Facebook ลงทุนใน GO-JEK เจ้าของแอป GET ในไทยเพื่อเจาะตลาดอาเซียน
3 มิ.ย. 2020
Facebook ประกาศว่าได้ลงทุนใน GO-JEK บริษัทด้าน Ride-hailing และ Food Delivery
จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Grab ที่มาจากประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม Facebook ไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนหรือมูลค่าการลงทุนใน GO-JEK
จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Grab ที่มาจากประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม Facebook ไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนหรือมูลค่าการลงทุนใน GO-JEK
ทั้งนี้ GO-JEK ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยภายใต้ชื่อแบรนด์ GET
วัตถุประสงค์ของการลงทุนครั้งนี้ ก็เพื่อเจาะตลาดอินโดนีเซีย และประเทศในแถบอาเซียนที่ GO-JEK เข้าไปให้บริการ
ผ่านการต่อยอดธุรกิจ WhatsApp ของ Facebook ในการเพิ่มช่องทางการค้าขายออนไลน์ และบริการชำระเงินให้ผู้ใข้งาน
ผ่านการต่อยอดธุรกิจ WhatsApp ของ Facebook ในการเพิ่มช่องทางการค้าขายออนไลน์ และบริการชำระเงินให้ผู้ใข้งาน
“การลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมเป้าหมายที่มีร่วมกันของ Facebook และ GO-JEK
ในการเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจขนาดเล็กนับล้าน และผลักดันผู้คนให้เข้าถึงบริการทางการเงิน”
Matt Idema เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ WhatsApp กล่าว
ในการเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจขนาดเล็กนับล้าน และผลักดันผู้คนให้เข้าถึงบริการทางการเงิน”
Matt Idema เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ WhatsApp กล่าว
“WhatsApp กับ GO-JEK จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็ก สื่อสารกับลูกค้า และสร้างยอดขาย”
“เราเชื่อว่าเราสามารถนำผู้คนหลายล้านคน มาสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตในอินโดนีเซีย”
อินโดนีเซียเป็น 1 ใน 5 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ WhatsApp โดยที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคน
ทั้งนี้ GO-JEK มีนักลงทุนรายใหญ่จำนวนมากที่เคยให้เงินทุนไป
เช่น Google, Temasek Holdings, Mitsubishi, Visa, Tencent, JD.com
ทำให้บริษัทถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 315,500 ล้านบาท
เช่น Google, Temasek Holdings, Mitsubishi, Visa, Tencent, JD.com
ทำให้บริษัทถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 315,500 ล้านบาท
ดังนั้น การเข้ามาลงทุนของ Facebook นอกจากจะทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นแล้ว
ยังอาจดึงดูดนักลงทุนรายอื่นๆ ให้มาสนใจลงทุนใน GO-JEK ตาม Facebook ก็เป็นได้
ยังอาจดึงดูดนักลงทุนรายอื่นๆ ให้มาสนใจลงทุนใน GO-JEK ตาม Facebook ก็เป็นได้
ซึ่งก่อนหน้าที่ Facebook ก็ได้ลงทุนใน Jio Platforms ของอินเดีย เป็นมูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 9.99%
เป้าหมายการลงทุนใน Jio ก็เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าของ Jio มากกว่า 380 ล้านคนในอินเดีย
และยกระดับ WhatsApp ในอินเดีย ให้เป็นแอปอเนกประสงค์ หรือ Super App
ที่ทั้งสื่อสาร, ชอปปิง, เรียกรถ และชำระเงินได้ในแอปเดียว
และยกระดับ WhatsApp ในอินเดีย ให้เป็นแอปอเนกประสงค์ หรือ Super App
ที่ทั้งสื่อสาร, ชอปปิง, เรียกรถ และชำระเงินได้ในแอปเดียว
โดยในอินเดีย มีผู้ใช้งาน WhatsApp มากกว่า 400 ล้านคน
จะเห็นได้ว่า Facebook เริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
ผ่านการร่วมเป็นพันธมิตรกับธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับแพลตฟอร์มของ Facebook
ผ่านการร่วมเป็นพันธมิตรกับธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับแพลตฟอร์มของ Facebook
โดยจะเน้นลงทุนไปยังประเทศที่มีจำนวนประชากรมาก
อินโดนีเซียมีประชากร 273 ล้านคน
อินเดียมีประชากร 1,379 ล้านคน
อินโดนีเซียมีประชากร 273 ล้านคน
อินเดียมีประชากร 1,379 ล้านคน
มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสูง และเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเติบโต
รวมถึงประชาชนในประเทศนั้นๆ นิยมใช้ Facebook หรือ WhatsApp
รวมถึงประชาชนในประเทศนั้นๆ นิยมใช้ Facebook หรือ WhatsApp