สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดหลักสูตร “Young SME” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เน้นเชื่อมโยง Soft Power เสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และประธานคณะกรรมการ หลักสูตร Young SME เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจ SME มีการเติบโตอย่างอย่างรวดเร็ว และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพิ่มมากขึ้นทุกปี และจากการสรุปภาพรวมเศรษฐกิจ SME ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ปี 2566 GDP SME ภาพรวมโตขึ้น 4% คิดเป็นมูลค่า 6.44 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างชะลอตัวจากการระมัดระวังค่าใช้จ่ายของประชาชน

ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 แนวโน้มการเติบโต GDP SME อยู่ระหว่าง 4–5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการท่องเที่ยวและการส่งออก รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนให้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะเรื่องของ Soft Power

ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมในการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนา SME ทุกมิติ ได้ร่วมกับบริษัท มีเดียรีพับพลิค จำกัด จัดทำหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเอสเอ็มอีไทย รุ่นใหม่ YOUNG SME #1 SOFT POWER EPISODE เพื่อต้องการสร้างองค์ความรู้และเป็นตัวกลางในการสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจรุ่นใหม่ เชื่อมโยงและสานต่อแนวทางธุรกิจจากยุคเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ (Gen-X) และเจนเนอเรชั่นวาย (Gen-Y) สู่ยุคเจนเนอเรชั่นแซต (Gen-Z)

รวมทั้งสร้างการเตรียมพร้อมให้กับคนยุคเจนเนอเรชั่นถัดไป ธุรกิจและองค์กรจำเป็นต้องปรับแนวการดำเนินธุรกิจ และส่งมอบอำนาจการบริหารจัดการจากคน ยุคก่อนสู่คนยุคใหม่ อาทิ การปรับตัวเพื่อรับมือกับเทคโนโลยี นวัตกรรม และเทรนด์ธุรกิจสีเขียวสู่ความยั่งยืน เพื่อช่วยส่งเสริมด้านภาพลักษณ์ทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการของ SME เป็นต้น

“ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มมีแนวคิดที่จะเป็นผู้ประกอบการมากกว่าการเป็นลูกจ้างในองค์กร และต้องการสร้างธุรกิจรูปแบบที่มีนวัตกรรมในการขับเคลื่อน (Innovation driven enterprises; IDEs) และไม่ว่าธุรกิจที่ดำเนินการจะเป็นการรับช่วงบริหาร ทายาทหรือคนที่อยากเป็นผู้ประกอบการเอง ทุกคนจำเป็นต้องมีองค์ประกอบความรู้เพียงพอ มีการเพิ่มพูนประสบการณ์ มีความสามารถในการเชื่อมโยงธุรกิจจากแนวเดิมสู่แนวทางใหม่ สู่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นสามารถประสานเชื่อมโยงธุรกิจของตนเองเข้ากับธุรกิจของผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาและสร้างการเติบโตของธุรกิจให้ทันสมัย

นอกจากนี้การมีเครือข่าย (Network) ยังเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนอาวุธลับและทางลัด ทั้งต่อการก่อกำเนิด การสานต่อ การขยายการเติบโตทางธุรกิจ ซึ่งหลักสูตร Young SME จะเป็นตัวช่วยให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ดำเนินธุรกิจอย่างมีศักยภาพให้เป็นพลังแผ่นดินไปจนถึงความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน” นายแสงชัย  กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน ดร. พลภฤต เรืองจรัส  ผู้อำนวยการ หลักสูตร Young SME กล่าวว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การดำเนินชีวิตของคนก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย  สังคมคนรุ่นใหม่ต้องการมีธุรกิจ เป็นของตัวเอง ไม่ต้องการเป็นลูกจ้าง หรือการสานต่อธุรกิจจากครอบครัว ซึ่งการทำธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน ต้องมีองค์ความรู้

