สรุปบิ๊กโปรเจกต์ The Touch Group กับการขยายธุรกิจให้เป็นมากกว่า คลินิกเสริมความงาม

การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในหลายประเทศ
รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาให้ความสนใจในการดูแลบุคลิกภาพมากขึ้น
ทำให้ “สุขภาพและความงาม” กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรง ทั้งในไทยและทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะมีธุรกิจสุขภาพและความงาม หรือบริการด้านการแพทย์ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อตอบรับเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโต

หนึ่งในนั้นก็คือ “The Touch Group” ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน
จนปัจจุบันขึ้นแท่นเป็น ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพและเสริมความงามแบบครบวงจรของคนไทย
ด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจ ที่ครอบคลุมบริการต่าง ๆ มากมาย

โดยในปีนี้ The Touch Group ก็ยังมีบิ๊กโปรเจกต์ใหม่ ๆ
อย่าง Dr.Touchh และ The Touch Agent ที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำของบริษัทอย่างแท้จริง

แล้วบิ๊กโปรเจกต์ใหม่ที่ว่านี้ จะตอกย้ำความเป็นผู้นำของ The Touch Group ได้อย่างไร ?

The Touch Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2555
เนื่องจากเห็นโอกาสในตลาดสุขภาพและความงาม ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนั้น
จึงเกิดเป็น “The Touch Clinic” ในฐานะคลินิกเสริมความงาม ที่หลาย ๆ คนคงคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่ความสวยงามจากภายนอกเพียงอย่างเดียว
แต่ยังต้องการบริการใหม่ ๆ ที่จะช่วยดูแลสุขภาพ ให้ดูดีทั้งภายนอกและภายใน

ด้วยเหตุนี้ The Touch Group จึงขยายธุรกิจให้เป็นมากกว่าแค่คลินิกเสริมความงาม..

แล้วธุรกิจของ The Touch Group ในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง ?

1. The Touch Clinic ศูนย์สุขภาพและความงามแบบครบวงจร
ที่มีโปรแกรมให้บริการมากกว่า 100 โปรแกรม ครอบคลุมทุกปัญหาผิวและสุขภาพ

ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมยกกระชับใบหน้า หน้าเรียว, โปรแกรมหน้าใส ไร้สิว, โปรแกรมพรีเมียม ที่ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก และโปรแกรมลดรูปร่าง กระชับสัดส่วน

ล่าสุด ยังมีการขยายบริการใหม่อย่าง โปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน หรือ “Longevity”
ซึ่งเน้นการดูแลที่เข้าไปป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีอายุยืนยาวแบบมีคุณภาพในระยะยาว

ยกตัวอย่างเช่น

- Liver Therapy ช่วยบำรุง ปกป้อง ดูแลตับ และขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย

- Better Sleep Formula ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ นอนหลับยาก ช่วยให้หลับลึกมากขึ้น

- Brain Booster โปรแกรมช่วยลดอาการเหนื่อยล้าของสมองและร่างกาย

ต้องบอกว่า ด้วยจุดเด่นของ The Touch Group ที่มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
จึงเป็นข้อดีที่ทำให้ The Touch Clinic สามารถให้บริการได้แบบ “Personalize” ช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพและความงามให้ลูกค้าแต่ละคน ได้อย่างตรงจุด

จนทำให้ The Touch Clinic มีลูกค้าที่ไว้วางใจ และเข้าใช้บริการเกือบ 100,000 คนต่อปี เลยทีเดียว..

