ทำไม โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ ถึงขายดีมานานกว่า 60 ปี​

ก่อนจะมาเป็นร้านข้าวมันไก่เจ้าดัง ระดับตำนาน
รู้หรือไม่ว่า โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ มีจุดเริ่มต้นมาจากร้านอาหารบ้าน ๆ
ที่ไม่ได้มีข้าวมันไก่เป็นเมนูชูโรง ไม่มีแม้กระทั่งชื่อร้านด้วยซ้ำ
แถมครั้งหนึ่ง ทายาทรุ่นที่ 2 ยังเคยเกือบถอดใจ คิดจะเปลี่ยนจากขายข้าวมันไก่ มาขายข้าวขาหมู

แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ ก้าวผ่านอุปสรรคมายืนหนึ่งในวงการข้าวมันไก่
แถมยังครองใจคนไทยและเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เคยมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ต่อแถวเพื่อรอกินข้าวมันไก่มาแล้ว

ย้อนรอยไปในปี พ.ศ. 2500
เมื่อคุณพ่อของคุณสมบัติ พฤกษ์ไพบูลย์ หรือ โกอ่าง อพยพจากไหหลำ มาอยู่เมืองไทย
หลังจากแต่งงานกับภรรยาคนไทย ก็อาศัยห้องเช่าย่านประตูน้ำ และตัดสินใจเปิดร้านอาหารในปี พ.ศ. 2503
เพื่อสร้างความหลากหลายให้ลูกค้า ทางร้านจึงมีเมนูมากมาย รวมถึงเมนูข้าวมันไก่ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวไหหลำ และราดหน้า
แต่ขายไปขายมา สุดท้ายก็ขายแค่ข้าวมันไก่อย่างเดียว เพราะเป็นเมนูที่ขายดีที่สุด

มาถึงรุ่นลูก คือ โกอ่าง
เดิมทำงานเป็นลูกจ้างอยู่บริษัททำโทรทัศน์ แต่เพราะมองว่าทำไปก็ไม่ก้าวหน้า เลยลาออกมาช่วยขายข้าวมันไก่ โดยมีเทรนเนอร์คนสำคัญ คือคุณพ่อ
โกอ่างจะตื่นตั้งแต่ตี 3 มาช่วยเชือดไก่ หุงข้าว ต้มไก่ ทำน้ำจิ้ม เตรียมของ ไปจนถึงล้างจาน

อยู่มาวันหนึ่ง มีข่าวว่า ร้านที่ขายอยู่จะโดนรื้อ จึงต้องหาที่ตั้งร้านใหม่
ในเวลานั้น โกอ่างพยายามดิ้นรนทุกวิถีทาง จนมาเจอตึกแถวที่ใช้เป็นที่ตั้งร้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 มาจนถึงปัจจุบัน
เริ่มต้นจากการเช่าแค่หน้าร้าน มีแค่เตา 2 ใบเล็ก ๆ ไว้ต้มซุป หุงข้าว ต้มไก่ สลับกันไป
ขายไปขายมา เริ่มขายดี จึงค่อย ๆ ขยับขยายกิจการ

ในเวลานั้นยังไม่ได้มีชื่อร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่ จะเรียกติดปากว่า ข้าวมันไก่ประตูน้ำ
จนตอนหลังโกอ่าง ตัดสินใจเอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อร้าน กลายเป็น “โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ”

ซึ่งร้านมีเอกลักษณ์​ คือ ยูนิฟอร์มพนักงานสีชมพู ที่ดูหวานแหวว สะดุดตา
ถามว่าทำไมต้องเป็นสีชมพู จริง ๆ แล้วเกิดจากความบังเอิญ
ด้วยความที่โกอ่างเป็นอดีตนักเรียนโรงเรียนนายร้อย พอมาช่วยงานที่ร้าน
เลยเอาเสื้อสมัยเรียน ซึ่งเป็นสีเลือดหมูมาให้พนักงานในร้านใส่

นานวันเข้า สีเริ่มซีด คล้าย ๆ สีชมพู พอไปหาซื้อเสื้อใหม่ ไม่รู้จะเลือกสีไหนดี เลยเลือกสีชมพู เพื่อให้ดูสดใส และกลายเป็นที่มาของยูนิฟอร์มสีชมพู ที่ลูกค้าจดจำ บางคนก็เรียกว่า ร้านข้าวมันไก่เสื้อสีชมพู

ในแง่รสชาติ ถ้าถามว่า อะไรคือจุดเด่นที่ทำให้ ข้าวมันไก่ของที่นี่ แตกต่างจากที่อื่น
อันดับแรก คือ น้ำจิ้ม ซึ่งทางร้านมีการปรับสูตรให้ถูกปากกับคนไทย
ส่วนข้าวมัน ก็ยังคงกรรมวิธีการหุงแบบดั้งเดิม คือใช้วิธีหุงแบบเปิดหม้อ แต่เปลี่ยนจากเตาถ่านมาเป็นเตาแก๊ส

เช่นเดียวกับเนื้อไก่ ที่นอกจากจะคัดสรรอย่างดี จากโรงงานที่สะอาด ปลอดเชื้อ มาต้มจนสุก เนื้อนุ่มกำลังดี
ยังเน้นความสดใหม่ ทำขายแบบวันต่อวัน เพราะข้าวมันไก่ ไม่สามารถขายเหลือ แล้วเก็บเข้าตู้เย็นไว้ขายได้

