วิเคราะห์ We are GEN S แคมเปญที่ทำให้ GC คว้ารางวัล PR Awards Asia-Pacific 2024
5 ก.ค. 2024
เมื่อพูดถึงเรื่อง Generation หลายคนน่าจะนึกถึงคำว่า GEN X, GEN Y หรือ GEN Z ที่ใช้อายุและปีเกิด ในการแบ่งคนแต่ละ GEN ออกจากกัน
ล่าสุด บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ทำแคมเปญโฆษณา We are GEN S ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก จนได้รับรางวัลแคมเปญประชาสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งปี ระดับ Bronze ในกลุ่ม Corporate Brand จากเวที PR Awards Asia-Pacific 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกง
ถ้าถามว่าแคมเปญ We are GEN S มีความน่าสนใจอย่างไร
ทำไม GC จึงได้รางวัลระดับโลก จากแคมเปญนี้
MarketThink วิเคราะห์คำตอบมาให้แล้ว
ทำไม GC จึงได้รางวัลระดับโลก จากแคมเปญนี้
MarketThink วิเคราะห์คำตอบมาให้แล้ว
ต้องบอกก่อนว่า We are GEN S เป็นแคมเปญที่ GC ต้องการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตแบบ Net Zero Lifestyle เพื่อกระตุ้นให้คนหันมาใช้ชีวิตแบบรักษ์โลก และมีความยั่งยืนมากกว่าเดิม
หลายคนอาจสงสัยกันว่า แล้ว GEN S คืออะไร ?
จริง ๆ แล้ว GEN S เป็น GEN ใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดย S ย่อมาจาก Sustainability
ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงคนใน GEN ต่าง ๆ เรามักนึกถึงการแบ่งคนออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามปีเกิดและอายุ
จริง ๆ แล้ว GEN S เป็น GEN ใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดย S ย่อมาจาก Sustainability
ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงคนใน GEN ต่าง ๆ เรามักนึกถึงการแบ่งคนออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามปีเกิดและอายุ
แต่ในแคมเปญ We are GEN S นั้น GC กลับมองว่า ไม่จำเป็นต้องถูกกำหนดด้วยเพศ อาชีพ หรืออายุ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีอายุเท่าไรก็เป็นคน GEN S ได้
เพราะจริง ๆ แล้ว GC มองว่าคน GEN S คือกลุ่มคนที่จะทำหน้าที่กู้โลกเดือด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ให้ใช้ชีวิตแบบไม่ทำลายโลก และสิ่งแวดล้อม เหมาะกับสถานการณ์ภาวะ “โลกเดือด” ที่เป็นที่พูดถึงแทน “โลกร้อน” ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
ซึ่งหากเราดูภาพยนตร์โฆษณาของแคมเปญ We are GEN S ก็จะพบว่า GC เลือกสื่อสารถึงคนทั่วไปได้อย่างถูกจุด เพราะสิ่งที่คน GEN S จะทำเพื่อช่วยโลกได้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้จริงในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ไม่ใช่การทำเรื่องอะไรที่ดูยาก จนคนทั่วไปรู้สึกไม่อยากลงมือทำ
เช่น กินอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง เพื่อลด Food Waste
ปิดน้ำ และถอดปลั๊กไฟ เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำมาใช้ซ้ำ และใช้อย่างคุ้มค่า
รวมถึงการคัดแยกขยะให้ถูกวิธี
ปิดน้ำ และถอดปลั๊กไฟ เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำมาใช้ซ้ำ และใช้อย่างคุ้มค่า
รวมถึงการคัดแยกขยะให้ถูกวิธี
ซึ่งถ้าดูจากการสื่อสาร สิ่งที่ GC ต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับแคมเปญนี้ในระยะสั้นเท่านั้น
เพราะจริง ๆ แล้วสิ่งที่ GC ต้องการสูงสุด คือการทำให้แคมเปญ We are GEN S เข้าไปกระตุ้นให้คนทั่วไปแบบเรา ๆ เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หันไปใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อโลก ซึ่งจะมีความยั่งยืนมากกว่าการสร้างการรับรู้ในระยะสั้น เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในระยะยาว
ที่สำคัญคือ แคมเปญนี้ยังสร้าง Impact ต่อสังคมได้อย่างมหาศาล ด้วยยอดการรับชมภาพยนตร์โฆษณารวมกันกว่า 9.7 ล้านครั้ง
นอกจากนี้ ในอีกมุมหนึ่งสิ่งที่เราเห็น GC ทำ ไม่ได้มีเพียงแคมเปญนี้เท่านั้น เพราะที่ผ่านมา GC ยังลงมือทำจริง ด้วยการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ที่ให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล และเศรษฐกิจ และมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะเห็นได้เลยว่าสิ่งที่ GC ทำ คือการสร้าง Impact ต่อสังคมในระยะยาว ทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มีความรับผิดชอบ สร้างสมดุลที่ยั่งยืนให้กับทุกชีวิต เพื่อส่งต่อโลกใบใหม่ที่ดีกว่าเดิม ให้กับคนรุ่นถัด ๆ ไป
ทั้งหมดนี้ จึงกลายเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมแคมเปญ We are GEN S จึงกลายเป็นแคมเปญประชาสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งปี ระดับ Bronze ในกลุ่ม Corporate Brand เพียงบริษัทเดียวในไทย จากงาน PR Awards Asia-Pacific 2024
ปิดท้ายด้วยกิมมิกที่น่าสนใจ ถ้าใครอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคน GEN S หรือไม่
ลองเข้าไปเช็กความเป็น GEN S ของตัวเองได้
เราเข้าไปลองเล่นมาแล้วที่เว็บไซต์ https://gcgens.com/lifestyle-gen-s/
ลองเข้าไปเช็กความเป็น GEN S ของตัวเองได้
เราเข้าไปลองเล่นมาแล้วที่เว็บไซต์ https://gcgens.com/lifestyle-gen-s/
#GC
#WeAreGENS
#GenerationSustainability
#GENS
#คนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน
#PRAwardsAsia-Pacific2024
#WeAreGENS
#GenerationSustainability
#GENS
#คนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน
#PRAwardsAsia-Pacific2024