สรุปสูตรตั้งราคา ขายอาหารบน Grab ให้ได้เงินเท่าขายหน้าร้าน พร้อมวิธีคำนวณโปรโมชัน ครบจบในโพสต์เดียว
4 ม.ค. 2025
ถ้าเราขายของบนแอปดิลิเวอรีอย่าง Grab เราก็จะรู้ว่า แพลตฟอร์มจะมีการหักค่า GP (Gross Profit) ในรูปแบบของส่วนแบ่งตามยอดขายอยู่ที่ราว ๆ 30% ด้วย
แต่รู้ไหมว่าตัวเลขนี้จะยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% ที่จะถูกคิดจากค่า GP อีกที
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโปรโมชันต่าง ๆ ที่แต่ละร้าน จะมีวิธีเพิ่มยอดขายที่ต่างกันอีก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโปรโมชันต่าง ๆ ที่แต่ละร้าน จะมีวิธีเพิ่มยอดขายที่ต่างกันอีก
ซึ่งอาจทำให้หลายคนสับสน จนตั้งราคาผิดพลาด และอาจขาดทุนโดยไม่รู้ตัวได้
MarketThink จะสรุปสูตรตั้งราคา ขายอาหารบน Grab ให้ได้กำไรเท่าขายหน้าร้าน พร้อมวิธีคำนวณโปรโมชัน แบบเข้าใจง่าย ๆ แชร์เก็บไว้ได้เลย
1. วิธีคำนวณค่า GP และ VAT แบบง่าย ๆ
Grab จะมีการคิดเงินค่า GP 30% จากราคาขาย และ VAT 7% ที่จะถูกคิดจากค่า GP อีกที
สมมติว่าเราขายข้าวกะเพราหมูสับ ราคา 100 บาท บน Grab
เราจะถูกหักค่า GP 30% = 100 * 30% = 30 บาท
และถูกหักค่า VAT 7% จากค่า GP = 30 * 7% = 2.1 บาท
และถูกหักค่า VAT 7% จากค่า GP = 30 * 7% = 2.1 บาท
เท่ากับว่าเราจะได้เงินจากแอปพลิเคชัน 100 - 30 - 2.1 = 67.9 บาท
2. สูตรตั้งราคาขาย “ราคาขายหน้าร้าน x 1.48”
บน Grab มีสูตรง่าย ๆ ไว้ตั้งราคาขายให้ได้กำไรเท่ากับขายที่หน้าร้าน
คือ “ราคาขายหน้าร้าน x 1.48”
คือ “ราคาขายหน้าร้าน x 1.48”
สมมติว่าเราขายข้าวกะเพราหมูสับที่หน้าร้าน ราคา 60 บาท
ราคาขายบน Grab ก็ควรจะเป็น 60 x 1.48 = 89 บาท
ราคาขายบน Grab ก็ควรจะเป็น 60 x 1.48 = 89 บาท
ตามสูตรนี้เราจะโดนหักค่า GP 30% คือ 89 x 30% = 27 บาท
และหักภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% คือ 27 x 7% = 2 บาท
และหักภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% คือ 27 x 7% = 2 บาท
จะเห็นว่าถ้าเราตั้งราคาขายที่ 89 บาท เราจะได้รับเงินสุทธิ คือ 89 - 27 - 2 = 60 บาท
ซึ่งเท่ากับหน้าร้านพอดีนั่นเอง..
ซึ่งเท่ากับหน้าร้านพอดีนั่นเอง..
3. วิธีคำนวณส่วนลดของโปรโมชัน
สำหรับวิธีคำนวณโปรโมชันบน Grab จะมีคอนเซปต์คือ ใช้ “รายได้หลังจากหักส่วนลดจากโปรโมชัน”
มาคำนวณกับค่า GP 30% และ VAT 7%
มาคำนวณกับค่า GP 30% และ VAT 7%
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำโปรโมชัน ซื้อครบ 500 บาท ลูกค้าจะได้ส่วนลด 10%
ถ้าลูกค้าสั่งซื้ออาหาร มูลค่า 590 บาท จะเท่ากับว่า ลูกค้าได้ส่วนลด 590 x 10% = 59 บาท
ถ้าลูกค้าสั่งซื้ออาหาร มูลค่า 590 บาท จะเท่ากับว่า ลูกค้าได้ส่วนลด 590 x 10% = 59 บาท
หมายความว่า “รายได้หลังจากหักส่วนลดจากโปรโมชัน” ของเราจะอยู่ที่ 590 - 59 = 531 บาท
ซึ่งเราต้องนำตัวเลขตรงนี้มาคำนวณกับค่า GP 30% และ VAT 7%
กรณีนี้เราจะถูกหักค่า GP 30% = 531 x 30% = 159.3 บาท
และถูกหักค่า VAT 7% จากค่า GP = 159.3 x 7% = 11.15 บาท
ซึ่งเราต้องนำตัวเลขตรงนี้มาคำนวณกับค่า GP 30% และ VAT 7%
กรณีนี้เราจะถูกหักค่า GP 30% = 531 x 30% = 159.3 บาท
และถูกหักค่า VAT 7% จากค่า GP = 159.3 x 7% = 11.15 บาท
เท่ากับว่าเราจะได้เงินจาก Grab 590 - 59 - 159.3 - 11.15 = 360.55 บาท
4. วิธีคำนวณส่วนลดค่าส่ง
4. วิธีคำนวณส่วนลดค่าส่ง
ถ้าเราให้ “ส่วนลดค่าส่ง” กับลูกค้า Grab จะคำนวณส่วนลดนั้นหลังจากหักค่า GP 30% และ VAT 7% อีกทีหนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำโปรโมชันลดค่าส่ง 10 บาท เมื่อลูกค้าซื้อครบ 100 บาท
ถ้าหากว่าลูกค้าสั่งข้าวกะเพราหมูสับ ราคา 100 บาท หมายความว่าลูกค้าจะได้ส่วนลดค่าส่ง 10 บาท
ในกรณีนี้เราจะถูกหักค่า GP 30% คือ 100 x 30% = 30 บาท และถูกหักค่า VAT 7% จากค่า GP คือ 30 x 7% = 2.1 บาท ตามปกติก่อน แล้วค่อยเอาไปหักกับส่วนลดค่าส่ง 10 บาท
ดังนั้นจะเท่ากับว่าเราจะได้เงินจาก Grab ทั้งสิ้น 100 - 30 - 2.1 - 10 = 57.9 บาท นั่นเอง..