ทำไม BURGER KING ไล่ลูกค้าให้ไปซื้อ McDonald's
27 ก.ย. 2019
เมื่อไม่กี่วันก่อน Burger King ประกาศหยุดขาย Whopper 1 วัน
เพื่อให้ลูกค้าไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ McDonald's
เพื่อให้ลูกค้าไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ McDonald's
ทั้งๆ ที่ 2 แบรนด์นี้ เป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันมาโดยตลอด
เนื่องจากมีสินค้าหลักเป็นเบอร์เกอร์เหมือนกัน
เนื่องจากมีสินค้าหลักเป็นเบอร์เกอร์เหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร?
เหตุผลก็คือ McDonald's ประกาศว่าจะบริจาคยอดขายของ Big Mac 1 วัน เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
และเมื่อมองเห็นโอกาส นักการตลาดของ Burger King จึงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้หลุดลอยไป
หลังจาก McDonald's ปล่อยแคมเปญออกไป
Burger King จึงจัด A Day Without Whopper เพื่อสนับสนุนแคมเปญของ McDonald's
แคมเปญนี้ Burger King ประกาศหยุดขาย Whopper 1 วัน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ McDonald's เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
Burger King จึงจัด A Day Without Whopper เพื่อสนับสนุนแคมเปญของ McDonald's
แคมเปญนี้ Burger King ประกาศหยุดขาย Whopper 1 วัน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ McDonald's เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
จากเหตุการณ์นี้ผู้ที่ได้หน้าจึงไม่ใช่ McDonald's
แต่เป็น Burger King ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าไปแทน
แต่เป็น Burger King ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าไปแทน
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้ง 2 แบรนด์นี้ ออกแคมเปญการตลาดกระทบกันไปมา
ในปี 2016 McDonald’s ได้ปล่อยวิดีโอโฆษณาที่มีป้ายของร้าน Burger King และ McDonald’s ริมถนนทางหลวง
ป้ายของ Burger King ใหญ่มาก เพราะบอกทางอย่างละเอียด รวมทั้งระบุว่าร้านที่ใกล้สุดนี้อยู่ห่างออกไปอีก 258 กิโลเมตร
ผิดกับป้ายของ McDonald’s ที่มีขนาดเล็ก เพราะบอกแค่ว่าร้านที่ใกล้สุดอยู่ห่างออกไปเพียง 5 กิโลเมตร
โฆษณาชิ้นนี้ต้องการจะสื่อว่า ร้าน McDonald’s แบบ Drive Thru มีมากกว่า 1,000 สาขาใกล้ตัว
อย่างไรก็ตามไม่กี่วันหลังจากนั้น Burger King ก็ตอบโต้กลับด้วยวิดีโอโฆษณาเช่นกัน
ซึ่งถ่ายทำในลักษณะของเรื่องราวที่ต่อเนื่องมาจากโฆษณาของ McDonald’s
ซึ่งถ่ายทำในลักษณะของเรื่องราวที่ต่อเนื่องมาจากโฆษณาของ McDonald’s
โดยใช้รถยนต์คันเดียวกับที่เลี้ยวเข้าร้าน Drive Thru ของ McDonald’s
แต่กลายเป็นว่ารถยนต์คันนี้แวะเพื่อซื้อกาแฟเท่านั้น
แต่กลายเป็นว่ารถยนต์คันนี้แวะเพื่อซื้อกาแฟเท่านั้น
ก่อนจะขับไปตามทางอีก 258 กิโลเมตร
เพื่อไปนั่งกินเบอร์เกอร์ที่ร้าน Burger King พร้อมกับคำพูดปิดท้ายว่า
“อร่อยจริงๆ.. ไม่เห็นไกลเลยเนอะ”
เพื่อไปนั่งกินเบอร์เกอร์ที่ร้าน Burger King พร้อมกับคำพูดปิดท้ายว่า
“อร่อยจริงๆ.. ไม่เห็นไกลเลยเนอะ”
และล่าสุดในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
Burger King ได้ออกชุดอาหาร Real Meals มาสู้กับ Happy Meal ของ McDonald’s
โดย Real Meals เป็นแคมเปญชุดอาหารจะประกอบด้วยกล่องอาหารสีต่างๆ ที่บ่งบอกถึงแต่ละอารมณ์
โดยไม่มีกล่องไหนที่แสดงอารมณ์แห่งความสุข หรือ Happy Meal
โดยไม่มีกล่องไหนที่แสดงอารมณ์แห่งความสุข หรือ Happy Meal
Burger King ตั้งใจจะสื่อความหมายว่า คนเราไม่จำเป็นต้องมีความสุขตลอดเวลา และมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะแสดงออกว่าเราไม่โอเค
นอกจากนี้ Burger King ยังใช้การตลาดเพื่อแก้ข่าวที่ไม่ดีของแบรนด์ด้วย
ในสมัยหนึ่งร้าน Burger King มีข่าวไฟไหม้ติดต่อกันหลายครั้ง
Burger King ได้ออก Print Ads ซึ่งเป็นภาพเหตุการณจริงของร้านที่ไฟไหม้
พร้อมกับคำบรรยายในรูปว่า “ย่างด้วยไฟตั้งแต่ปี 1954”
Burger King ได้ออก Print Ads ซึ่งเป็นภาพเหตุการณจริงของร้านที่ไฟไหม้
พร้อมกับคำบรรยายในรูปว่า “ย่างด้วยไฟตั้งแต่ปี 1954”
เพื่อสื่อสารกับลูกค้าว่า สาเหตุของไฟไหม้มาจากการที่ Burger King ใช้ไฟจริงย่างเบอร์เกอร์
ทำให้รสชาติที่ได้ดีกว่าการใช้เตาไฟฟ้า
ทำให้รสชาติที่ได้ดีกว่าการใช้เตาไฟฟ้า
เรื่องนี้นอกจากจะได้เสียดสีคู่แข่งอย่าง McDonald’s แล้ว
ก็ยังถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ด้วย
ก็ยังถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นความสำคัญของการตลาดและการสื่อสารกับลูกค้า
เพราะแม้ว่าสินค้าเราจะดีแค่ไหน
แต่ถ้าไม่มีการนำเสนอที่ดี ลูกค้าก็ไม่รู้จัก
แต่ถ้าไม่มีการนำเสนอที่ดี ลูกค้าก็ไม่รู้จัก
แต่ในทางกลับกันเรื่องคุณภาพของสินค้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
เพราะแม้ว่าลูกค้าจะมาซื้อสินค้าจากแคมเปญโฆษณาของเราแล้ว
เพราะแม้ว่าลูกค้าจะมาซื้อสินค้าจากแคมเปญโฆษณาของเราแล้ว
แต่ถ้าสินค้าไม่ดี สุดท้ายลูกค้าก็ไม่กลับมาซื้อซ้ำอีกเช่นกัน..