สรุป ไฮไลต์ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” โฉมใหม่ มีอะไรน่าไปเช็กอิน
3 เม.ย. 2024
เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” โฉมใหม่ ที่ต้องบอกว่า ยิ่งใหญ่สมกับเป็นจิกซอว์สำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
สิ่งที่น่าสนใจ คือ การรีโนเวต “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การทำให้ศูนย์การค้าดูใหม่ หรือทันสมัยขึ้นเท่านั้น
แต่เป็นการสลัดภาพของศูนย์การค้าแบบเดิม ๆ ที่ลูกค้ามักจะแวะมาจับจ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือรับประทานอาหาร สู่รีเทลโมเดลใหม่ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจนในหลากหลายมิติ
ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามความตั้งใจของเดอะมอลล์ ที่ตัดสินใจลุกขึ้นมา Rebranding ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปี
โดยปรับคอนเซปต์ของเดอะมอลล์ จากอาณาจักรแห่งความสุขทุกครอบครัว สู่ “A Happy Place to Live Life : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เราจะเห็นเดอะมอลล์ มีการทยอยเปิดตัวเดอะมอลล์ เวอร์ชันใหม่ไปแล้ว ตั้งแต่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ตามมาด้วย เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
ล่าสุด ถึงคิวของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค
ซึ่งต้องบอกว่า ภายใต้คอนเซปต์เดียวกัน แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่าง
เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า การรีโนเวตครั้งนี้ มีความหมายกับเดอะมอลล์มากขนาดไหน จึงไม่แปลก ที่ทำไมครั้งนี้ เดอะมอลล์เล่นใหญ่ ตั้งใจเนรมิตพื้นที่ รวมกว่า 350,000 ตารางเมตร ให้ทุกตารางเมตรเต็มไปด้วยความพิเศษ
“เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค พลิกโฉมจากเดิมไปประมาณ 70% มีทั้งสิ่งที่เราเก็บไว้และเติมเข้ามา
ไอเดียของเราตั้งต้นจากกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวที่ค่อนข้างมีรายได้ดี มีตั้งแต่ครอบครัวคนจีนไปจนถึงเจ้าของกิจการ
โดยลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นแบบคละเจน มีตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ และวัยเกษียณ ตัวเลขการใช้จ่ายต่อบิล (Spending Ticket) จึงออกมาค่อนข้างสูง”
คุณแหม่ม-วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพให้เห็นเบื้องหลังการพลิกโฉมครั้งสำคัญของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค
“แต่ก่อนถ้าพูดถึง ตัวเลขการใช้จ่ายต่อบิล เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน มาเป็นอันดับ 1 ถ้าเป็นเรื่อง Traffic หรือจำนวนคนที่เข้ามาเดินในศูนย์การค้า เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ มาเป็นอันดับ 1
แต่หลังจากรีโนเวต กลายเป็นว่า ตัวเลขการใช้จ่ายต่อบิลของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ตีคู่มาแบบสูสีกับเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน เพราะเรามีการอัปแบรนด์ที่พรีเมียมเข้ามา บวกกับเพิ่มความหลากหลายของแบรนด์ทั้งในส่วนของร้านค้าและร้านอาหาร
ส่วนเรื่อง Traffic มาเป็นอันดับ 2 รองจากเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
โดยตั้งเป้าว่า หากเปิดสมบูรณ์ 100% จะมีลูกค้ามาใช้บริการวันธรรมดา ประมาณ 70,000 คน และวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 80,000 คน
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือ แต่ก่อนลูกค้าแค่มากินข้าว หรือเดินซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วกลับ อาจจะมีช็อปปิงบ้างเล็กน้อย แต่ตอนนี้ กลายเป็นว่ามาทำทุกอย่าง ทั้งกิน ทั้งชิล และช็อป เพราะอย่างที่บอกว่า โฉมใหม่เราจัดเต็มทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และแบรนด์ดัง
เรียกว่า มาช็อปได้เพลิน ๆ ถ้าไม่ได้เน้นช็อปแบรนด์เนม มาที่นี่เรามีครบ”
งานนี้ สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น MarketThink เลยถือโอกาสไปทัวร์เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค
และสรุปเป็น 5 ไฮไลต์เด่น ๆ ที่คิดว่าน่าจะทำให้ทุกคนอยากหาเวลามาเช็กอิน
เริ่มจากใครที่เป็นสายชอบถ่ายรูป รักการทำคอนเมนต์ลงโซเชียล หรือชอบธรรมชาติ
มาที่นี่รับรองไม่ได้กลับบ้านไปมือเปล่า
