ทำไม “ชาบูชิ” ต้องเปิด 24 ชั่วโมง ในทำเลสามย่าน

โออิชิ มีรายได้ต่อปี 6,000 - 6,500 ล้านบาท
และมีกำไรอยู่ที่ 200 -300 ล้านบาท ต่อปี

ซึ่งหลายคนอาจมองว่าหากอยากได้รายได้เพิ่มขึ้น
ก็ต้องเพิ่มจำนวนสาขาเยอะมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟต์

แต่นั้นก็หมายถึงต้นทุนการทำธุรกิจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่หากเราขยายเวลาเปิดเป็น 24 ชั่วโมง
ก็สามารถเพิ่มรายได้ โดยไม่ต้องลงทุนเปิดสาขาใหม่

เหมือนอย่างที่เราเห็นร้านแมคโดนัลด์เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
ซึ่ง โออิชิ เองก็กำลังคิดใช้โมเดลนี้เหมือนกัน

โดยใช้แบรนด์ “ชาบูชิ” ที่ทำรายได้ประมาณ 70%จากรายได้ทั้งหมดในธุรกิจอาหาร มาทดลองโมเดลนี้

เพียงแต่ว่าการเปิด 24 ชั่วโมง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "ทำเล"

เพราะใช่ว่าทำเลไหนจะเปิดได้หมด แต่ต้องดูว่าผู้บริโภคในทำเลนั้นมีไลฟ์สไตล์ “สังคมคนนอนดึก” มากน้อยแค่ไหน

และทำเลที่ "ชาบูชิ" เลือกเปิด 24 ชั่วโมงสาขาแรกในประเทศไทยก็คือ สามย่านมิตรทาวน์

เพราะทำเลสามย่านนี้เต็มไปด้วย Co-Working Space, คอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นมากมาย

และเป็นทำเลที่มี นักเรียน นักศึกษา จำนวนเยอะที่อาจติวหนังสือจนดึก ต้องการหาอะไรอร่อยๆ ทานกับเพื่อนฝูง

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ชาบูชิ จึงเปิดให้บริการรองรับความต้องการของนักกิน 2 ช่วงเวลา
คือ ช่วงปกติ : 10.00 – 22.00 น. (ค่าบริการ 419 บาท/คน)

กับช่วงขยายเวลา 22.01 – 09.59 น. (ค่าบริการสุทธิ 319 บาท/คน)

ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ให้เหตุผลถึงการเปิดชาบูชิ 24 ชั่วโมง ไว้อย่างน่าสนใจ

“ยุคสมัยเปลี่ยนผู้บริโภคก็เปลี่ยน อีกทั้งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่า พฤติกรรมและการใช้ชีวิตคนเมืองยืดหยุ่นคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม

วิถีคนเมือง “สังคมคนนอนดึก” (Sleepless Society) มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

ที่น่าสนใจก็คือยังมีแนวโน้มสูงที่ ชาบูชิ สาขาอื่นๆ จะเปิด 24 ชั่วโมงซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลและพฤติกรรมผู้บริโภค

นับเป็นกรณีศึกษาอย่างดีว่า การทำธุรกิจอาหารในยุคนี้ จะยึดติดวิธีคิดแบบเดิมๆ ไม่ได้

เพราะผู้บริโภคในยุคนี้ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ อีกต่อไป