สรุปอินไซต์ 5 ข้อ พฤติกรรมคนไทย ใช้สื่อออนไลน์ ปี 2024 จาก Marketbuzzz

รู้หรือไม่ ? คนไทยใช้เวลาอยู่บนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 7 ชั่วโมง 58 นาทีต่อวัน
แม้ตัวเลขนี้อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ปัจจุบันบนอินเทอร์เน็ต มักมีแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น ข่าวสาร ความบันเทิง เข้ามาแย่งชิงความสนใจจากผู้ใช้งานตลอดเวลา

ทำให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ คน ใช้เวลาอยู่บนบางแพลตฟอร์มเพียงแป๊บเดียว

เมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าเราเป็นนักการตลาด ที่อยากให้แคมเปญการตลาด หรือการสื่อสารแบรนด์ เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากที่สุด ต้องทำอย่างไร ?

ล่าสุด Marketbuzzz ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้สื่อของคนไทย จำนวน 700 คนทั่วประเทศ
โดยได้ทำการบันทึกข้อมูลการใช้สื่อของผู้เข้าร่วมสำรวจเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อ ทำให้นักการตลาดและแบรนด์เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากที่สุด

ซึ่งจากผลสำรวจ สามารถสรุปอินไซต์พฤติกรรมการใช้สื่ออนไลน์ของคนไทยในปี 2024 ออกมาเป็น 5 ข้อ ได้แก่

1. คนไทยเสพสื่อผ่าน “มือถือ” เป็นอุปกรณ์หลัก และสื่อที่นิยมใช้งานมากสุดคือ “โซเชียลมีเดีย”

จากการสำรวจว่า ผู้เข้าร่วมสำรวจใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในเสพสื่อ
ผลปรากฏว่า 60% ของผู้เข้าร่วมสำรวจ เสพสื่อผ่าน “มือถือ” หรือสมาร์ตโฟน จึงเรียกว่าเป็นอุปกรณ์หลักในการเข้าถึงช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ

ด้วยเหตุนี้ หากแบรนด์คิดจะสร้างเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง เพื่อทำการตลาด ก็ควรออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานผ่านมือถือได้อย่างสะดวก หรือในวงการออกแบบมีคำศัพท์ว่า “Mobile-Friendly” นั่นเอง

นอกจากนี้ จากผลการสำรวจยังพบว่า ช่องทางสื่อที่คนไทยนิยมใช้งานที่สุด ได้แก่
- อันดับ 1 โซเชียลมีเดีย คิดเป็น 70%
- อันดับ 2 การท่องอินเทอร์เน็ต คิดเป็น 50%
- อันดับ 3 การรับชมสตรีมมิงวิดีโอคอนเทนต์ คิดเป็น 47%

2. LINE คือโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้ติดต่อสื่อสารมากที่สุด

จาก 3 อันดับดังกล่าว เมื่อเจาะลงมาเฉพาะพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว พบว่า ในการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ จะมี 2 แพลตฟอร์มหลัก ๆ ที่คนไทยนิยมใกล้เคียงกัน ได้แก่

- อันดับ 1 นิยมใช้ LINE มากที่สุด คิดเป็น 78%
- อันดับ 2 นิยมใช้ Facebook รองลงมา คิดเป็น 68%
- อันดับ 3 นิยมใช้ Messenger คิดเป็น 34%

ส่วนอันดับอื่น ๆ ได้แก่ ใช้ TikTok 29%, ใช้ Instagram 21% และใช้ Threads 14% ในการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ

ที่น่าสนใจคือ Threads เป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่ของ Meta เจ้าของ Facebook และ Instagram ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่กลับได้รับความนิยมในการใช้ติดต่อสื่อสารเช่นกัน

สะท้อนให้เห็นว่า ผู้คนจำนวนมากกำลังมองหาช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือช่องทางในการเสพสื่อที่มีคอนเทนต์เฉพาะเจาะจง และตรงกับความสนใจมากขึ้น

3. YouTube คือแพลตฟอร์มสตรีมมิง หรือแพลตฟอร์มวิดีโอที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด

จากการสำรวจว่า ผู้เข้าร่วมสำรวจดูคอนเทนต์วิดีโอผ่านช่องทางไหนบ้าง
ผลปรากฏว่า แม้ช่องทางการเสพสื่อหรือคอนเทนต์วิดีโอจะมีหลากหลาย แต่ยังมีเจ้าตลาดที่ครองใจผู้ใช้งานในไทย ได้แก่

- อันดับ 1 นิยมใช้ YouTube มากที่สุด คิดเป็น 62%
- อันดับ 2 นิยมใช้ Netflix คิดเป็น 35%
- อันดับ 3 นิยมใช้ TrueID คิดเป็น 27%
- อันดับ 4 นิยมใช้ AISPlay คิดเป็น 20%
- อันดับ 5 นิยมใช้ Disney+ คิดเป็น 14%

4. YouTube Music คือแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงยอดนิยมเช่นกัน

นอกจาก YouTube จะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุดแล้ว
YouTube Music ก็เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงที่คนไทยนิยมใช้เช่นเดียวกัน โดยครองความเป็นผู้นำที่มีผู้เข้าร่วมสำรวจใช้งานถึง 71%

รองลงคือ JOOX คิดเป็น 42% ตามมาด้วย Spotify 26% และ Apple Music 15%

5. สื่อสารให้ถูกเวลา คือเรื่องสำคัญที่ทำให้สื่อสารได้ถึงกลุ่มลูกค้า

นอกจากเรื่องแพลตฟอร์มยอดนิยมต่าง ๆ แล้ว
“ช่วงเวลา” ก็นับเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้นักการตลาดสามารถสื่อสารแบรนด์ไปถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า ในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้า และช่วงเย็น คนไทยมีพฤติกรรมการใช้สื่อแตกต่างกัน

- ช่วงเช้า คนไทยมักนิยมใช้โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่าง ๆ

แต่จะใช้แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีภารกิจต่าง ๆ เช่น ทำงาน การเรียน ทำให้ไม่มีเวลาในการเสพสื่อเหล่านี้

- ช่วงบ่าย แอปพลิเคชันดิลิเวอรี ได้รับความนิยมสูง

เนื่องจากเป็นช่วงเวลาพักกลางวัน และแอปพลิเคชันดิลิเวอรีช่วยสร้างความสะดวกสบายในการสั่งอาหาร เช่นเดียวกับช่วงเย็น ที่ก็มีปริมาณการใช้งานแอปพลิเคชันดิลิเวอรีมากขึ้นเช่นกัน แต่ไม่เท่ากับช่วงกลางวัน

- ช่วงเย็น คนไทยมักนิยมชมวิดีโอสตรีมมิงและทีวีมากที่สุด เนื่องจากช่วงเย็นเป็นช่วงพักผ่อน มีเวลาว่างจากการเรียนและการทำงาน

ทั้งหมดนี้คือ อินไซต์พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของคนไทยในปี 2024 จาก Marketbuzzz

ซึ่ง Marketbuzzz ได้สรุปไว้ว่า หากแบรนด์มีความเข้าใจในพฤติกรรมการใช้สื่อเหล่านี้ของคนไทย สามารถปรับตัว และวางกลยุทธ์การสื่อสารให้เหมาะสมได้ ก็จะทำให้การสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือคนไทยได้ง่ายขึ้น