ดังนั้นหลักสูตร Young SME จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการทางลัดนำไปต่อยอดธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร Young SME จะได้รับความรู้มากมายจากผู้บรรยาย และวิทยากร ระดับแนวหน้าของประเทศ อาทิ ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ CEO & Co-Founder Ookbee  ไผท ผดุงถิ่น CEO Builk One Group  ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย กฤษน์ ศรีชวาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น ฯลฯ เป็นต้น รวมถึงยังได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติ จริง และ ถ่ายทอดจากวิทยากร ผู้มีความสำเร็จ ในหลากหลาย สาขาอาชีพ รู้จักเครือข่ายธุรกิจ เพื่อขยายธุรกิจที่หลากหลาย ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมเสริมสร้าง บุคลิกภาพ และความคิดแบบผู้นํารุ่นใหม่ พร้อมได้เปิดมุมมองในอีกแง่มุมจากการ ศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้าง สัมพันธภาพระหว่างผู้เข้าอบรม

โดยในหลักสูตรได้บรรจุเนื้อหาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้มากมายรอบด้านเกี่ยวกับธุรกิจ SME เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมนำไปใช้ในการต่อยอดในการดำเนินธุรกิจได้ทันที อาทิ Module#1 ภูมิทัศน์เศรษฐกิจ และยุทธศาสตร์ Soft Power จะให้ความรู้เกี่ยวกับ ภูมิทัศน์เศรษฐกิจประเทศไทย และยุทธศาสตร์ Soft Power, นโยบายส่งเสริม SME ของประเทศไทย, การส่งเสริมและผลักดันนโยบาย Soft Power ของประเทศไทย Module#2 การจัดการธุรกิจในยุคสมัยใหม่ เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับ โอกาสสำหรับเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่, Mindset การพลิกวิกฤติสู่โอกาส, ความเป็นผู้นำในธุรกิจในโลกยุคใหม่, แนวคิดของ สตาร์ทอัพ และโมเดลธุรกิจรุ่นใหม่ และ การวิเคราะห์และเจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภคและสื่อดิจิตัล Module#3 การใช้เทคโนโลยีในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่

ผู้อบรมจะได้รับความรู้ด้าน เทคโนโลยี IOT สำหรับSME,  เทคโนโลยี AI สำหรับ SME, สตาร์ทอัพ ด้วย Soft Power, และ การเสริมพลังและร่วมนำเสนอแคมเปญระดับชาติ Module#4 เทคโนโลยีในระบบเศรษฐกิจใหม่  ให้ความรู้ด้านการสร้างแบรนด์, วิธีการสร้างและส่งเสริมแบรนด์ส่วนบุคคล, การจัดการทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการ และ S Commerce : Soft Power ใน Digital Edge นอกจากนั้นหลักสูตร ยังจัดให้มีกิจกรรมภายนอกห้องอบรม การศึกษาดูงานต่างจังหวัด 1 ครั้ง และการศึกษาดูงานต่างประเทศ 1 ครั้ง

โดยคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ต้องมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือสูงกว่า อายุ 25 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 45ปี ณ วันที่สมัคร เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ ทายาท  หรือ ผู้มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งระดับสูงขององค์กร เอกชน และภาครัฐ โดยรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำกัดที่ 100 ที่นั่งเท่านั้น

สำหรับระยะเวลาการฝึกอบรม ทุกวันศุกร์ เริ่มเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2567 เวลา 13.00-18.00 น. โรงแรม S31 สุขุมวิท 31 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน โดยมีค่าอบรม 180,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-694-9169

“การเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ เป็นทางลัดในการต่อยอดธุรกิจ ให้สำเร็จได้เร็วขึ้น ส่วนการรู้จักธุรกิจที่หลากหลาย เป็นสร้างเครือข่าย และเพิ่มมุมมองในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหลักสูตร Young SME มุ่งเน้นให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่เข้าร่วมอบรมนำไปต่อยอดธุรกิจให้มีความทันสมัย ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ดร. พลภฤต กล่าว