กรณีศึกษา แคมเปญ “อยากกินอะไรสั่ง GET เลย” ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ด้วยความ “ต่าง”

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจได้ยินหรือเคยได้ใช้แอปพลิเคชัน Food Delivery ที่ชื่อว่า GET Food

เพราะแอปนี้มีจุดเด่นที่คิดค่าบริการเริ่มต้นแค่ 10 บาท (เพิ่มขึ้นตามระยะทาง)  

อีกทั้งยังมีร้านอาหารให้เราเลือกมากกว่า 20,000 ร้าน และมีจักรยานยนต์ที่คอยรับงานส่งอาหาร มากกว่า 20,000 คัน

ที่น่าสนใจก็คือ เพียงแค่ 30 นาทีหลังจากที่เรากดสั่งอาหารผ่านแอปดังกล่าว 

เมนูจานโปรดก็จะส่งตรงมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเรา

เป็นการตอบโจทย์ยามหิว แถมยังประหยัดเวลา ที่เราไม่ต้องฝ่ารถติดแล้วอาจยังต้องไปยืนรอต่อคิวนาน

เมื่อเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ ทำให้ระยะเวลาแค่ 6 เดือนที่ GET Food เปิดให้บริการในเมืองไทย มีผู้ใช้งาน ณ เวลานี้มากกว่า 5 แสนคน ต่อเดือน 

เป็นการเติบโตรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด เพราะหากเทียบยอดผู้ใช้งานในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ GET เพิ่งเปิดให้บริการ กับไตรมาสสองที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีตัวเลขการเติบโตถึง 168% เลยทีเดียว

เมื่อผลตอบรับดีเกินคาดทำให้ GET Food เปิดตัวแคมเปญ “อยากกินอะไรสั่ง GET เลย” 

ที่มาพร้อม Presenter คนแรกของแบรนด์อย่าง นนท์ - ธนนท์ จำเริญ แชมป์รายการเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซันที่ 1   

เหตุผลที่ GET Food เลือก Presenter คนนี้ นอกจากมีแฟนคลับจำนวนมาก

เขายังเป็นนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี มีความสนุกสนาน มีภาพลักษณ์ Friendly เข้าถึงง่าย

ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาตรงตามคาแรกเตอร์ของแบรนด์ GET ที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้บริโภคในตลาดว่าแอปพลิเคชันอย่าง 

GET Food เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยอำนวยความสะดวกสบายในยามหิว

โดยภาพยนตร์โฆษณานั้นจะเป็นแนวซิตคอมที่จะเผยแพร่ผ่านทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์

ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET บอกถึงเป้าหมายของแคมเปญ “อยากกินอะไร สั่ง GET เลย”

“GET ต้องการขยายฐานลูกค้าให้ Mass มากขึ้น จากเดิมที่จะเป็นกลุ่มอายุ 25-34 ปี เปลี่ยนเป็นอายุ 18 - 45 ปี”

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ การจะดึงดูดลูกค้าให้สนใจและเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ GET Food 

ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม GET จะต้องมีอะไรพิเศษมากกว่าการมี Presenter คนแรก

จะดีแค่ไหน ? หากร้านอาหารชื่อดังครีเอทเมนู Exclusive ที่เสิร์ฟเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการ GET Food เท่านั้น

ซึ่งผู้ใช้แอปพลิเคชัน Food Delivery รายอื่นหมดสิทธิ์ที่จะได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย 

เป็นไอเดียที่ GET Food ใช้สร้างความต่าง พร้อมกับเสริมความพิเศษยิ่งขึ้นให้แก่แคมเปญ “อยากกินอะไรสั่ง GET เลย” 

ที่จะมีคอลเลกชัน 7 เมนูอาหารสุดพิเศษ “Only at GET” จากฝีมือ 4 เชฟขั้นเทพชื่อดังระดับประเทศ 

เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เจ้าของร้านอาหารไทยชื่อดัง Baan ได้ครีเอทเมนู “ข้าวกะเพราเนื้อตุ๋นสูตรลับ” และ เส้นใหญ่พะโล้ต้มแซ่บ” 

เชฟกิ๊ก กมล ชอบดีงาม เจ้าของร้านเลิศทิพย์ ดีกรีแชมป์ เชฟกระทะเหล็ก เลือกจะเสิร์ฟเมนู

ข้าวกะเพราคลุกตับหมูฟัวกราส์กระเทียมไข่ออนเซ็น และ ผัดหมี่ฮ่องกงซอส XO แห้ง เสิร์ฟพร้อมปลาจินดาระ 

เฮียเก๊า ศิริชัย ทวีพูลทรัพย์ เชฟร้านอาหาร เจ๊โอว Street Food ชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันดี

เสิร์ฟเมนู  ยำแซลมอนแซ่บไข่ลาวาซี๊ด 

เชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล ร้าน ICI ร้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส ที่สร้างสรรค์ขนมหวาน

หน้าตาน่ารักอย่าง GET Your Cake และเซ็ตขนม Madeleine รวมถึงเครื่องดื่มสุดพิเศษ Butterscotch Sauce 

โดยเมนูความอร่อยทั้ง 7 เมนูนี้จะเริ่มเปิดบริการให้ลูกค้าได้สั่งในวันที่ 8 สิงหาคม - 7 กันยายน 2562   

มาถึงตรงนี้จะเห็นว่ากลยุทธ์การตลาดของแคมเปญ “อยากกินอะไร สั่ง GET เลย” เป้าหมายหลัก ไม่ใช่ต้องการแข่งขันกับแอปพลิเคชัน Food Delivery รายอื่นๆ 

แต่ต้องการกระตุ้นผู้บริโภคที่ไม่เคยสั่งอาหารผ่านแอปที่ยังมีจำนวนมหาศาล ให้ทดลองใช้บริการ GET Food 

เพราะข้อมูลจากคุณภิญญา ผู้บริหารระดับสูงของแอปดังกล่าว ระบุว่า

ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายร้านอาหาร Street Food นั้น 90% อยู่ที่หน้าร้าน ส่วนการขาย Delivery มีเพียงแค่ 10%

จากตัวเลขยอดขาย จะเห็นว่าตลาด Delivery นั้นยังมีช่องว่าง และโอกาสอีกมหาศาล

GET Food จึงต้องพยายามสร้างสีสันและความโดดเด่นให้แก่ตัวเอง 

เพื่อให้ GET Food กลายเป็นแอปพลิเคชันตัวเลือกแรก และตัวเลือกเดียว

ในยามที่ผู้บริโภคอย่างเราหิว และอยากหาอะไรทานอร่อยๆ แต่ติดธุระ หรืออยากจะใช้เวลาไปทำงานอย่างอื่น

แค่กดสั่งอาหารผ่าน GET Food ก็อร่อยจบได้ในแอปเดียว