Apple มองหาฐานการผลิตเพิ่มในเอเชีย เพื่อลดการพึ่งพาจีน โดยมีอินเดียและเวียดนาม เป็นตัวเลือกแรก ๆ

Apple มองหาฐานการผลิตเพิ่มในเอเชีย เพื่อลดการพึ่งพาจีน โดยมีอินเดียและเวียดนาม เป็นตัวเลือกแรก ๆ

23 พ.ค. 2022
ประเทศจีน ประเทศที่เป็นโรงงานของโลก เพราะหากเราลองมองสิ่งของรอบ ๆ ตัว เชื่อว่าแทบจะทุกอย่างที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องมีสักส่วนใดส่วนหนึ่งที่ประทับคำว่า Made in China เอาไว้
ไม่เว้นแม้แต่ผลิตภัณฑ์จาก Apple บริษัทอุปกรณ์ไอทีอันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกา..
รู้หรือไม่ว่า กว่า 90% ของชิ้นส่วนในผลิตภัณฑ์ Apple ทั้ง iPhone, iPad และ MacBook นั้นถูกผลิตในจีนทั้งหมด
ด้วยปัจจัยยหลาย ๆ อย่างจึงปฎิเสธไม่ได้ว่า จีนเป็นประเทศที่เหมาะกับการผลิตสินค้าจริง ๆ จากค่าแรงที่ถูกเมื่อเทียบกับประเทศฝั่งตะวันตก, ทักษะแรงงาน, กฎหมาย และโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกพัฒนามาให้เหมาะกับการรับผลิตสินค้าจากภายนอก
แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศจีน กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักกับซัปพลายเชนของ Apple
เพราะมาตรการการปิดเมืองที่เข้มงวดของจีน ทำให้โรงงานต่าง ๆ ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมไปถึง Apple ก็ไม่สามารถส่งทีมวิศวกรและทีมบริหาร เข้าไปตรวจสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์
ได้อีกด้วย
โดยมีการคาดการณ์ว่า มาตรการดังกล่าวกระทบโดยตรงกับรายได้ของ Apple ซึ่งตีเป็นมูลค่าถึง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 274,700 ล้านบาท)
กรณีดังกล่าว เป็นบทเรียนทางธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นว่า การพึ่งประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไปในระบบซัปพลายเชน ไม่ใช่คำตอบที่ดี
จึงทำให้ภาคธุรกิจเริ่มหันมาปรับกลยุทธ์ เน้นเรื่องกระจายความเสี่ยงและความมั่นคงของซัปพลายเชน แทนที่จะมองเฉพาะเรื่องของทักษะและต้นทุนการผลิตเท่านั้น
ซึ่ง Apple ก็คิดแบบนั้น เพราะได้มีรายงานว่า Apple กำลังพิจารณาหาฐานการผลิตเพิ่มในภูมิภาคเอเชีย เพื่อลดการพึ่งพาจีนในระบบซัปพลายเชน
และรายงานยังระบุอีกว่า “อินเดีย” และ “เวียดนาม” จะกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ Apple จะเพิ่มฐานการผลิต
แล้วทำไมต้องอินเดียและเวียดนาม ?
อย่างแรก Apple มองว่า “อินเดีย” เป็นประเทศที่มีความใกล้เคียงกับจีนสูง ทั้งปัจจัยด้านประชากรและค่าแรง
อย่างต่อมาคือ อินเดีย ก็เป็นประเทศที่มีฐานการผลิตของ Apple ตั้งอยู่แล้ว จึงทำให้ทั้งซัปพลายเออร์, พนักงาน และบริษัทขนส่งต่าง ๆ
ต่างคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกับ Apple ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ
เหตุผลต่าง ๆ จึงทำให้อินเดียได้เปรียบด้านต้นทุน เพราะการขยายฐานการผลิตนั้นใช้ต้นทุนตำ่กว่าการเริ่มต้นหรือการสร้างใหม่เสมอ..
โดยในปีที่ผ่านมา อินเดียสามารถผลิต iPhone ได้ 3.1% ของทั้งโลก และยังมีรายงานอีกว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6% ถึง 7% ภายในปีนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่สู้ดีระหว่างจีนและอินเดีย
จึงทำให้ซัปพลายเออร์ในจีนของ Apple บางราย อาจไม่สามารถตาม Apple มาสร้างโรงงานที่อินเดียได้..
ตัดมาที่ “เวียดนาม” ม้ามืดแห่งเอเชียที่เป็นฐานการผลิตสมาร์ตโฟนคู่แข่งของ Apple อย่าง Samsung อยู่แล้ว
จึงทำให้ทั้งปัจจัยพื้นฐาน องค์ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของแรงงานในประเทศ พร้อมต่อการผลิตสมาร์ตโฟน
รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ จาก Apple เช่น iPad และ MacBook ก็มีฐานการผลิตบางส่วนที่เวียดนามอยู่แล้ว
อีกอย่างคือเวียดนาม ไม่ได้มีท่าทีเข้าข้างกับฝั่งไหนชัดเจน จึงทำให้การเพิ่มฐานการผลิตที่เวียดนาม
น่าจะเป็นตัวเลือกที่ทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้..
น่าสนใจว่าสรุปแล้วประเทศไหน จะได้ Apple เข้าไปขยายฐานการผลิต หรือตั้งเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่
เพราะการเพิ่มฐานการผลิต หมายถึงเม็ดเงินจำนวนมาก ที่จะหลั่งไหลเข้าประเทศ
แต่ที่แน่ ๆ ประเทศที่ถูกเลือก จะต้องเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานพร้อม แรงงานมีความรู้และทักษะ รวมไปถึงค่าแรงที่ยังถูกพอที่จะสร้างกำไรให้บริษัทได้
อ้างอิง :
-https://www.gadgetsnow.com/tech-news/why-apple-is-reportedly-planning-to-ramp-up-production-in-india-southeast-asia/articleshow/91721318.cms
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.