อธิบาย Brand Identity Prism เครื่องมือสร้างแบรนด์ ให้ลูกค้าอยากซื้อ ด้วย 6 องค์ประกอบ
24 ส.ค. 2024
เมื่อพูดถึงการสร้างแบรนด์ หลายคนน่าจะนึกถึงการทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่จดจำในมุมของลูกค้า
และในหลาย ๆ ครั้ง การสร้างแบรนด์ ก็ถูกนำไปผูกติดอยู่กับการออกแบบโลโก และแพ็กเกจจิง ให้มีความสวยงาม มีสโลแกนเท่ ๆ ที่ใคร ๆ ก็จำได้
และในหลาย ๆ ครั้ง การสร้างแบรนด์ ก็ถูกนำไปผูกติดอยู่กับการออกแบบโลโก และแพ็กเกจจิง ให้มีความสวยงาม มีสโลแกนเท่ ๆ ที่ใคร ๆ ก็จำได้
แต่ในความจริงแล้ว การจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้นั้นมีองค์ประกอบมากกว่านี้
หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้ คือเครื่องมือที่เรียกว่า Brand Identity Prism
แล้ว Brand Identity Prism คืออะไร เราจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ในโพสต์นี้..
- Brand Identity Prism คือ เครื่องมือในการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ คิดค้นขึ้นโดย Jean-Noel Kapferer ซึ่งเป็นนักการตลาดชาวฝรั่งเศส ในช่วงปี 1986
โดย Brand Identity Prism จะประกอบไปด้วย 6 องค์ประกอบสำคัญด้วยกัน ได้แก่
1. Physique รูปลักษณ์หน้าตาของแบรนด์
ตรงตามชื่อขององค์ประกอบเลย เพราะ Physique คือเรื่องทางกายภาพที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากสายตาของลูกค้า
เช่น โลโก สี ฟอนต์ การออกแบบสินค้า เว็บไซต์ แพ็กเกจจิง
เช่น โลโก สี ฟอนต์ การออกแบบสินค้า เว็บไซต์ แพ็กเกจจิง
เป็นเหมือนหน้าตาของแบรนด์ที่ลูกค้าจะมองเห็นแบบเดียวกับ First Impression
โดยที่เรื่อง Physique นี้ มีสิ่งที่ต้องคิดก็คือ เราอยากจะให้แบรนด์มีลักษณะอย่างไร อยากให้ลูกค้าเห็น รับรู้ หรือรู้สึกอย่างไรจาก Physique ซึ่งเป็นเหมือนลักษณะภายนอกของแบรนด์เรา
2. Personality แครักเตอร์ของแบรนด์
คือบุคลิก ลักษณะ แครักเตอร์ของแบรนด์ ที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า และลูกค้าเองก็รับรู้ได้ว่าแบรนด์เป็นคนที่มีบุคลิกแบบไหน
เช่น จริงจัง สนุกสนาน เป็นมิตร ทางการ อ่อนโยน หรืออบอุ่น
โดยการกำหนดบุคลิกของแบรนด์ก็ทำได้ไม่ยาก
โดยใช้หลักคิดที่ว่า หากแบรนด์ของเราเป็นคนที่มีชีวิต เราอยากจะให้แบรนด์ของเราเป็นคนแบบไหน ในมุมมองของลูกค้า
โดยใช้หลักคิดที่ว่า หากแบรนด์ของเราเป็นคนที่มีชีวิต เราอยากจะให้แบรนด์ของเราเป็นคนแบบไหน ในมุมมองของลูกค้า
3. Culture วัฒนธรรมของแบรนด์
เป็นปัจจัยภายในในการสร้างแบรนด์ ซึ่งก็ประกอบไปด้วย เรื่องราวของแบรนด์ ความเป็นมา วัตถุประสงค์ ค่านิยม ความเชื่อ คุณค่าหรือสิ่งที่แบรนด์ของเรายึดถือ วิธีคิด วิธีการทำงาน วิธีในการทำธุรกิจ
ซึ่งวัฒนธรรมที่ว่านี้ แม้จะเป็นปัจจัยที่อยู่ภายใน แต่จริง ๆ แล้วคนที่อยู่ภายนอกอย่างเช่นลูกค้า
ก็สามารถมองเห็นได้ และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความรู้สึกในเชิงบวก หรือเชิงลบ ในมุมมองของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้เช่นกัน
ก็สามารถมองเห็นได้ และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความรู้สึกในเชิงบวก หรือเชิงลบ ในมุมมองของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้เช่นกัน
