WhatsApp เสี่ยงโดนแบนในอินเดีย ตามรอย TikTok และ WeChat

ล่าสุด รัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับการแบน การอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดของ แอปพลิเคชัน WhatsApp ซึ่งเป็นของบริษัท Facebook

สาเหตุหลักที่อินเดียต้องการที่จะแบนการอัปเดตนี้ ก็เป็นเพราะ WhatsApp ต้องการที่จะปล่อยการอัปเดต สำหรับการขออนุญาตเข้าถึงความเป็นส่วนตัว ของบัญชีผู้ใช้งานชาวอินเดีย ที่ใช้งานแอปนี้ทุกบัญชี

ซึ่งปัจจุบัน ประเทศอินเดียมีผู้ใช้งาน WhatsApp มากกว่า 400 ล้านบัญชี

ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ของประเทศอินเดีย ยังออกมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า
ในกรณีนี้ อินเดียไม่ได้บอกว่า จะกีดกันการใช้งานแอป WhatsApp

เพียงแต่ว่า ไม่อนุญาตให้ WhatsApp ทำการอัปเดตในเรื่องของการเข้าถึง และบันทึกข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เฉกเช่นเดียวกับครั้งก่อน ที่รัฐบาลอินเดีย ประกาศไปในตอนต้นปี เกี่ยวกับการไม่อนุญาตให้แอป Facebook Messanger สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ของผู้ใช้งานในประเทศอินเดียได้

แต่หากว่า WhatsApp ยังคงต้องการที่จะให้มีการอัปเดตเวอร์ชันล่าสุด
ทางรัฐบาลอินเดีย จำเป็นจะต้องแบนแอปนี้ เหมือนกับที่เคยแบนแอป TikTok และ WeChat

มาดูการตอบโต้ ในฝั่งของ Facebook กันบ้าง
ผู้บริหารของ WhatsApp นำโดยคุณ Will Cathcart ก็ได้ออกมาโต้แย้งว่า
ทาง Facebook ยังคงยืนยันว่าการอัปเดตเวอร์ชันล่าสุด จำเป็นที่จะต้องทำ

และ WhatsApp เอง ก็ไม่ได้มีการบังคับการอัปเดตนี้เลย
โดยผู้ใช้งาน จะต้องมีการลงนามยอมรับ ที่จะให้ Facebook เข้าถึงความเป็นส่วนตัว รวมถึงอ่านข้อตกลงให้หมดเสียก่อน
ซึ่งในจุดนี้ ทาง WhatsApp ได้ขยายระยะเวลาให้ผู้ใช้งานได้ทำการเข้าใจ ก่อนตัดสินใจลงนามยอมรับ ให้มากขึ้น 2 เดือน
เนื่องจากในตอนแรก WhatsApp จะทำการอัปเดตในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเร็วเกินไป

เหตุผลที่ Will Cathcart ได้ออกมากล่าวโต้ตอบเช่นนี้
นั่นก็เป็นเพราะว่า WhatsApp เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
มีจำนวนผู้ใช้งานชาวอินเดีย เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกเขาจำเป็นต้องใช้ ระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Facebook ในการมาช่วยควบคุมดูแลความเรียบร้อย ของการสนทนา ทดแทนการใช้แรงงานมนุษย์ในการตรวจสอบ ประมาณ 100 ข้อความต่อนาที
รวมถึงการช่วยตรวจดูข้อความที่ไม่เหมาะสม ให้รัฐบาลอินเดีย บนแพลตฟอร์ม WhatsApp อีกด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ด้วยความที่อินเดียเป็นตลาดใหญ่ของ Facebook
Facebook จึงได้นำโปรเจกต์ใหม่ ๆ ไปเริ่มต้นทดลองใช้ในอินเดีย เป็นที่แรก ๆ ยกตัวอย่างเช่น

-การเปิดตัวระบบชำระเงินออนไลน์ “WhatsApp Pay”
-เปิดตัวแผนการ ที่จะขายประกันผ่าน WhatsApp โดยจะมีการร่วมมือกับ 2 บริษัทชั้นนำจากประเทศอินเดีย อย่าง บริษัทประกันสุขภาพ SBI General Insurance และบริษัทประกันชีวิตควบการลงทุนอย่าง HDFC Pension

และหลังจากที่ Facebook ได้ทำการทดลองใช้งานในประเทศอินเดียได้สำเร็จ
ก็จะสามารถทำการขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ต่อได้

ส่วนทางฝั่งรัฐบาลประเทศอินเดีย ก็ได้ประโยชน์จากสิ่งที่ Facebook ทำอยู่ไม่น้อย
เพราะหนึ่งในนโยบาย ที่รัฐบาลอินเดีย กำลังมุ่งหน้าพัฒนาคือ เรื่องของเทคโนโลยี

โดยต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียได้ให้การสนับสนุน การร่วมมือกันระหว่างบริษัท Reliance Industries Limited ของมหาเศรษฐี Mukesh Ambani กับ Facebook
ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าและสังคมออนไลน์ ในประเทศอินเดีย อย่าง “Jio Platform”
ซึ่ง Facebook ได้ลงทุนไปมากถึง 1.7 แสนล้านบาท

ก็น่าติดตามต่อไปว่า จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง ของการขออนุญาตเข้าถึงความเป็นส่วนตัว ของผู้ใช้งานจากแอป WhatsApp
จนมาถึงการไม่ยอมกันของทั้ง 2 ฝ่าย ในวันนี้

จะส่งผลอย่างไรกับความสัมพันธ์ ของ Facebook และ รัฐบาลอินเดีย ในอนาคตบ้าง..

อ้างอิง :
https://techcrunch.com/.../india-tells-court-to-block.../
https://economictimes.indiatimes.com/.../arti.../81638939.cm
https://about.fb.com/news/2020/04/facebook-invests-in-jio/