สรุปสเป็ก BYD 4 รุ่นใหม่ คาดเข้าไทยปีนี้ SEAGULL, SEALION, DENZA, M6
30 พ.ค. 2024
ล่าสุด บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD ในประเทศไทย
ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นใหม่ทื่คาดว่าจะเอาเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา
ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นใหม่ทื่คาดว่าจะเอาเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา
โดยในงานจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชลได้เข้าไปทดสอบสมรรถนะของรถ
รวมไปถึงได้พูดคุยกับผู้บริหารอย่างใกล้ชิด
รวมไปถึงได้พูดคุยกับผู้บริหารอย่างใกล้ชิด
มีอะไรน่าสนใจจากงานนี้บ้าง มาดูกัน
-ผลประกอบการของ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด
ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD ในประเทศไทย
ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD ในประเทศไทย
ปี 2565 มีรายได้ 6,163 ล้านบาท กำไร 131 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้ 41,810 ล้านบาท กำไร 5,462 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้ 41,810 ล้านบาท กำไร 5,462 ล้านบาท
โดยในปีนี้ทางผู้บริหาร BYD มองว่าตลาดรถยนต์จะหดตัวเล็กน้อย
จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ซึ่งเรื่องนี้น่าจะกระทบกับรถยนต์หลายแบรนด์
จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ซึ่งเรื่องนี้น่าจะกระทบกับรถยนต์หลายแบรนด์
-สำหรับสภาพตลาด มองว่าแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทสักเท่าไร
เพราะยอดขายของ BYD จริง ๆ แล้วจะมาจากคนที่เปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า
เพราะยอดขายของ BYD จริง ๆ แล้วจะมาจากคนที่เปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า
-รถยนต์รุ่นใหม่ที่ BYD คาดว่าจะเปิดตัวในประเทศไทย เร็ว ๆ นี้จะมีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่
BYD - SEAGULL เป็นรถยนต์ Eco Car ขนาดเล็ก 4 ที่นั่งขนาดพอ ๆ
กับ Neta V และ Nissan March
กับ Neta V และ Nissan March
SEAGULL มีกำลังสูงสุดที่ 55 กิโลวัตต์ หรือ ประมาณ 74 แรงม้าสามารถเร่ง 0-100
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 13 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 13 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
รุ่นนี้มีทีเด็ดคือดีไซน์ที่ค่อนข้างจะโฉบเฉี่ยว โดย Persona ของ
ลูกค้ารุ่นนี้จะเป็นผู้หญิง หรือวัยรุ่นที่ขับรถในเมือง
ลูกค้ารุ่นนี้จะเป็นผู้หญิง หรือวัยรุ่นที่ขับรถในเมือง
BYD - SEALION7 เป็นรถ C-Suv 5 ที่นั่ง และมีขนาดที่ใหญ่กว่า BYD Atto3 พอสมควร
ทีเด็ดของรุ่นนี้ นอกจากดิไซน์สวยแล้ว ยังมีเรื่องของสมรรถนะให้ท่ี
แรงม้ามาเยอะพอ ๆ กับ “ซุปเปอร์คาร์” ที่ 520 แรงม้า
แรงม้ามาเยอะพอ ๆ กับ “ซุปเปอร์คาร์” ที่ 520 แรงม้า
ซึ่งเกือบจะเท่ากับ Nissan GT-R R35 รถสปอตขวัญใจ
ใครหลายคน ที่มี 555 แรงม้ากันเลยทีเดียว..
ใครหลายคน ที่มี 555 แรงม้ากันเลยทีเดียว..
