เล่าการตลาด After You x Nestlé ทำไอศกรีม รสชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ สองแบรนด์นี้ได้อะไร ?

เล่าการตลาด After You x Nestlé ทำไอศกรีม รสชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ สองแบรนด์นี้ได้อะไร ?

14 ก.ค. 2024
ใครที่เคยไปกิน After You น่าจะเคยสั่งฮันนี่โทสต์ และไม่นานมานี้ After You กับ Nestlé ได้ร่วมกันทำไอศกรีม รสชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ขึ้นมา
และวางจำหน่ายไปทั่วประเทศ เพื่อตีตลาดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นในวงกว้าง
โดยการทำการตลาดร่วมกันระหว่าง 2 แบรนด์แบบนี้ เรียกว่า Partnership Marketing
แล้ว Partnership Marketing คืออะไร ? มีข้อดีอย่างไรบ้าง ?
แล้วทำไม After You กับ Nestlé ถึงเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดรูปแบบนี้ ?
Partnership Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ธุรกิจ 2 ธุรกิจ หรือมากกว่านั้น หรือธุรกิจกับองค์กรอื่น ๆ
ตกลงร่วมกันทำอะไรบางอย่าง เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาดด้วยกัน
ตัวอย่างเช่น
- แบรนด์จับมือกับอินฟลูเอนเซอร์ทำ Affiliate Marketing เพื่อโปรโมตสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- แบรนด์ร่วมมือกับองค์กรการกุศล จัดแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม หรืออื่น ๆ
- แบรนด์ร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ
โดยกลยุทธ์ Partnership Marketing นี้ เป็นกลยุทธ์การตลาดสุดคลาสสิกที่หลาย ๆ แบรนด์ก็เคยทำกัน
ตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็คือ After You กับ Nestlé ร่วมมือกันทำไอศกรีม รสชิบูย่า ฮันนี่โทสต์
ซึ่งการร่วมมือกันระหว่าง After You กับ Nestlé เป็นการร่วมมือกันในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
การทำสินค้า การโปรโมตสินค้า การกระจายและจำหน่ายสินค้าไปทั่วประเทศ
ซึ่งข้อดีของการทำ Partnership Marketing กันระหว่าง After You กับ Nestlé ก็มีหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น
- ช่วยขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น
After You มีฐานลูกค้าเป็นคนที่ชื่นชอบขนมหวานในตลาดพรีเมียม โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและ
คนวัยทำงานที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด
ส่วนลูกค้าของ Nestlé จะเน้นไปที่ตลาดแมส ทำให้เข้าถึงคนทั่วไปมากกว่า จากการที่สินค้าของ Nestlé
มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และวางจำหน่ายทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อและร้านโชห่วยทั่วประเทศ
ดังนั้น เมื่อทั้ง 2 แบรนด์ร่วมมือกันทำสินค้าขึ้นมา จึงทำให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น
และสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) ให้ลูกค้าใหม่ ๆ ได้
- ไม่ต้องลงมือทำเองทุกอย่างทั้งหมด
เมื่อแต่ละแบรนด์ต้องการขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้น ก็ต้องพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ขึ้นมาให้ตอบโจทย์ลูกค้า
แต่อุปสรรคที่น่ากังวลก็คือ การลงไปเล่นในตลาดที่ตัวเองไม่เชี่ยวชาญ
โดย After You คือผู้เชี่ยวชาญด้านขนมหวานในตลาดพรีเมียม
ส่วน Nestlé คือผู้เชี่ยวชาญในสินค้าตลาดแมส เช่น ไอศกรีม กาแฟ น้ำดื่ม
ถ้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งต้องการเจาะตลาดใหม่ด้วยตัวเอง ก็ต้องเริ่มต้นพัฒนาสินค้าใหม่จากศูนย์
ซึ่งความเสี่ยงที่ตามมาก็คือ ถ้าสินค้าไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค แล้วตีตลาดไม่สำเร็จ การลงทุนนั้นก็สูญเปล่า
อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้ง 2 แบรนด์ร่วมมือกัน จะทำให้แบรนด์ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งหมด
และสามารถนำจุดแข็งของตัวเองมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้อย่างเต็มที่
อย่างไอศกรีม รสชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ ก็เกิดจากความเชี่ยวชาญด้านขนมหวานของ After You
กับความเชี่ยวชาญด้านไอศกรีมของ Nestlé ซึ่งเป็นคนละด้านกันนั่นเอง
นอกจากนี้ Nestlé ยังมีความเชี่ยวชาญในการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ เนื่องจากอยู่ในตลาดแมส
จึงทำให้สินค้าถูกกระจายไปขายทั่วประเทศได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วย
- ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ระหว่างกัน
เมื่อธุรกิจมาร่วมมือกันพัฒนาสินค้า ย่อมทำให้แต่ละธุรกิจได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
ในการทำธุรกิจและการพัฒนาสินค้าระหว่างกัน
รวมถึงได้รับข้อมูลอินไซต์ของพาร์ตเนอร์ ที่อาจนำไปต่อยอดการทำธุรกิจใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
- ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับทั้ง 2 แบรนด์
อย่างกรณีนี้ After You ก็มีภาพลักษณ์ที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
และ Nestlé ก็ได้ภาพลักษณ์ของสินค้าระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย..
#PartnershipMarketing
#Nestlé
#AfterYou
______________________
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.