สรุปคำแนะนำ นักการตลาด รับมือความท้าทาย ครึ่งปีหลัง 2024 โดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย

สรุปคำแนะนำ นักการตลาด รับมือความท้าทาย ครึ่งปีหลัง 2024 โดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย

2 ก.ค. 2024
ในวันนี้ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2024
ส่วนจะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น MarketThink สรุปให้อ่านกันในโพสต์นี้..
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ไปจนถึงปีหน้า คนทำธุรกิจ และนักการตลาดจะเจอกับความท้าทายอยู่ด้วยกัน 2 เรื่องหลัก ๆ คือ
1. การเปลี่ยนแปลงของ Megatrend การทำธุรกิจ การตลาด และเทคโนโลยี
ทำให้นักการตลาดต้องปรับตัวตาม Megatrend ที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ
จากยุคอุตสาหกรรมการผลิต ที่การทำตลาดแบบ Physical เน้นปฏิสัมพันธ์แบบพบหน้า และยุคเทคโนโลยีดิจิทัล และสื่อสมัยใหม่ ที่ทำการตลาดแบบ Digital
มาสู่ยุคปัจจุบันที่นักการตลาดต้องทำการตลาดแบบ Immersive ที่ผสมผสานทั้งช่องทางการตลาดแบบ Physical และ Digital เข้าด้วยกัน
รวมถึงใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ และการตลาด ทั้ง AI, IoT, พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีชีวภาพ
2. วิกฤติระยะสั้น ที่นักธุรกิจ และนักการตลาด ต้องเจอในช่วงเวลานี้
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ระบุว่านอกจากเรื่อง Megatrend ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวแล้ว นักการตลาดยังต้องเจอกับความท้าทายจากวิกฤติในระยะสั้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำ
- หนี้สิน และกำลังซื้อของครัวเรือนที่ลดลง
- AI ที่เข้ามากระทบต่อการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน
- ปัญหาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
- การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
แล้วถ้าถามว่า เมื่อคนทำธุรกิจ และนักการตลาดต้องเจอกับความท้าทายหลัก ๆ 2 ข้อนี้ แล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป
สิ่งที่สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยแนะนำ ให้เป็นเหมือนโฟกัสหลักของคนทำธุรกิจ และนักการตลาดไทย ควรทำในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีทั้ง
- การสนับสนุนแนวคิดด้านความยั่งยืน
ทำการตลาดอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Marketing) อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การทำการตลาดแบบฟอกเขียว (Green Washing)
- ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจ
รวมถึงเพื่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ
- ส่งเสริมการทำธุรกิจของ SME ให้มีช่องทางในการขายสินค้าของตัวเอง
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME ไทย
- ให้ความสำคัญกับตลาดเอเชีย
มุ่งเน้นการทำความเข้าใจ และเจาะตลาดเอเชีย ซึ่งกำลังกลายเป็น Hub ของหลาย ๆ อุตสาหกรรม รวมถึงมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่สูง
นอกจากนี้ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ยังได้แนะนำกลยุทธ์ “A-B-C-D-E” สำหรับธุรกิจ SME ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ได้แก่
A - Asia Market
การขยายตลาดสู่ประเทศในเอเชียที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะประเทศในอาเซียน จีน และอินเดีย ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ และการสร้างความสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
B - Branding
สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยสร้างมูลค่า และคุณค่าที่แตกต่าง เน้นการสร้างกำไรจากลูกค้าที่เห็นคุณค่าของแบรนด์ มากกว่าการเน้นยอดขายเพียงอย่างเดียว
C - Collaboration
ใช้กลยุทธ์ Collaboration สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้า และเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน
D - Digital
นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวของการเป็น SME ในการทดลองนวัตกรรมใหม่ ๆ
E - Equity
ดำเนินธุรกิจตามหลักความถูกต้อง เช่น มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม ใช้ระบบบัญชีเดียว เพื่อความโปร่งใสและการเติบโตในอนาคต
ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย แนะนำไปยังนักธุรกิจ และนักการตลาด เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างมูลค่า และคุณค่าให้กับลูกค้า มากกว่าการแข่งขันทางด้านราคา ซึ่งมีความยั่งยืนมากกว่าในระยะยาว
อ้างอิง :
ข้อมูลจากงานแถลงข่าวของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.