Frasers Property เผยกลยุทธ์เปลี่ยนธุรกิจ สู่ “Real Estate as a Service Brand”    ตั้งเป้ามีรายได้ 30,000 ล้านบาท ใน 3 ปี

Frasers Property เผยกลยุทธ์เปลี่ยนธุรกิจ สู่ “Real Estate as a Service Brand” ตั้งเป้ามีรายได้ 30,000 ล้านบาท ใน 3 ปี

23 ม.ค. 2024
วันนี้บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้บริหารอาคารสำนักงานชั้นนำอย่าง สามย่านมิตรทาวน์, FYI Center และอาคารสำนักงานชั้นนำอีกหลายแห่ง
ได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวเพื่อสรุปภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีที่แล้ว รวมไปถึงแผนธุรกิจในที่น่าสนใจในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
ซึ่งทางทีมงาน MarketThink ได้มีโอกาสไปร่วมงานดังกล่าว
เลยถือโอกาสนี้ มาสรุปสิ่งที่น่าสนใจมาให้ฟังกันแบบเข้าใจง่าย ๆ
-ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในมุมมองของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นอย่างไร ?
คุณธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มองว่า
อสังหาฯ ปีนี้ จะได้รับแรงขับเคลื่อนเชิงบวกมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทำให้ภาคเอกชนมีการบริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ประกอบกับภาครัฐที่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาด
เช่นการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง
รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่หลั่งไหลตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ก็ยังทำให้ตลาดอสังหาริมารัพย์ ยังคงเติบโตได้อยู่
แต่ข้อควรระวังก็ยังเป็นเรื่องของเศรษฐกิจในภาพใหญ่ เช่น
ภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน
ซึ่งอาจทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ยากขึ้น และอาจจะกระทบกับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้
ดังนั้นกลยุทธ์ในปีนี้จึงควรเน้นไปที่ความยืดหยุ่น
ต้องมีธุรกิจที่หลากหลาย และที่สำคัญเลยคือต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน
-สำหรับผลประกอบการของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายประเภท
ตั้งแต่บ้าน, อาคารสำนักงาน, พื้นที่ทำอุตสหกรรม และธุรกิจโรงแรม
โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
มีรายได้ 16,809 ล้านบาท กำไร 1,851 ล้านบาท
ธุรกิจที่อยู่อาศัยมียอด Pre-sale ทั้งสิ้น 12,190 ล้านบาท
ลดลง 8.3% ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา
และมียอดโอนรวมกันทั้งสิ้น 11,004 ล้านบาทลดลง 3.6% ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจอาคารสำนักงานมีอัตรการเช่า (Occupancy rate) 93%
ธุรกิจโรงแรมมีอัตรการเช่า (Occupancy rate) 72%
ธุรกิจพื้นที่อุตสาหกรรมมีอัตรการเช่า (Occupancy rate) 86% คิดเป็น All-Time-High ของบริษัท
และในอีก 3 ปีทางทีมผู้บริหารตั้งเป้าไว้ว่าบริษัทจะมีรายได้ทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท
โดยแบ่งออกเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้จากการขายและรายได้ประจำในสัดส่วนที่ 40:60
-แล้วกลยุทธ์หลักของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในปีหน้ามีอะไรบ้าง ?
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ บอกว่าจะยังคงดำเนินการตามกลยุทธ์ “Real Estate as a Service Brand” ตามโรดแมป FPT Next 2025
ซึ่งจะเป็นการส่งมอบ “การบริการ” ที่เหนือกว่าให้กับ 3 กลุ่มธุรกิจ ทั้งที่อยู่อาศัย-อุตสาหกรรม-พาณิชยกรรม
เพื่อรองรับทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและผู้ใช้งาน
พร้อมยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้สูงขึ้นไปอีก..
Space-as-a-Service: พัฒนาพื้นที่พร้อมการบริการแบบครบครัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
พัฒนาอาคารสำนักงานด้วยแนวคิด Core & Flex ให้บริการพื้นที่แบบมาตรฐานและยืดหยุ่น
รวมถึงสำนักงานตกแต่งเบ็ดเสร็จพร้อมเข้าทำงานโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม
ภายใต้ชื่อบริการ PromptMove-พร้อมมูฟ ตอบรับดีมานด์ผู้เช่าหลากหลายเซ็กเมนต์
พร้อมยังมีการออกแบบอาคารอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ และฟังก์ชันที่สอดรับกับทุกรูปแบบธุรกิจของลูกค้า
ยกตัวอย่างเช่นที่ผ่านมาทางบริษัทก็มีการพัฒนา Last Mile Delivery Center ให้กับลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์
รวมถึงมีการอัพเกรดแอปพลิเคชัน Home+ ที่ผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ พร้อมให้บริการลูกค้าครบวงจรตั้งแต่การขายถึงการอยู่อาศัย
2.Community-as-a-Service: สร้างสรรค์พื้นที่คุณภาพเพื่อทุกรูปแบบการใช้ชีวิต
นอกจากจะพัฒนาพื้นที่ของตัวเองแล้ว เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้
ยังมุ่งพัฒนาชุมชนโดยรอบไปพร้อม ๆ กัน
ยกตัวอย่างเช่นที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับปรุงคุณภาพโลจิสติกส์พาร์ค
ผ่านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น สนามฟุตบอล ลู่วิ่ง และ อื่น ๆ
ที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้คนโดยรอบดีขึ้น
3.Sustainability-as-a-Service: สนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนทุกมิติอย่างต่อเนื่อง
โดยทุกอาคารอุตสาหกรรมที่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ บริหาร
จะได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากล
จนผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED และ EDGE ไปแล้วกว่า 500,000 ตารางเมตร
ขณะเดียวกัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ก็เดินหน้าปรับปรุงคุณภาพอาคารเดิมผ่านโครงการ AEI (Asset Enhancement Initiative) ของอาคารโรงงาน-คลังสินค้า และอาคารสำนักงาน อย่างต่อเนื่อง
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้อาคาร และรักษามาตรฐานการให้บริการไว้ในระดับสูง
ขณะที่ที่อยู่อาศัยก็ได้มีการผสมผสานฟีเจอร์บ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
เช่น ระบบระบายอากาศ ERV การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และ EV Charger เป็นต้น
สุดท้ายนี้ คุณธนพลได้กล่าวปิดท้ายไว้ว่า การเป็น Real Estate as a Service Brand
จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งและเสริมโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจอย่างโดดเด่นจากผู้เล่นรายอื่นในตลาด
พร้อมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เทียบเท่าระดับสากล..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.