Square ของ แจ็ก ดอร์ซีย์ เปลี่ยนชื่อเป็น ”Block” เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่าง ๆ เช่น บล็อกเชน

ช่วงปีที่ผ่านมานี้ เราคงคุ้นชินกับการที่หลาย ๆ บริษัท ออกมารีแบรนด์ หรือเปลี่ยนชื่อบริษัท
เพื่อปรับทิศทางบริษัทให้สามารถขยายธุรกิจไปยังโลกแห่งอนาคต และสอดรับกับวิสัยทัศน์ของบริษัท
อย่างเช่น Facebook ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta ซึ่งนับเป็นการประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่เลยทีเดียว

และล่าสุด บริษัท Square ผู้ให้บริการทางการเงินดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของ แจ็ก ดอร์ซีย์ ได้ออกมาประกาศว่า จะเปลี่ยนชื่อไปเป็น “Block”
เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจของบริษัทให้สอดรับกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี ที่บริษัทกำลังทุ่มความสนใจในวงการนี้มากขึ้น

ซึ่งชื่อ Block จะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม นี้ เป็นต้นไป

โดย แจ็ก ดอร์ซีย์ ได้กล่าวว่า
“เราสร้าง Square มาเพื่อสำหรับหน่วยธุรกิจที่ขายสินค้า ซึ่ง “Block” จะมาเป็นชื่อใหม่ของบริษัท
แต่จุดประสงค์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจนั้นยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าเราจะเติบโต หรือเปลี่ยนแปลงไปยังไง เราจะยังคงมุ่งหน้าสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงเศรษฐกิจ”

นอกจากการเปลี่ยนชื่อ Square เป็น Block แล้ว ยังมีหน่วยธุรกิจย่อยที่ชื่อ Square Crypto ของบริษัท ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการพัฒนาบิตคอยน์ ก็จะเปลี่ยนชื่อไปเป็น “Spiral” ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี แม้ Square จะเปลี่ยนชื่อเป็น Block แต่ชื่อย่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ยังคงใช้ชื่อว่า “SQ” เช่นเดิม

เชื่อว่าถึงตอนนี้ หลาย ๆ คนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมต้องเป็นชื่อ Block ?

ทางบริษัทได้ระบุว่า ชื่อนี้สามารถสื่อได้หลายความหมาย เช่น การสร้างบล็อกใหม่ ๆ, บล็อกของเพื่อนบ้านและธุรกิจท้องถิ่น, การรวมกลุ่มกันของชุมชนในบล็อกปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง, เทคโนโลยีบล็อกเชน, บล็อกที่แปลว่าส่วนหนึ่งของโค้ด และบล็อกที่เป็นอุปสรรคที่ต้องข้ามผ่าน

ซึ่งอาจตีความได้ว่า “Block” (บล็อก) ในความหมายของบริษัท หมายถึง
หน่วยธุรกิจ, การรวมกลุ่ม, เทคโนโลยีบล็อกเชน และอุปสรรคต่าง ๆ นั่นเอง

ซึ่งหากย้อนกลับไปดู Square ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2009 โดยมี แจ็ก ดอร์ซีย์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง
เริ่มแรก Square ได้จัดตั้งธุรกิจขึ้นเพื่อต้องการให้ร้านค้าเล็ก ๆ สามารถรับชำระด้วยบัตรเครดิตได้ จึงพัฒนาและสร้างอุปกรณ์อ่านบัตรเครดิต ผ่านสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต

ต่อมา ทางบริษัทได้เพิ่มแอปฯ ธนาคารดิจิทัลแบบ peer-to-peer และปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดเล็ก/ร้านค้า, ให้โซลูชันระบบวิเคราะห์ข้อมูลกับร้านค้า รวมถึงบริการเทรดหุ้นและคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านแอปฯ

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เข้าซื้อกิจการ Afterpay ที่เป็นผู้ให้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) รายใหญ่ของโลก, แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง Tidal ซึ่งเดิมทีเป็นของ Jay-Z แรปเปอร์ชาวอเมริกันชื่อดัง
และยังได้ตั้งหน่วยธุรกิจที่ชื่อว่า TBD เพื่อเข้าลงทุนในบิตคอยน์โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แจ็ก ดอร์ซีย์ ก็เพิ่งได้ประกาศลงจากตำแหน่ง CEO ของ Twitter หลังจากที่เขาครองตำแหน่ง CEO ควบทั้ง Twitter และ Square มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015

โดย แจ็ก ดอร์ซีย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกจาก Twitter เพื่อเอาเวลาไปอุทิศให้กับ Square ที่กำลังเติบโตได้ดี”

แต่ทั้งนี้ หลาย ๆ ฝ่ายยังคงคิดว่า
เหตุผลจริง ๆ ที่แจ็ก ดอร์ซีย์ ลาออกจาก Twitter เพราะเขากำลังหลงใหลบิตคอยน์มากกว่า..

อ้างอิง :
-https://www.cnbc.com/2021/12/01/square-changes-corporate-name-to-block-.html
-https://techcrunch.com/2021/12/01/square-is-changing-its-name-to-block/