กรณีศึกษา เมื่อแบรนด์จีนกำลังแทรกซึม ในชีวิตประจำวันคนไทย
14 ก.พ. 2020
หากถามคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ว่าตอนเด็กๆ เขาคุ้นเคยกับแบรนด์อะไรในชีวิตประจำวัน ?
คำตอบที่ได้ก็คือ Sony, Toshiba, SHARP, Panasonic
ซึ่งเหล่านี้คือแบรนด์ญี่ปุ่น
คำตอบที่ได้ก็คือ Sony, Toshiba, SHARP, Panasonic
ซึ่งเหล่านี้คือแบรนด์ญี่ปุ่น
และคำถามเดียวกันนี้ ถ้าถามคนอายุ 30 ปี คำตอบที่ได้อาจจะแตกต่างกัน
เพราะเราอาจได้ยินชื่อของ Samsung, LG ลอยขึ้นมาแซงหน้าแบรนด์ญี่ปุ่น
เพราะเราอาจได้ยินชื่อของ Samsung, LG ลอยขึ้นมาแซงหน้าแบรนด์ญี่ปุ่น
และถ้าถามเด็กยุคนี้ เราอาจจะได้คำตอบจากหลายๆ คนว่าใช้โทรศัพท์มือถือ OPPO, Vivo
ใช้สินค้า IT ล้ำๆ แบรนด์ Xiaomi ใช้แอร์, ทีวี, ตู้เย็น แบรนด์ Haier ใช้ Notebook แบรนด์ Lenovo
ซื้อของใช้จุกจิกในร้าน Miniso หรือขับรถแบรนด์ MG
ใช้สินค้า IT ล้ำๆ แบรนด์ Xiaomi ใช้แอร์, ทีวี, ตู้เย็น แบรนด์ Haier ใช้ Notebook แบรนด์ Lenovo
ซื้อของใช้จุกจิกในร้าน Miniso หรือขับรถแบรนด์ MG
กำลังเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแบรนด์จีน คนไทยมักจะส่ายหน้าไม่ยอมรับ
ถึงขนาดมีสารพัดกระแส “แอนตี้” ในโลกออนไลน์ ว่าเก่งเรื่องก๊อปปี้ แต่ไร้ซึ่งคุณภาพ
ถึงขนาดมีสารพัดกระแส “แอนตี้” ในโลกออนไลน์ ว่าเก่งเรื่องก๊อปปี้ แต่ไร้ซึ่งคุณภาพ
ต้องบอกว่าปรากฏการณ์นี้เสมือนการฉายภาพซ้ำ “เดจาวู”
เพราะกลยุทธ์ของเหล่าแบรนด์จีนที่ใช้วิธีตีตลาดให้ผู้บริโภคปันใจจากแบรนด์เกาหลี
ก็ไม่ต่างจากที่ในอดีตแบรนด์เกาหลีเองก็ใช้จู่โจมแบรนด์ญี่ปุ่นให้ค่อยๆ เสื่อมอำนาจในเมืองไทย
เพราะกลยุทธ์ของเหล่าแบรนด์จีนที่ใช้วิธีตีตลาดให้ผู้บริโภคปันใจจากแบรนด์เกาหลี
ก็ไม่ต่างจากที่ในอดีตแบรนด์เกาหลีเองก็ใช้จู่โจมแบรนด์ญี่ปุ่นให้ค่อยๆ เสื่อมอำนาจในเมืองไทย
วิธีนั้นก็คือ การใช้ดีไซน์สินค้าเรียบหรู อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี
แต่ทำให้แบรนด์จีนมีราคาขายถูกกว่าแบรนด์เกาหลี
คำถามก็คือ แล้ว แบรนด์จีน ทำได้อย่างไร?
แต่ทำให้แบรนด์จีนมีราคาขายถูกกว่าแบรนด์เกาหลี
คำถามก็คือ แล้ว แบรนด์จีน ทำได้อย่างไร?
ด้านเทคโนโลยีการผลิต จีนได้เรียนรู้จากแบรนด์ชั้นนำของโลก
ที่มาตั้งฐานการผลิตในประเทศตัวเอง จนทำให้เวลานี้จีนกลายเป็นประเทศที่มีนวัตกรรม
แล้วเชื่อหรือไม่ว่า ชิ้นส่วนไอทีต่างๆ ก็ล้วนมาจากคลังสมองของคนจีนทั้งนั้น
ที่มาตั้งฐานการผลิตในประเทศตัวเอง จนทำให้เวลานี้จีนกลายเป็นประเทศที่มีนวัตกรรม
แล้วเชื่อหรือไม่ว่า ชิ้นส่วนไอทีต่างๆ ก็ล้วนมาจากคลังสมองของคนจีนทั้งนั้น
ในแง่การทำราคา แบรนด์จีนได้เปรียบในการผลิตจำนวนมหาศาล
เราลองคิดดูว่าประชากรจีนมี 1,403 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประเทศไทยถึง 20 เท่า
เพราะฉะนั้นแค่ผลิตขายในประเทศก็มีจำนวนมหาศาลอยู่แล้ว
เมื่อยิ่งเพิ่มกำลังการผลิตไปสู่ตลาดต่างประเทศ จำนวนการผลิตยิ่งเพิ่มทวีคูณ
เราลองคิดดูว่าประชากรจีนมี 1,403 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประเทศไทยถึง 20 เท่า
เพราะฉะนั้นแค่ผลิตขายในประเทศก็มีจำนวนมหาศาลอยู่แล้ว
เมื่อยิ่งเพิ่มกำลังการผลิตไปสู่ตลาดต่างประเทศ จำนวนการผลิตยิ่งเพิ่มทวีคูณ
และยิ่งผลิตมากเท่าไร ต้นทุนสินค้าต่อชิ้นก็ยิ่งถูกลงมากเท่านั้น
แต่...วิธีการแก้เกมแค่นี้ คงไม่เพียงพอให้แบรนด์จีนลืมตาแจ้งเกิด
เพราะต่อให้ดีไซน์สวยเลิศแค่ไหน ราคาถูกจนรู้สึกเกินคำว่าคุ้มค่า
เพราะต่อให้ดีไซน์สวยเลิศแค่ไหน ราคาถูกจนรู้สึกเกินคำว่าคุ้มค่า
แต่…ในเมื่อความเชื่อของคนไทยที่มีมายาวนานคือ
“สินค้าแบรนด์จีนใช้ไม่นานเดี๋ยวก็เจ๊ง”
แล้วแบรนด์จีนจะเปลี่ยนความเชื่อนี้อย่างไร?