4. Relationship ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
ไม่ใช่การมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบของ “ผู้ซื้อ-ผู้ขาย”
แต่ความสัมพันธ์นี้ยังหมายถึงการกำหนดความสัมพันธ์ที่แบรนด์ต้องการมีต่อลูกค้า เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์
เช่น การมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย มีความเป็นคนในสังคมเดียวกัน เป็นเหมือนเพื่อนหรือคนในครอบครัว
นอกจากนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง ความสัมพันธ์ยังหมายถึงการสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ในระยะยาว
ผ่านบริการหลังการขาย การให้ความช่วยเหลือ การจัดกิจกรรม หรือการให้ลูกค้าสมัครสมาชิกของแบรนด์ ซึ่งจะช่วยสร้างความผูกพันได้ในระยะยาวอีกด้วย
5. Self-Image
คือภาพลักษณ์ที่ลูกค้ามองตัวเอง ว่าเป็นคนแบบใด มีลักษณะอย่างไร เป็นปัจจัยภายนอกของการสร้างแบรนด์
องค์ประกอบในข้อนี้คือ การที่แบรนด์จำลองว่าลูกค้าคนนั้น เป็นคนแบบใด มีลักษณะอย่างไร เมื่อลูกค้าคนนั้นได้ใช้สินค้าของแบรนด์
เช่น ลูกค้าของเราอาจมองว่าตัวเองใช้สินค้าของเราแล้ว เป็นคนเท่ สมาร์ต ทันสมัย
เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ตั้งแต่อายุยังน้อย
หรือเป็นคนเทสต์ดี มีรสนิยมกว่าคนอื่น ๆ
เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ตั้งแต่อายุยังน้อย
หรือเป็นคนเทสต์ดี มีรสนิยมกว่าคนอื่น ๆ
ซึ่งการที่เราเข้าใจว่าลูกค้าของเราเป็นใคร และมีภาพลักษณ์ที่มองตัวเองอย่างไร ก็จะทำให้แบรนด์เข้าใจ และสามารถทำการสร้างแบรนด์ ให้เหมาะสมกับลูกค้าของตัวเองได้
6. Reflection ส่วนกลับของ Self-Image
ในองค์ประกอบข้อสุดท้ายของ Brand Identity Prism นี้ มีลักษณะตรงกันข้ามกับ Self-Image ที่ลูกค้าเป็นฝ่ายมองว่าตัวเองมีภาพลักษณ์ หรือเป็นคนแบบใด เมื่อใช้สินค้าของแบรนด์
แต่ในองค์ประกอบของ Reflection นี้ เป็นการมองจากฝั่งของแบรนด์เองบ้างว่าลูกค้าของตนเองนั้นเป็นใคร เป็นคนกลุ่มใด และมีภาพลักษณ์อย่างไร
ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา อาจมองว่าลูกค้าของตัวเอง เป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย ชอบทำกิจกรรมโลดโผน
เรียกง่าย ๆ ก็คล้ายกับกระจกที่สะท้อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการให้ความสำคัญนั้นคือใคร และทำให้แบรนด์สามารถทำการตลาดได้อย่างเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่ตัวเองต้องการ
ซึ่งเมื่อเรานำองค์ประกอบทั้ง 6 ข้อมารวมกัน ก็จะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างรอบด้าน
ทีนี้ เพื่อการทำความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น เรามาลองดูตัวอย่างจริง ๆ กันดีกว่าว่า หากเราลองอธิบายอัตลักษณ์ของแบรนด์ต่าง ๆ ด้วย Brand Identity Prism จะเป็นอย่างไร
- Brand Identity Prism ของ Apple
1. Physique
สิ่งที่เห็นได้จากลักษณะภายนอกของ Apple ก็คือ ความเรียบง่ายของการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี มินิมัล เรียบหรู มีนวัตกรรมใหม่ ๆ