ด้วยสูตรเฉพาะที่สืบทอดกันมากว่า 60 ปี บวกกับคุณภาพของอาหารนี้เอง ทำให้ก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด 19
โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ ขายดีจนลูกค้าต้องเข้าคิวซื้อก็ว่าได้

โดยหนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้ลูกค้ามากี่ครั้งก็ติดใจ นอกจากรสชาติ คือ การบริการที่ยกให้ “ลูกค้าคือพระเจ้า”
โกอ่างเชื่อว่า การทะเลาะกับลูกค้าไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร เขาจะพยายามหาทางไกล่เกลี่ย เพื่อให้ลูกค้าพอใจ
​
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะลูกค้ารายใหญ่หรือรายเล็ก ก็ใส่ใจเท่ากัน โกอ่างจะสอนพนักงานในร้านเสมอว่า ​
ถ้าเห็นลูกค้านั่งรออาหาร ให้เข้าไปถามว่า สั่งอะไรหรือยังคะ รอนานหรือยัง เดี๋ยวไปตามให้นะ แค่นี้ลูกค้าก็ชื่นใจแล้ว

เพราะสุดท้าย ต่อให้อาหารรสชาติดีแค่ไหน แต่บริการไม่ประทับใจ พนักงานหน้าบึ้ง ก็ไร้ค่า ลูกค้าไม่อยากกลับมาใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสูตรสำเร็จ คือ ของอร่อยมาพร้อมบริการชวนประทับใจ เป็นเกราะที่ทำให้มั่นใจว่า ต่อให้เศรษฐกิจจะตกสะเก็ด ยอดขายก็ยังไม่ตก

แต่ตอนที่เจอวิกฤติไข้หวัดนก ก็ทำเอาเกือบต้องปิดตำนาน โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ
เพราะยอดขายหายไปเลย จนคิดว่าถ้าไม่ปิดร้าน อาจจะต้องเปลี่ยนไปขายข้าวขาหมูแทน
โชคดีที่ตอนหลัง รัฐบาลประกาศว่า ไก่ที่ผ่านการปรุงสุก กินได้ไม่อันตราย ยอดขายถึงค่อย ๆ กลับมา

มาถึงตรงนี้หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า ข้าวมันไก่ที่ขายจานละ 40 บาท รายได้ดีขนาดไหนในช่วงที่ผ่านมา

บริษัท หยูฮวดเซี้ยง จำกัด
ปี 2561 มีรายได้ 5 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 34 ล้านบาท

เห็นตัวเลขแล้ว อย่าเพิ่งแปลกใจว่า ทำไมรายได้ถึงเติบโตแบบก้าวกระโดด
เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา “โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ” เริ่มมีการลงทุนขยายสาขาเพิ่มขึ้น
นอกจาก สาขาที่ประตูน้ำ ยังมีอีก 5 สาขา ได้แก่ โชคชัย 4, เอสพลานาด, ​สยามพารากอน, เยาวราช​ และประตูน้ำ 2 ซึ่งทุกสาขาเปิดให้บริการแล้ว

โดยผู้ที่เข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่ในปัจจุบัน คือ คุณเกียร์-เอกพล พฤกษ์ไพบูลย์ ลูกชายของโกอ่าง
ที่มีดีกรีเป็นนักเรียนนอก จบด้านสถาปัตย์ จากสหรัฐอเมริกา แต่ตัดสินใจกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เพราะโตมากับธุรกิจนี้ และเห็นว่าตึกที่เช่า มีกำหนดจะครบสัญญา ประมาณปี 2568
เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้ามาช่วยสานต่อ ขยายสาขา เพื่อหาสถานที่รองรับ จะไม่ทันการณ์

ซึ่งนอกจากคุณเกียร์จะเข้ามาช่วยขยายสาขา ยังเข้ามาวางระบบหลังบ้าน ตั้งแต่การบริหารต้นทุน ระบบในครัว ไปจนถึงการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะเตรียมการมาเป็นอย่างดี แต่ก็คงเหมือนกับอีกหลายธุรกิจ ที่ไม่ได้เตรียมใจรับมือกับวิกฤติที่คาดไม่ถึงอย่างโควิด 19
ซึ่งถือว่าเป็นมรสุมครั้งใหญ่ก็ว่าได้

เพราะลูกค้าหลักของโกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ 50% คือ คนไทย ส่วนอีก 30-40% เป็นนักท่องเที่ยวจีน ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวฮ่องกง, ญี่ปุ่น
ดังนั้น เมื่อไร้เงานักท่องเที่ยว ก็หมายความว่า รายได้ส่วนนี้ก็หายไปด้วย..

บวกกับภาครัฐได้มีคำสั่งให้ร้านอาหาร ต้องงดให้บริการพื้นที่นั่งทานในร้าน ชั่วคราว
โดยสามารถให้บริการสั่งกลับบ้าน และดิลิเวอรี ได้เท่านั้น
ยิ่งเป็นการซ้ำเติมแผลของธุรกิจ ที่ยังไม่หายดีเข้าไปอีก

ซึ่งก็ต้องรอดูว่า การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และดิลิเวอรี
จะช่วยให้โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำแก้เกม เพื่อหารายได้เข้ามาทดแทนหน้าร้าน ได้มากน้อยแค่ไหน

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า โกอ่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) หรือ ร้านที่มิชลิน ไกด์ แนะนำว่าเป็นร้านที่อร่อย มีคุณภาพดี เเละราคาไม่เเพง..

อ้างอิง :
-https://amarinacademy.com/268/interview-review/kaomankai1/
-https://amarinacademy.com/270/
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า