สลัดแฟคทอรี่ ปรับกลยุทธ์สู้วิกฤตโควิด-19 เพิ่มช่องทางการขาย เปิด Cloud Kitchen และโมเดลใหม่ Pop-Up Store
22 เม.ย. 2020
สลัดแฟคทอรี่ ร้านสลัดเพื่อสุขภาพ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเพื่อสุขภาพให้คนทานได้ทานผักจากแหล่งผลิตอาหารที่ดี ด้วยความใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือก คัดสรรวัตถุดิบจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ไร้สารพิษ จัดเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัดและซอสแบบโฮมเมดกว่า 20 ชนิด ภายใต้งานบริหารงานโดย บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ พร้อมปรับกลยุทธ์ ดำเนินการแผนเชิงรุกเพิ่มช่องทางการขาย เปิด Cloud Kitchen ในย่านอารีย์ และ เปิดโมเดลใหม่ Pop-Up Store กระจายจุดบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกือบทุกด้าน โดยในส่วนของร้านอาหารที่ไม่สามารถเปิดให้บริการที่หน้าร้านได้ แบรนด์จึงต้องปรับตัวเพื่อรักษารายได้ และสามารถดูแลพนักงานทุกคนได้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อาทิ
ทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด โดยเน้นไปที่การบริการแบบเดลิเวอรี่ เช่น บริการส่งฟรี 5 กม. แรกสำหรับบางสาขา, ส่วนลด 50 บาทเมื่อสั่งผ่านช่องทาง Line OA : @SaladFactory และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสาขาใหม่ อารีย์ ซอย 2 มอบส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อครบทุก 500 บาท เปิดสาขาใหม่ในรูปแบบ Cloud Kitchen ซึ่งเน้นการเดลิเวอรี่โดยใช้พื้นที่ครัวเป็นหลัก ไม่มีบริการแบบนั่งทานที่ร้าน ซึ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นับเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตของยอดขาย เนื่องจากการขยายสาขาในรูปแบบนี้สามารถทำได้รวดเร็วและลงทุนไม่สูงมากนัก โดยย่านอารีย์ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความน่าสนใจในเชิงของผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อ และความหนาแน่นของประชากรที่สูง สำหรับแผนการขยายสาขาในรูปแบบ Cloud Kitchen ทางแบรนด์จะพิจารณาตามสถานการณ์เป็นหลัก เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ขยาย Pop-Up Store เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงและการใช้บริการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด รวมถึงยังเป็นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยเปิดบริการที่โซนด้านหน้า ท็อปส์ มาร์เก็ต ในหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ เช่น เมกาบางนา, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลพระราม3, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เป็นต้น
“สลัดแฟคทอรี่ เราดำเนินธุรกิจแบบเติบโตไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งตัวแบรนด์และบุคลากรของแบรนด์ รวมไปถึงซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นวันนี้ เราจะยังคงดูแลทุกคน ไม่มีการปลดพนักงานออก แต่ยังเร่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กรให้พร้อมปรับตัวในทุกสถานการณ์ รวมไปถึงในส่วนของซัพพลายเออร์ ซึ่งหลักๆของแบรนด์ก็จะเป็นกลุ่มเกษตรกรต่างๆ ยังคงอยู่รอดต่อไปได้ แบรนด์จึงต้องพยายามและปรับตัวกันอย่างหนักเพื่อหารายได้จากช่องทางอื่นๆมาชดเชยในส่วนบริการหน้าร้านที่หายไป” คุณปิยะ กล่าวในตอนท้าย