รวมถึงเอกลักษณ์ของโลโก Apple ที่ถูกกัดจนแหว่ง ซึ่งใคร ๆ ก็จดจำได้
รวมถึงเอกลักษณ์ของโลโก Apple ที่ถูกกัดจนแหว่ง ซึ่งใคร ๆ ก็จดจำได้
2. Personality
หาก Apple เป็นคน จะเป็นคนที่มีบุคลิกเรียบ ๆ คูล ๆ ฉลาด ทันสมัย และคิดนอกกรอบ สังเกตได้จากการสื่อสาร และการทำการตลาดของ Apple ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
3. Culture
วัฒนธรรมของ Apple ดูมีความคิดต่าง คิดนอกกรอบ เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า รวมถึงให้ความสำคัญกับประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อม
4. Relationship
ความสัมพันธ์ระหว่าง Apple กับลูกค้า มีความเป็นมิตร เชื่อถือได้ น่าไว้วางใจ มีความเข้าอกเข้าใจ และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อลูกค้าพบกับปัญหา
5. Self-Image
ลูกค้าของ Apple มองว่าตัวเองคือผู้ที่โดดเด่น มีความแตกต่าง เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ทำงานที่ต้องใช้ความครีเอทิฟ เป็นผู้นำเทรนด์
6. Reflection
Apple มองว่าลูกค้าของตัวเอง คือคนที่ใช้สินค้าของ Apple เพื่อยกระดับการใช้ชีวิต ทำให้การใช้ชีวิตง่ายยิ่งขึ้น เป็นคนรุ่นใหม่ มีเสรีทางความคิด และเป็นคนพิเศษสำหรับแบรนด์
ทั้งหมดนี้ คือ Brand Identity Prism เครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์และนักการตลาด สามารถสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่ง จากทั้ง 6 ปัจจัยรอบด้าน
#การตลาด
#การสร้างแบรนด์
#BrandIdentityPrism
—-------------------------------------------
อ้างอิง :
-https://miro.com/miroverse/brand-identity-prism-canvas/
-https://boardmix.com/examples/brand-identity-prism-examples/
-https://www.flux-academy.com/blog/what-is-brand-identity-prism-and-how-does-it-work
-https://www.linkedin.com/pulse/apples-brand-identity-prism-yuva-teja
-https://www.slideshare.net/slideshow/brand-project-apple/9963683#26
-https://www.popticles.com/branding/brand-identity-prism/
-https://sunnysideupstudio.net/th/brand-identity-prism/
-https://www.rocket.in.th/blog/brand-identity/
-https://www.everydaymarketing.co/knowledge/brand-identity-prism-a-tool-that-helps-design-brand-identity/
#การสร้างแบรนด์
#BrandIdentityPrism
—-------------------------------------------
อ้างอิง :
-https://miro.com/miroverse/brand-identity-prism-canvas/
-https://boardmix.com/examples/brand-identity-prism-examples/
-https://www.flux-academy.com/blog/what-is-brand-identity-prism-and-how-does-it-work
-https://www.linkedin.com/pulse/apples-brand-identity-prism-yuva-teja
-https://www.slideshare.net/slideshow/brand-project-apple/9963683#26
-https://www.popticles.com/branding/brand-identity-prism/
-https://sunnysideupstudio.net/th/brand-identity-prism/
-https://www.rocket.in.th/blog/brand-identity/
-https://www.everydaymarketing.co/knowledge/brand-identity-prism-a-tool-that-helps-design-brand-identity/