ลือ.. การเจรจาระหว่าง Apple กับ CATL และ BYD ในการจัดหาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ได้หยุดชะงักลง
23 ต.ค. 2021
อย่างที่รู้จัก Apple ต้องการเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยหลายปีที่ผ่านมา โครงการรถยนต์ไฟฟ้า Apple Car ที่กำลังซุ่มทำอยู่ ก็เจออุปสรรคนานา ทั้งในเรื่องของการพัฒนาและทีมงาน
ทำให้ความคืบหน้าของโครงการล้าช้า และไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวัง
ทำให้ความคืบหน้าของโครงการล้าช้า และไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวัง
อย่างไรก็ดี ทาง Apple ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้ และเมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทก็ได้ตั้งเป้าว่า จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ “Apple Car” ให้ได้ภายในปี 2024
โดย Apple ได้พิจารณาเลือกพาร์ตเนอร์ภายนอก เพื่อมาร่วมสร้างและผลิต Apple Car
ไม่ว่าจะเป็นซัปพลายเออร์ด้าน ผู้ผลิตเซ็นเซอร์ Lidar ที่ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานได้ดีขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นซัปพลายเออร์ด้าน ผู้ผลิตเซ็นเซอร์ Lidar ที่ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานได้ดีขึ้น
หรือซัปพลายเออร์ที่ช่วยในเรื่องการผลิตรถ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวลือออกมาเป็นระยะ ๆ ว่า Apple ได้เข้าไปเจรจากับ Foxconn, Hyundai, Kia, Nissan, LG, Magna Steyr, Stellantis เป็นต้น
แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า Apple บรรลุข้อตกลงกับซัปพลายเออร์รายใดไว้
แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า Apple บรรลุข้อตกลงกับซัปพลายเออร์รายใดไว้
ในส่วนของแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเอง Apple ก็ได้มีการเข้าเจรจากับพาร์ตเนอร์ภายนอกเช่นกัน
โดยตัวเต็งคือ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลก
และ BYD บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งมีการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
โดยตัวเต็งคือ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลก
และ BYD บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งมีการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
สาเหตุที่ Apple เลือก CATL และ BYD เนื่องจากสามารถพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าเจ้าอื่น ๆ
โดย LFP ทำให้เกิดความร้อนน้อยกว่า และปลอดภัยกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภทอื่น ๆ
โดย LFP ทำให้เกิดความร้อนน้อยกว่า และปลอดภัยกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภทอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่า การเจรจาระหว่าง Apple กับ CATL และ BYD ในการจัดหาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้นั้น ส่วนใหญ่ได้หยุดชะงักไปแล้ว..
เนื่องจาก CATL และ BYD ปฏิเสธที่จะจัดตั้งทีมและสร้างโรงงานในสหรัฐฯ ตามคำขอของทาง Apple
โดยทาง CATL ไม่เต็มใจที่จะสร้างโรงงานในสหรัฐฯ เพราะกังวลเรื่องความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
และกังวลเรื่องต้นทุน เนื่องจากการจัดตั้งโรงงานในสหรัฐฯ เพื่อผลิตแบตเตอรี่ จะมีต้นทุนที่สูงกว่าในจีนมาก
และกังวลเรื่องต้นทุน เนื่องจากการจัดตั้งโรงงานในสหรัฐฯ เพื่อผลิตแบตเตอรี่ จะมีต้นทุนที่สูงกว่าในจีนมาก
อีกทั้ง CATL มองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดตั้งทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก เพื่อทำงานกับ Apple โดยเฉพาะ เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถจัดหาบุคลากรให้เพียงพอได้
ส่วนทางด้าน BYD แม้จะมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ในเมืองแลงคาสเตอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ
แต่ก็ปฏิเสธที่จะสร้างทีมงานและโรงงานแห่งใหม่เพิ่ม สำหรับการจัดหาแบตเตอรี่ให้ Apple แต่เพียงผู้เดียว
แต่ก็ปฏิเสธที่จะสร้างทีมงานและโรงงานแห่งใหม่เพิ่ม สำหรับการจัดหาแบตเตอรี่ให้ Apple แต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ เหตุผลที่ทาง Apple ต้องการให้ซัปพลายเออร์มาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ เป็นเพราะว่าบริษัทต้องการทำตามนโยบายของ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่พยายามทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายว่า ครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ ที่ออกจำหน่ายในสหรัฐฯ ในปี 2030 ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ดังนั้น เมื่อการเจรจากับ CATL และ BYD หยุดชะงักลง ทาง Apple จึงต้องมองหาซัปพลายเออร์รายใหม่
และมีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาผู้ผลิตแบตเตอรี่ในญี่ปุ่น และได้ส่งทีมงานไปยังญี่ปุ่นแล้วในเดือนนี้
และมีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาผู้ผลิตแบตเตอรี่ในญี่ปุ่น และได้ส่งทีมงานไปยังญี่ปุ่นแล้วในเดือนนี้
ซึ่งซัปพลายเออร์ที่ Apple กำลังสนใจ คือ Panasonic
โดย Panasonic เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังจากญี่ปุ่น
แถมยังมีธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง
โดย Panasonic เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังจากญี่ปุ่น
แถมยังมีธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง
ทั้งนี้ ในตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า Panasonic ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
เป็นรองเพียง CATL และ LG Energy Solution (LG Chem) เท่านั้น
โดยลูกค้าของ Panasonic ก็มีทั้ง Tesla และ Toyota
เป็นรองเพียง CATL และ LG Energy Solution (LG Chem) เท่านั้น
โดยลูกค้าของ Panasonic ก็มีทั้ง Tesla และ Toyota
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ทาง Apple, BYD และ Panasonic ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องการเจรจาและดีลดังกล่าว..