APPLE WATCH ออกฟีเจอร์ใหม่ ตรวจการตอบสนองต่อเชื้อหวัดของร่างกาย
25 มี.ค. 2020
ตอนนี้คงมีหลายคนกำลังสงสัยว่า “สรุปเราติดเชื้อหรือยัง?”
เวลาไอหรือจามแต่ละครั้งก็ถูกมองแรง
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราอาจจะแค่ติดคอหรือมีฝุ่นเข้าจมูก
นอกจากนั้นเวลาที่ต้องติดตามข่าวมากๆ ก็อาจทำให้เริ่มรู้สึกไม่สบายตัวไปด้วย
แต่จะให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็คงจะไม่มีใครอยากไปในเวลาแบบนี้
เวลาไอหรือจามแต่ละครั้งก็ถูกมองแรง
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราอาจจะแค่ติดคอหรือมีฝุ่นเข้าจมูก
นอกจากนั้นเวลาที่ต้องติดตามข่าวมากๆ ก็อาจทำให้เริ่มรู้สึกไม่สบายตัวไปด้วย
แต่จะให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็คงจะไม่มีใครอยากไปในเวลาแบบนี้
ล่าสุด Cardiogram แอปพลิเคชันใน Apple Watch
ได้ออกฟีเจอร์ใหม่ ในการติดตามจังหวะชีพจรขณะร่างกายกำลังพักผ่อน หรือนอนหลับ
เพื่อทำให้เราเรารับรู้ว่า ขณะนี้ร่างกายของเรากำลังตอบสนองต่อเชื้อโรคอยู่หรือไม่
ได้ออกฟีเจอร์ใหม่ ในการติดตามจังหวะชีพจรขณะร่างกายกำลังพักผ่อน หรือนอนหลับ
เพื่อทำให้เราเรารับรู้ว่า ขณะนี้ร่างกายของเรากำลังตอบสนองต่อเชื้อโรคอยู่หรือไม่
เนื่องจากโดยปกติแล้ว ถ้ามีร่างกายของเรามีอาการป่วย
เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยโปรตีนที่เรียกว่า ฮิสตามีน ออกมา
ทำให้เกิดอาการอักเสบ และการขยายตัวของหลอดเลือด
เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยโปรตีนที่เรียกว่า ฮิสตามีน ออกมา
ทำให้เกิดอาการอักเสบ และการขยายตัวของหลอดเลือด
ซึ่งกระบวนการนี้จะส่งสัญญาณไปยังสมอง ให้เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ
และเพิ่มปริมาณเลือดไปยังบริเวณนั้น
และเพิ่มปริมาณเลือดไปยังบริเวณนั้น
โดยเฉพาะเมื่อร่างกายมีการติดเชื้อ หรือตัวร้อน
อัตราการเต้นของหัวใจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ทำให้ระบบสามารถตรวจจับได้ว่า ร่างกายกำลังต่อสู้กับอาการป่วยอยู่
อัตราการเต้นของหัวใจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ทำให้ระบบสามารถตรวจจับได้ว่า ร่างกายกำลังต่อสู้กับอาการป่วยอยู่
จุดเด่นของ Cardiogram คือการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแปลผลออกมาให้ผู้ใช้งาน
รับรู้ว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับไข้หวัด และอาการป่วยอื่นๆ รวมถึง Covid-19
รับรู้ว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับไข้หวัด และอาการป่วยอื่นๆ รวมถึง Covid-19
อย่างไรก็ตามทางผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ได้ออกมาบอกว่า
อุปกรณ์นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรคแทนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
อุปกรณ์นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรคแทนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แต่เป็นการเฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
เนื่องจากปัจจุบันผู้ใช้งาน Cardiogram บางคนมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ
ซึ่งถ้ามีการรับเชื้อไวรัสเข้ามา อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ซึ่งถ้ามีการรับเชื้อไวรัสเข้ามา อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ใครที่มี Apple Watch สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Cardiogram รวมถึงฟีเจอร์ใหม่นี้ได้ฟรี
ยกเว้นกรณีที่ต้องการเชื่อมต่อการติดตามผลทางไกล
หรือต้องการนำข้อมูลออกไปให้แพทย์ จะมีค่าสมาชิกรายปี 25 ดอลลาร์สหรัฐ
หรือต้องการนำข้อมูลออกไปให้แพทย์ จะมีค่าสมาชิกรายปี 25 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้นข้อมูลจาก Cardiogram ยังมีส่วนร่วมในการนำไปใช้กับการวิเคราะห์ข้อมูลในศูนย์ Health eHeart Study ของ University of California, San Francisco ด้วย
อ้างอิง :
Tag:Apple Watch