2. Dr.Touchh

หลังจากที่ The Touch Group ให้บริการ The Touch Clinic มาเป็นระยะเวลา 12 ปี
จนมีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์จนรู้อินไซต์ด้านผิวของคนไทยเป็นอย่างดีแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ The Touch Group จึงมีการเปิดตัวบิ๊กโปรเจกต์อย่าง “Dr.Touchh”
แบรนด์เวชสำอางที่มีจุดเด่น คือ คิดค้นโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ, คัดสรรสารสกัดที่การันตีด้วยรางวัลระดับโลก และผ่านการทดสอบแล้วว่า ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว

จึงมั่นใจได้ว่า Dr.Touchh เป็นแบรนด์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Dr.Touchh ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เช่น

- Feminine Cleanser ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้หญิง
ที่ช่วยปรับสมดุล pH-Balance กระตุ้นคอลลาเจน ลดการสะสมของแบคทีเรีย ช่วยคืนความมั่นใจและสุขภาพที่ดีให้กับจุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิง

- นวัตกรรมเม็ดฟู่ ABC ที่ช่วยดูแลสุขภาพ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งผลิตและนำเข้าจากประเทศเยอรมนี

3. The Touch Agent

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ธุรกิจสุขภาพและเสริมความงาม เป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโต
ซึ่ง The Touch Group มีจุดเริ่มต้นจากการ “คว้าโอกาส” กระโดดเข้าสู่เมกะเทรนด์นี้เมื่อ 12 ปีก่อน จนเติบโตและก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด

จุดนี้เองที่ผู้บริหาร The Touch Group มองว่า บริษัทไม่เพียงแต่คว้าโอกาส
แต่ยังอยาก “สร้างโอกาส สร้างอาชีพ และเปลี่ยนคุณภาพชีวิต” ให้กับคนไทยทุกคน

จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจกต์ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง “The Touch Agent”

อธิบายง่าย ๆ The Touch Agent เปรียบเสมือนเป็น นักธุรกิจ ที่ปรึกษา คอยช่วยแนะนำหรือบอกต่อโปรแกรมสุขภาพและความงามต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่สนใจจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการ

ซึ่ง The Touch Group ได้มีการพัฒนาระบบหลังบ้านรองรับ และทุ่มทุนพัฒนาระบบเว็บไซต์
ทำให้สามารถทำการซื้อ-ขาย และแนะนำบริการ ได้ทุกที่ ไม่ว่า The Touch Agent หรือลูกค้าจะอยู่ที่ไหนทั่วทุกมุมโลกก็ตาม..

มาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า The Touch Group มีธุรกิจอะไรบ้าง

หากให้สรุปสั้น ๆ The Touch Group เริ่มจากธุรกิจเสริมความงาม
ต่อมามีการขยายธุรกิจต่าง ๆ มากขึ้น เช่น The Touch Clinic ขยายสู่ศูนย์ดูแลสุขภาพและความงาม, Dr.Touchh แบรนด์เวชสำอาง และ The Touch Agent ตัวแทนขายอิสระ

ปัจจุบัน The Touch Clinic มีด้วยกัน 10 สาขา
ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว 1, สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว 2, เซ็นทรัล บางนา, เดอะมอลล์ บางแค, เซ็นทรัล พระราม 2, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เดอะ พรอมานาด

โดยมี 2 สาขาที่เป็นศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร (The Touch Wellness and Beauty Center) ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เลียบด่วน-รามอินทรา และสาขาสยามสแควร์ ซอย 2

ซึ่งในปี 2567 นี้ The Touch Group ยังดำเนินธุรกิจโดยมุ่งมั่นให้ทุกคนมีสุขภาพดีไปด้วยกัน
จึงตั้งเป้าขยายสาขา The Touch Wellness ให้ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล

สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่า จุดมุ่งหมายของการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ของ The Touch Group

หลัก ๆ นอกจากจะเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าแล้ว
ยังเป็นการตอกย้ำว่า The Touch Group ไม่ได้เป็นเพียงแค่คลินิกเสริมความงาม
แต่เป็น “ผู้นำ” ในธุรกิจสุขภาพและความงาม ที่มีสินค้าและบริการต่าง ๆ ครอบคลุมแบบครบวงจรนั่นเอง..

#Thetouchgroup
#สื่อThetouchgroup
#TTGgroup