.mba.com/business-school-and-careers/why-business-school/four-types-of-innovation
-https://www.masterclass.com/articles/types-of-innovation
-https://www.rready.com/blog/types-of-innovation-in-business
-https://get.agorize.com/en/resources/what-are-the-4-types-of-innovation/
-https://techsauce.co/en/corp-innov/4-types-of-innovation