วิเคราะห์ You’re my Destin(y)ation MV ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Insight จริง ที่ไปรษณีย์ไทย ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ

ในทุก ๆ ความสำเร็จ ย่อมมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง..
ถ้าให้ลองนึกว่า เหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นคืออะไร
หลายคนอาจตอบว่า เกิดจากความพยายาม ความขยัน หรือการวางแผนอย่างรอบคอบ

แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะถูกมองข้ามไปคือ “ความสัมพันธ์” ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน ครอบครัว หรือพาร์ตเนอร์
เพราะบางครั้ง ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง มีคนคอยหนุนอยู่ด้านหลัง ก็อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้หลาย ๆ คนประสบความสำเร็จได้เช่นกัน..

เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งมี MV ตัวหนึ่ง ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Insight จริง
โดยเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชีวิตพลิกผันจากล้มเหลวสู่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเกิดขึ้นได้ เพราะมีคุณตาคอยหนุนหลัง

ที่น่าสนใจ เบื้องหลังการถ่ายทอดเรื่องราวนี้คือ “ไปรษณีย์ไทย”

แล้วเรื่องราวความสำเร็จของชายหนุ่มคนนี้ เกิดจากคุณตาได้อย่างไร ?
และเกี่ยวข้องอะไรกับไปรษณีย์ไทย ?
MarketThink จะชวนมาหาคำตอบกัน

MV ที่พูดถึงนี้ มีชื่อว่า “You’re my Destin(y)ation จุดหมายปลายทางของหัวใจ”
ถึงแม้จะมีความยาวสั้น ๆ ไม่ถึง 3 นาที แต่เชื่อว่าถ้าใครได้ดู ก็ต้องรู้สึกซาบซึ้ง และประทับใจไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องอย่างแน่นอน

เล่าสั้น ๆ เรื่องนี้เปิดฉากด้วยชายหนุ่มที่ชื่อว่า โอม ถูกปลดออกจากงานแบบกะทันหัน
เพราะบริษัทปิดกิจการ ซึ่งในฉากจะเห็นว่า โอมกำลังรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้

แต่ทันใดนั้นก็ได้รับกำลังใจดี ๆ จากคุณตา ผู้เลี้ยงดูโอมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ผ่านมะขามแก้วและโปสต์การ์ดที่ฝากมาส่งผ่านไปรษณีย์ไทย ที่เป็นตัวแทนในการส่งมอบกำลังใจดี ๆ ให้ถึงหน้าบ้าน

ซึ่งโปสต์การ์ดนี้เอง ทำให้โอมเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ
เพราะด้วยความที่คุณตาเป็นชาวสวน ปลูกมะขามร่วมกับชาวบ้านชุมชนมะขาม ซึ่งตอนเด็ก ๆ โอมก็ได้ไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อย ๆ

ดังนั้นโอกาสทางธุรกิจที่ว่าก็คือ ธุรกิจบอนไซมะขาม ที่โอมปลูกไว้ในห้องของตัวเอง แต่ไม่เคยเห็นความสำคัญ

หลังจากที่โอมได้ริเริ่มธุรกิจบอนไซมะขาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โอมประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นต้นกล้ามะขามจากชุมชนมะขามที่คุณตาส่งให้แล้ว

ก็ยังมีพี่ไปรษณีย์ไทยที่อยู่เคียงข้างความสำเร็จ ด้วยการส่งบอนไซมะขามไปถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยและทะนุถนอมในทุกขั้นตอน

เรื่องราวดำเนินมาถึงฉากสุดท้าย
เป็นฉากที่โอมฝากให้พี่ไปรษณีย์ไทยส่งบอนไซมะขามมาเป็นของขวัญให้คุณตา ในขณะเดียวกันโอมก็ได้กลับไปหาคุณตาที่สวนมะขามเช่นกัน

ในฉากนี้ ทั้งคู่ได้สวมกอดกัน ชวนให้นึกถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ตั้งแต่ตอนที่โอมยังเป็นเด็ก ๆ เรียกได้ว่า ซีนนี้เป็นซีนที่เด็ดที่สุด และน่าจะเป็นซีนที่ชวนให้ใครหลาย ๆ คนที่ดูน้ำตาไหล และซาบซึ้งไปกับ MV ตัวนี้

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความสำเร็จของโอมและคุณตา ที่ถ่ายทอดออกมา
ซึ่งถ้าลองมองลึกลงไปมากกว่าแค่ MV ต้องบอกว่า นอกจากไปรษณีย์ไทยจะทำออกมาได้อย่างซาบซึ้งแล้ว ยังสะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างของธุรกิจไปรษณีย์ไทยเองอีกด้วย