“สินค้าแบรนด์จีนใช้ไม่นานเดี๋ยวก็เจ๊ง”
แล้วแบรนด์จีนจะเปลี่ยนความเชื่อนี้อย่างไร?
เป็นเรื่องที่แบรนด์จีนทุกรายรู้ดี ทำให้เมื่อเริ่มต้นธุรกิจในไทย
ก็รีบเร่งทำลายความเชื่อเหล่านี้ ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่แบรนด์จีนไม่เคยทำมาก่อน
เพราะนอกจากการรีบเร่งขยายศูนย์ซ่อมสินค้าและบริการ
เพื่อให้คนไทยมั่นใจกล้าตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์จีนมากขึ้น
ก็รีบเร่งทำลายความเชื่อเหล่านี้ ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่แบรนด์จีนไม่เคยทำมาก่อน
เพราะนอกจากการรีบเร่งขยายศูนย์ซ่อมสินค้าและบริการ
เพื่อให้คนไทยมั่นใจกล้าตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์จีนมากขึ้น
เรายังได้เห็นวิธีการขายแบบ Wow ที่ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ด้านราคาล่อตาล่อใจอย่างเดียว
เช่น OPPO นอกจากประกันสินค้า 1 ปี ยังมีโปรโมชันเมื่อเครื่องเสียหมดประกัน
ลดค่าอะไหล่สูงสุด 40% อยู่บ่อยครั้ง
เช่น OPPO นอกจากประกันสินค้า 1 ปี ยังมีโปรโมชันเมื่อเครื่องเสียหมดประกัน
ลดค่าอะไหล่สูงสุด 40% อยู่บ่อยครั้ง
Xiaomi รับประกันสินค้า Smartphone ของตัวเองหลายรุ่นนาน 15 - 18 เดือน
ปีที่แล้วรถยนต์ MG ขยับเวลาประกันจากเดิม 4 ปี เป็น 5 ปี
ปีที่แล้วรถยนต์ MG ขยับเวลาประกันจากเดิม 4 ปี เป็น 5 ปี
อีกทั้งทุกแบรนด์จีนที่เข้ามาในไทยก็ต่างมีทุนหนา ทุ่มงบโฆษณาโปรโมตแบรนด์ตัวเอง
เพื่อให้คนไทยรู้จักและเชื่อมั่นในแบรนด์ตัวเองมากขึ้น
เพื่อให้คนไทยรู้จักและเชื่อมั่นในแบรนด์ตัวเองมากขึ้น
เรียกได้ว่า “แบรนด์จีน” กำลังปิดจุดอ่อนตัวเองในอดีตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงจะไม่ Perfect ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในภาพรวมก็สามารถทำได้ดีในระดับน่าพอใจ
ถึงจะไม่ Perfect ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในภาพรวมก็สามารถทำได้ดีในระดับน่าพอใจ
ที่น่าสนใจกว่านั้น ณ เวลานี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะรู้หรือไม่ว่าเหล่าบรรดาแบรนด์จีนทั้งหลาย
มีสินค้าอีกมากมายที่ยังไม่เข้ามาขายในเมืองไทย
มีสินค้าอีกมากมายที่ยังไม่เข้ามาขายในเมืองไทย
ยกตัวอย่างเช่น Xiaomi ในจีนที่มีสารพัดสินค้าขายตั้งแต่ไม้แคะหูอัจฉริยะจนถึงรถยนต์
แล้วเราลองคิดดูถ้าวันใดวันหนึ่ง บรรดาแบรนด์จีนที่อยู่ในเมืองไทย
ขนกองทัพสินค้าข้ามทำเลมาขายในบ้านเรามากขึ้นกว่าในตอนนี้
ขนกองทัพสินค้าข้ามทำเลมาขายในบ้านเรามากขึ้นกว่าในตอนนี้
คนที่ได้ประโยชน์ก็คงเป็นผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่จะมีทางเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น
แต่คนที่นอนไม่หลับก็คือ แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้แต่แบรนด์ไทย
แต่คนที่นอนไม่หลับก็คือ แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น หรือแม้แต่แบรนด์ไทย