SEALION7 มีกำลังสูงสุดที่ 390 กิโลวัตต์ หรือ ประมาณ 520 แรงม้า สามารถเร่ง 0-100
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.5 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.5 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
BYD - DENZA D9 : เป็นรถตู้ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง เท่าที่ดูจากสายตา ขนาดคือใหญ่พอ ๆ
กับ Toyota Alphard โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริหารและผู้ประกอบการ
กับ Toyota Alphard โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริหารและผู้ประกอบการ
โดยผู้บริหาร BYD บอกว่า DENZA D9 เกิดจากการ Joint-Venture กับ Mercedes-Benz
ทำให้ทั้งความหรูหรา และวัสดุภายในของรถ DENZA D9 นี้จะโดดเด่นมาก ๆ
ทำให้ทั้งความหรูหรา และวัสดุภายในของรถ DENZA D9 นี้จะโดดเด่นมาก ๆ
DENZA D9 มีจุดเด่นคือจะมีจอขนาดใหญ่ ที่เบาะโดยสารตอนหลังดูถึง
2 จอ มาพร้อมกับเบาะขนาดใหญ่ที่สามารถปรับที่ได้ถึง 10 ตำแหน่ง
2 จอ มาพร้อมกับเบาะขนาดใหญ่ที่สามารถปรับที่ได้ถึง 10 ตำแหน่ง
ในส่วนของสเป็ก DENZA D9 มีกำลังสูงสุดที่ 275 กิโลวัตต์ หรือ ประมาณ 369 แรงม้า สามารถเร่ง 0-100
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.9 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.9 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
BYD - M6 เป็นรถยนต์ Mpv ขนาด 6 ที่นั่ง อยู่ Segment เดียวกันกับ Toyota Zenix
หรือ Mitsubishi Xpander ซึ่งยังไม่ค่อยมีรถยนต์ไฟฟ้าลงมาเล่นใน Segment นี้สักเท่าไร
หรือ Mitsubishi Xpander ซึ่งยังไม่ค่อยมีรถยนต์ไฟฟ้าลงมาเล่นใน Segment นี้สักเท่าไร
M6 มีกำลังสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ หรือ ประมาณ 201 แรงม้า สามารถเร่ง 0-100
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.6 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.6 วินาที และวิ่งได้ไกลสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
โดยทั้งหมดที่ว่ามา ยังไม่มีราคาอย่างเป็นทางการ และวันวางจำหน่ายที่ชัดเจน แต่ถ้า BYD นำมาจำหน่ายจริง ๆ
ก็จะเป็นการเสริมให้ BYD มีรถยนต์มาแข่งในตลาดแทบจะครบทุก Segment ที่คนไทยนิยมแล้ว
ก็จะเป็นการเสริมให้ BYD มีรถยนต์มาแข่งในตลาดแทบจะครบทุก Segment ที่คนไทยนิยมแล้ว
-ส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ตอนนี้ BYD ครองอยู่ 40% หมายความว่า
ถ้าเจอรถยนต์ไฟฟ้าในไทย 10 คัน จะมี 4 คันที่เป็นรถยนต์ของ BYD
ถ้าเจอรถยนต์ไฟฟ้าในไทย 10 คัน จะมี 4 คันที่เป็นรถยนต์ของ BYD
-ที่ผ่านมารถยนต์ BYD จะเป็นการนำเข้าจากจีนทั้งหมด 100% แต่ตอนนี้โรงงาน BYD ในไทยใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว
และจะมีการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
และจะมีการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
-Top 5 สาเหตุที่ทำให้คนไม่เปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป
มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตามมุมมองของ BYD คือ
มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตามมุมมองของ BYD คือ
กังวลว่าที่ชาร์จจะไม่พอ กังวลว่าระยะเวลาชาร์จจะนาน กังวลเรื่องของบริการหลังการขาย กังวลเรื่องของราคาขายต่อ กังวลเรื่องของเบี้ยประกัน
-Top 3 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ BYD ในปี 2566 ที่ผ่านมา คือ
BYD DolphinBYD Atto3BYD Seal
-ตอนนี้สัดส่วนยอดขายรถยนต์ BYD ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด “เท่ากันแล้ว” จากที่ก่อนหน้านี้ยอดขายของ BYD จะกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เป็นหลัก
สุดท้ายนี้ผู้บริหาร BYD แง้มว่า อาจจะมีการออกรถยนต์ ไฮบริด ที่เน้นใช้พลังขับจากไฟฟ้าเป็นหลัก
ต่างจาก ไฮบริดในปัจจุบันที่จะใช้พลังงานจากเครื่องยนต์มากกว่ามาทำตลาดในไทยด้วย
Tag:BYD