1. การใช้กลยุทธ์ Emotion Bonding

ถ้าดูเฉพาะในมุมของ MV จะเห็นว่า เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมานี้เล่นกับอารมณ์ของคนดู ผ่านการฉายภาพความสัมพันธ์อันแนบแน่นของคุณตากับโอมตั้งแต่เด็ก ๆ จนเติบโตมาเป็นชายหนุ่ม

ซึ่งจุดนี้เองนับว่าเป็นครั้งแรกของไปรษณีย์ไทย ในการทำการตลาดโดยหยิบยกโมเมนต์การเติบโตของคนคนหนึ่งมาเล่าให้เห็นภาพ

ส่วนในมุมของธุรกิจ ต้องบอกว่า Emotion Bonding ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับ MV
แต่ยังทำให้เราในฐานะคนดู รู้สึกผูกพันไปกับไปรษณีย์ไทยที่อยู่กับคนไทยมากว่า 141 ปี ที่ส่งมอบบริการด้วยความใส่ใจ และเต็มไปด้วยคุณภาพอีกด้วย

2. สะท้อนบริการใหม่ ๆ ในการเป็นมากกว่าขนส่ง

หากดูตั้งแต่ต้นจนจบ จะเห็นว่า ไม่ได้มีฉากที่พูดถึงข้อดีของไปรษณีย์ไทยแบบตรง ๆ
แต่แอบสอดแทรกบริการได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็น บริการส่งต้นไม้ กล้าพันธุ์ไม้ ที่จัดส่งแบบ EMS ถึงปลายทางภายใน 1-2 วัน

แถมยังมีกล่องต้นไม้ Tree For U ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยถนอมและป้องกันให้ต้นไม้ กล้าพันธุ์ไม้ ไม่เสียหายจากการขนส่ง

เรียกได้ว่าในปัจจุบัน ไปรษณีย์ไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่ขนส่ง
แต่เป็นตัวกลางที่มีบริการใหม่ ๆ เข้ามาช่วยให้การส่งมอบสินค้าไปถึงมือผู้รับได้อย่างมีคุณภาพ และปลอดภัย

3. สะท้อนสโลแกนของไปรษณีย์ไทย คือ ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ

สิ่งที่ไปรษณีย์ไทยอยากชูที่สุดคือ “ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ”
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าความสัมพันธ์ไหน ๆ หรือการทำธุรกิจใด ๆ ก็ประสบความสำเร็จได้ โดยมีไปรษณีย์ไทยเป็นตัวกลางที่ช่วยเชื่อมหรือผลักดันไปสู่ความสำเร็จ เช่น

- ความสำเร็จของโอมในการทำธุรกิจบอนไซมะขาม ก็มีพี่ไปรษณีย์ไทยช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างโอมกับลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับต้นบอนไซมะขามอย่างมีคุณภาพ

- ความสำเร็จของโอมกับคุณตา ที่มีพี่ไปรษณีย์ไทยคอยส่งมอบความคิดถึง ไม่ว่าจะเป็น มะขามแก้ว หรือโปสต์การ์ด ที่คุณตาฝากไปให้โอม

- ความสำเร็จของชาวบ้านชุมชนมะขาม ที่มีส่วนร่วมในการส่งมอบต้นกล้ามะขาม ให้โอมนำไปดูแลต่อ จนพร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้า

นอกจากนี้ ในเนื้อเพลงเองก็ยังแฝงไปด้วยความหมาย
อย่างประโยคที่ร้องซ้ำ ๆ หลายท่อนว่า “เพราะเธอคือจุดหมาย” เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ไปรษณีย์ไทยนั้นมีความสำเร็จของลูกค้าเป็นจุดหมาย

ถ้าลูกค้าประสบความสำเร็จ ไปรษณีย์ไทยก็จะประสบความสำเร็จ พร้อมเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคตไปด้วยกัน..

อีกทั้งยังมีท่อนที่สะท้อนให้เห็นว่า นอกจากจะผลักดันทุกคนไปสู่ความสำเร็จแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังจะอยู่เคียงข้างในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่มีเรื่องเสียใจ ผิดหวัง หรือยากเย็น

เหมือนอย่างฉากแรกที่โอมกำลังผิดหวัง แต่กลับได้รับกำลังใจผ่านพี่ไปรษณีย์ไทยนั่นเอง..

มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่า เรื่องราวความสัมพันธ์ของโอมและคุณตาจะซาบซึ้งมากแค่ไหน

สามารถติดตาม You’re my Destin(y)ation จุดหมายปลายทางของหัวใจ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Insight จริงของไปรษณีย์ไทยได้ที่

#ไปรษณีย์ไทย
#ส่งทุกความสัมพันธ์สู่ทุกความสำเร็จ