เพราะมีโซนให้ถ่ายรูปอยู่หลายจุด โดยเฉพาะโซนไฮไลต์ อย่าง Nature Waterfalls Canal มีพื้นที่รวมกว่า 1,200 ตารางเมตร
จริง ๆ แล้ว น้ำตกนี้อยู่คู่กับศูนย์การค้ามาแต่แรก แต่ครั้งนี้ มีการรีโนเวตให้สวยงาม น่ามองขึ้นไปอีก จนเชื่อว่า ใครที่มาเช็กอินต้องสะดุดตากับแลนด์มาร์กนี้อย่างแน่นอน
นอกจากน้ำตกที่เป็นไฮไลต์ ทางศูนย์การค้ายังตั้งใจนำความร่มรื่นของธรรมชาติ เข้ามาผสานกับไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว เนรมิตพื้นที่ M Green Park บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ให้ลูกค้าได้มาเดินเล่น นั่งพักผ่อนแบบชิล ๆ
ส่วนใครที่เป็นสายกิน บอกเลยที่นี่คือสวรรค์ของนักชิม
เพราะการกลับมาครั้งนี้ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค จัดเต็มด้วยการรวบรวมอาณาจักรร้านอาหารชั้นนำ และสตรีตฟูดรสเลิศกว่า 500 ร้าน มารวมไว้ที่เดียวอย่างครบครัน
เรียกได้ว่าไม่ต้องฝ่ารถติดเข้าเมือง ก็มีร้านอร่อย ร้านดังให้ได้ฟินแบบไม่เบื่อ นอกจากสายกินจะฟินแล้ว สายช็อปก็ไม่น้อยหน้า
เพราะเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ระดมแบรนด์ดังกว่า 10,000 แบรนด์ มาให้ช็อปเพลินแบบไม่สะดุด ทั้งแบรนด์แฟชั่น ความงามชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งร้านดังจากออนไลน์มาให้ช็อป จัดเต็มทั้งห้างและศูนย์การค้า
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์ของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ที่ต้องบอกว่าเป็นเดสทิเนชันที่ใช่ ของเหล่า Pet Parents
เอาใจเหล่าทาสสัตว์เลี้ยง ด้วยการเนรมิต Playground กว่า 1,000 ตารางเมตร ให้น้องหมาและสัตว์เลี้ยงแสนรัก ได้มาปล่อยจอยในบรรยากาศร่มรื่นสีเขียว แถมยังมีห้องน้ำเฉพาะให้น้องเข้าอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ ใครอยากพาน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงเดินเที่ยวเล่นในห้างด้วยกันก็ทำได้ โดยทางห้างจะมีรถเข็นไว้บริการ
ปิดท้ายด้วยความพิเศษของเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ที่โดนใจทุกเจน ในฐานะศูนย์รวมทุกความบันเทิง แบบเต็มแม็กซ์ จัดเต็มทั้งโรงหนัง SF Cinema ที่พร้อมมอบความบันเทิงแบบไร้ขีดจำกัด, MCC HALL พื้นที่รองรับบิ๊กอิเวนต์มากมาย ให้ทุกคนได้มาสนุกแบบไม่มีเบื่อ
ที่พลาดไม่ได้ คือ “MEGA HarborLand” (เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์)
อย่างที่รู้ว่า หนึ่งในซิกเนเชอร์ของกลุ่มเดอะมอลล์ คือ สวนน้ำ
แต่ครั้งนี้แทนที่จะบริหารเอง ทางศูนย์การค้าให้พาร์ตเนอร์ระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำสวนสนุกมาเพิ่มความปัง ด้วยการออกแบบสวนสนุกในรูปแบบใหม่ที่เป็นเซมิเอาต์ดอร์
ประกอบด้วย “Outdoor Playground” สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง และ “Harbor Island” สวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ตกแต่งในธีม “AQUA WORLD” มหานครหฤหรรษ์มหัศจรรย์ใต้สมุทร
อย่างไรก็ตาม ใครที่อยากมาปล่อยจอยที่เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ อาจจะยังต้องอดใจรออีกนิด เพราะจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพิเศษ ที่จะได้เจอใน “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค”
ซึ่งตอนนี้แล้วเสร็จไปแล้วประมาณ 90% และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ 100% ประมาณเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
เอาเป็นว่า สุดสัปดาห์หรือหยุดยาวนี้ ใครยังไม่มีแผนไปไหน
อย่าพลาดแวะมาเช็กอินที่ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” เพื่อพบกับประสบการณ์ใหม่ที่คาดไม่ถึง
ที่สำคัญ แวะมาตอนนี้ ยังมีแต่คุ้มกับคุ้ม
เพราะนอกจาก “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” จะเป็นเดสทิเนชันใหม่ที่กำลัง Upcoming ช่วงนี้ทางศูนย์การค้ายังมีโปรโมชันเด็ด ๆ มาให้ช็อป กิน ชิล แบบฉ่ำ ๆ
ที่สำคัญ การเดินทางมาที่นี่ ยังสะดวกมาก ไม่ว่าจะขับรถมาเอง ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถ เพราะมีพื้นที่จอดรถรองรับได้ถึง 4,000 คัน หรือจะมาด้วย MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีหลักสอง เชื่อมเข้าศูนย์การค้า สะดวกสบายตอบโจทย์ทุกคนแบบแท้ทรู
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.themallgroup.com, Facebook : The Mall Group